ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 นัดที่ 14 แข่งกันครบ 10 คู่ มีเสมอกันถึง 5 คู่เลยทีเดียว ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงกลับขึ้นจ่าฝูงได้แล้ว ส่วนพลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล ขยับมาอยู่อันดับ 6 ได้สำเร็จ ขณะที่ 11 แข้งยอดเยี่ยม ในสัปดาห์นี้ ปรับมาใช้ระบบ 3-5-2 ตามความเหมาะสม…
ผู้รักษาประตู
วิลลี กาบาเยโร (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
นายทวารโล้นซ่าชาวอาร์เจนตินา ได้ลงเฝ้าเสาเป็นนัดที่ 2 ของฤดูกาล แต่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยป้องกันจังหวะการทำประตูของแข้งนักบุญได้หลายต่อหลายครั้ง
กองหลัง
อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
นอกจากช่วยเกมรับได้ดีแล้ว แบ็คซ้ายชาวเซอร์เบีย ยังลุยขึ้นสูงมาทำประตูที่ 2 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นประตูปิดท้ายให้ทัพเรือใบสีฟ้า เปิดอู่ทุบนักบุญ 3-1 อีกด้วย
นิโคลัส โอตาเมนดี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ปราการหลังคนใหม่ชาวอาร์เจนตินา ยืนคุมเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง ต้านทานเกมบุกของแข้งนักบุญได้เป็นอย่างดี ก่อนจะช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มในบ้าน
เดเมียน เดลานีย์ (คริสตัล พาเลซ)
กองหลังจอมเก๋าชาวไอริช ทำหน้าที่ในเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งยังเติมเกมบุกตลอดเวลาที่มีโอกาส ทำให้ช่วงต้นครึ่งหลัง สามารถผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูที่ 4 ของเกม ก่อนจะเอาชนะฝูงสาลิกาดงไปอย่างขาดลอย 5-1
กองกลาง
แพทริค ฟาน อานโฮลท์ (ซันเดอร์แลนด์)
แข้งผิวสีชาวดัตช์ ถูกขยับจากตำแหน่งกองหลังมาเล่นกองกลางในนัดนี้ ก็เค้นฟอร์มเก่งออกมาทันที ด้วยการทำประตูแรกของตัวเองในชุดแมวดำได้สำเร็จ ซึ่งเป็นประตูขึ้นนำ ก่อนจะเอาชนะช่างปั้นหม้ด 2-0 หนีพื้นที่ตกชั้นได้สำเร็จ
เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (คริสตัล พาเลซ)
กองกลางเลือดวิสกี้ ประเดิมประตูแรกของตัวเองในฤดูกาลนี้ได้สักที โดยนัดนี้เหมาคนเดียวถึง 2 ประตูเลยทีเดียว ช่วยให้อินทรีผงาดเปิดรังถล่มคู่แข่งไปยับเยิน 5-1 และขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 7
ยันนิค โบลาซี (คริสตัล พาเลซ)
กลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย สำหรับแข้งผิวสีชาวคองโก ดีอาร์ รายนี้ โดยนัดนี้เหมาคนเดียวอีก 2 ประตู รวมซัดไปแล้ว 4 ประตูในฤดูกาลนี้ เล่นดีแบบนี้ ถ้าไม่รีบต่อสัญญา เจอทีมใหญ่ดูดไปแน่นอน
เควิน เดอ บรุน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
กองกลางจอมเทคนิคชาวเบลเยียม ซัดประตูเบิกร่องตั้งแต่ต้นเกม ช่วยลดความกดดันของทีม จากนั้นยังแผลงฤทธิ์ผ่านบอลให้เพื่อนทำอีก 2 ประตู ก่อนที่ทัพเรือใบสีฟ้าพิชิตเซาแธมป์ตัน 3-1 ผงาดกลับมานั่งแท่นจ่าฝูงอีกครั้ง
เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล)
กองกลางและกัปตันทีมหงส์แดง เป็นคนสังหารจุดโทษ ซึ่งเป็นประตูสำคัญช่วยให้ต้นสังกัดเฉือนชนะพลพรรคหงส์ขาว ไปแบบหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญช่วยให้ทีมขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 6 และมีแต้มห่างจากอันดับ 4 ที่มีสิทธิ์ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เพียง 4 แต้มเท่านั้น
กองหน้า
โอเดียน อิกาโล (วัตฟอร์ด)
ดาวยิงผิวสีชาวไนจีเรีย ทำประตูที่ 8 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ ช่วยให้ฝูงแตนอาละวาดบุกมาเฉือนชนะวิลลาไปอย่างสุดมัน 3-2
ทรอย ดีนีย์ (วัตฟอร์ด)
กองหน้าผิวสีชาวอังกฤษ ไม่ยอมน้อยหน้าเพื่อนร่วมทีม โดยอัดไป 1 ประตูเช่นกัน เป็นประตูที่ 4 ในฤดูกาลนี้ และช่วยให้ต้นสังกัดบุกมาเก็บ 3 แต้มจากถิ่นวิลลา พาร์ค กลับบ้านได้สำเร็จ
ผู้จัดการทีม
เยอร์เกน คลอปป์ (ลิเวอร์พูล)
กุนซือชาวเยอรมันคนแรกแห่งถิ่นแอนฟิลด์ คุมทัพหงส์แดงเล่นเกมลีก 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 1 และแพ้ 1 เก็บ 10 แต้ม โดยล่าสุดเอาชนะสวอนซี ซิตี้ 1-0 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ได้แล้วในตอนนี้ หากรักษาฟอร์มดีต่อเนื่องก็อาจมีลุ้นเข้าท็อปโฟร์ก่อนสิ้นปีนี้
ตัวสำรอง
คอสเทล ปันติลิมอน, มาร์ติน เดมิเคลิส, เคร็ก แคธคาร์ท, ฟาเบียน เดลฟ์, ดันแคน วัตมอร์, วิลฟรีด ซาฮา, คอนเนอร์ วิคแคม
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.thairath.co.th ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th
Tags:
เดลฟผมละ เล่นดีมากนะ
ไม่ติดมาสองนัดคราวนี้เพียบ
กาบาเยโร่แทนฮาร์ทได้ค่อยสบายใจโล่งหน่อย
....รอมานานเหมือนหวยอั้น.......
สำหรับผมคิดว่า ฟาเบียน เดลฟ์ น่าจะมีรายชื่อติดตัวจริงมากกว่าสำรองนะครับ
ทำไมไม่มีโบนี่???
มีอดีตเด็กแมนซิอีกคนนะ่ฮะ มิลเนอร์ ฮรี่ๆๆ
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by