ในเกมที่มีโอกาสเสียว น้อยครั้ง กว่าที่จะมีการยิงเข้ากรอบครั้งแรกของเกม ต้องรอกระทั่งนาทีที่ 82 เลยทีเดียวจาก เฆซุส นาบาส ตัวสำรอง "เรือใบสีฟ้า"
อย่างไรก็ดี ฝั่ง "ปีศาจแดง" มีโอกาสใกล้เคียงกับการเป็นผู้ชนะมากกว่า เมื่อตัวสำรอง เจสซี่ ลินการ์ด ดีดบอลไปชนคาน ขณะที่ คริส สมอลลิ่ง ซัดเกือบเสียบโคนเสา ทว่าโดน โจ ฮาร์ท ปฏิเสธหวุดหวิด
ต่อไปนี้คือเก็บตก 5 เรื่องน่าคิดจากเกมใหญ่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา...
1) นักเตะแพงไม่ได้การันตีความบันเทิง
นี่คือเกมที่มีนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลี กกว่า 540 ล้านปอนด์ แต่กลับไม่ได้สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมเลย ด้วยคุณภาพฟุตบอลที่สวนทาง
นัดนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 เลยทีเดียวที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีจังหวะยิงประตูแม้แต่ครั้งเดียวในครึ่งแรกของพรีเมียร์ลีก ส่วน แมนฯ ซิตี้ เพิ่งได้มีเอี่ยวกับเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 61 นัดในลีก หนล่าสุดคือเดือน ก.พ. 2014 โน่นเลยทีเดียว
2) อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เสียของถ้าต้องยืนปีกจริงๆ
ดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ทำผลงานได้เฉียบขาดกับบทบาทหอกเป้าในช่วงที่แรกที่เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่น่าเสียดายที่พักหลัง หลุยส์ ฟาน กัล จับเขาไปยืนริมเส้นฝั่งซ้าย พร้อมมอบหน้าที่เพชฌฆาตให้ เวย์น รูนี่ย์ ซึ่งถือว่าเสียของ เพราะ มาร์กซิยาล น่าจะมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพตัวเองเล่นงานคู่ต่อสู้ได้มากกว่านี้
ขนาดที่ไม่ได้เป็นศูนย์หน้าเมื่อวันอาทิตย์ ทว่าทางโฆษกสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยังประกาศว่า เขาได้โหวตเป็น แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ โดยครึ่งแรกที่ยืนทางซ้าย "น้องหมาก" เรียกฟาวล์ได้ถึง 3 ครั้ง
3) ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังไม่ฉายฟอร์มในเกมใหญ่
นักเตะค่าตัว 49 ล้านปอนด์ แต่ต้องโดนเปลี่ยนออกจากสนามในนาทีที่ 55 หลังจากที่แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลย ไม่เหมือนนัดก่อนที่ระเบิดแฮตทริกใส่น้องใหม่ บอร์นมัธ อย่างสิ้นเชิง
4) ฟิล โจนส์ เปิดเกมไม่เป็น
อดีตกองหลังที่แฟนผีเคยยกให้เป็น "ว่าที่ ดันแคน เอ๊ดเวิร์ดส์" ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่รุดหน้าเหมือนคู่หู คริส สมอลลิ่ง เลย หลายๆ จังหวะในการเปิดเกมของเขาน่าผิดหวังมาก เมื่อจ่ายบอลแทบไม่เข้าเป้า โดยเฉพาะครึ่งแรก
5) "เสี่ยหมู"... Where are you?
รูนี่ย์ ในวัย 30 หยกๆ เมื่อ 24 ต.ค. ทำผลงานได้น่าผิดหวังอีกครั้ง ช่างต่างกับศึกผ่าเมืองเมื่อปี 2011 ที่เขาตีลีงกายิงประตูในตำนานใส่พวกซิตี้เสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เขาคือนักเตะที่ยิงประตูสูงสุดในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ 11 ลูก
การจับบอลไม่นิ่ง สปีดไม่มี แทบไม่สามารถเอาชนะ แว็งซ็อง ก็องปานี กัปตันทีมเยือนได้เลย ทุกๆ ปี "เสี่ยหมู" จะมีช็อตบอกโลกว่า เขาเป็นผู้เล่นพรสวรรค์สูงเสมอ อย่างปีก่อนก็มีลูกวอลเล่ย์สุดงามใส่ เวสต์แฮม ทว่าปีนี้ แฟนผียังคงเฝ้ารออยู่
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
Tags:
"เสี่ยหมู"... Where are you? อิอิ ยังดีนะที่ไม่มีพูดถึงกองหน้าฝั่งเราอย่างโบนี่บ้าง
เค้าลืมข้อที่ 6 ได้อย่างไรครับ โบกาก อะดิเดินเล่นตูดงานแทะเลมหญ้าอยู่ในสนามตลอดยังได้รับความไว้ใจจากท่าน เปเย
โชคดีที่เขาใช้หมู ไม่ใช้มาเที่ยวยืนหน้าเลยไม่ค่อยเท่าไหร่
เกมที่สู้กันด้วยมันสมองมักจะไม่มันส์
รูน โบนี่ ไฮไลท์ของเกมนี้เลย
เสี่ยหมูเรียกแบบไม่คิดถึงวันท่เขาเล่นดีเลยเด็กผี
โอกาสแทบจะยิงประตูกันจังๆ ให้ ดาบิด เด เคอา หรือ โจ ฮาร์ท ออกแรงเซฟแทบไม่มีให้เห็นกันเลย
หมดสภาพแล้วมั้ง อิอิ
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by