นี่คือแมนซิตี้
เปเยกรินี่ เป็นอันเก้าอี้ต้องลุกเป็นไฟอีกครั้งเพราะดูเหมือนข่าวของยอดกุนซือเป๊ป กวาดิโอล่านับวันยิ่งมีแนวโน้มหนักมากขึ้นกับการที่เจ้าตัวมีข่าวหนาหูมากว่าจะเข้ามาเป็นบอสคนใหม่ของถิ่น เอติฮัท สเตเดี้ยม
ข่าวลือเริ่มจะหนาหูขึ้นเรื่อยๆครับหลังจากมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ออกมาบอกว่าตัวเป็ปเองยืนยันแล้วครับว่าเจ้าตัวไม่อยู่คุมบาร์เยินต่อแน่นอนหลังจากหมดสัญญาสิ้นฤดูกาลนี้และเวทีต่อไปที่เป็ปจะเข้ามาหาความท้าทายคือเวทีลูกหนังที่แข็งแกร่งทีสุดในโลกนั้นคือ พรีเมียร์ลีก
และหนึ่งในทีมใหญ่ทั้งสี่ห้าทีมที่ตอนนี้ว่ากันว่าเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะคว้าตัวอดีตกุนซือบาร์เซโลนาคนนี้ไปก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งความเป็นไปได้สูงเท่าไหรบอกเลยตอนนี้ครับว่ามาถึง 60% แล้วเพราะข่าวลือเท่าที่ผมจับต้นชนปลายข้อมูลข่าวลือต่างๆจากแหล่งข่าวที่น่าจะเชื่อถือได้
นับว่า แมนซิตี้ ในตอนนี้คือทีมเต็งหนึ่งในการที่จะคว้าตัวยอดกุนซือรายนี้ไปเพราะไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เจ้าตัวตกลงด้วยสัจจะวาจารับปากกับทาง ผอ.กีฬาของซิตี้ไว้แล้วว่าตนจะโยกมาคุมหางเสือเรือใบในฤดูกาลหน้าแน่นอน และจะมีข่าวลือรวมทั้งบทวิเคราะห์ต่างๆว่าเป้าหมายต่อไปของเป๊ปคือเรือใบไม่ใช่อื่นใดแน่นอน นี่เลยเป็นแรงกดดันชนิดมหาศาลถาถมใส่เปเยกรินี่
ถึงเจ้าตัวกุนซือวิศวกรเปเยกรินี่จะออกมาบอกเสมอว่าเขาไม่เคยใส่ใจและเอาเรื่องข่าวลือนี้มาเป็นกังวลกับเรื่องงานแต่หากถามใจลึกๆแล้วของเปเยกรินี่กลัวมั้ยที่จะตกงาน 80จาก 100 กลัวแน่นอนครับ
อาจจะฟังดูโหดร้ายกับบรรดาเอฟซีของป๋าเปแต่เราต้องทำใจยอมรับครับผมเชื่อว่าต่อให้เปเยคว้าสี่แชมป์ในปีนี้หากเป๊ปจะมาเรือจริงๆเปเยกรินี่ทำได้ดีแค่ไหนสุดท้ายต้องลาเรือใบอยู่ดีเพราะถ้ามองถึงการทำทีมระยะยาวคุณจะเชื่อมือใครมากกว่ากันระหว่างเป็ปกับเปเยกรินี่
พูดถึงผลงานของเปเยกรินี่แล้วพักหลังมานี้ป๋าแกดูจะเป๋เหมือนคนเมาเดี๋ยวเซไปทางนู้นทีเซมาทางนี้ที ผลงานของเปเยกรินี่ถามว่าดีมั้ยก็ต้องตอบครับว่าดีสามารถคว้าชัยในสองนัดหลังได้ สามารถพาซิตี้จบแชมป์กลุ่มบอลยุโรปได้ และกลับมาเก็บชัยในลีกได้อีก บอลถ้วยลีกคัพก็ขยับๆเข้าไปใกล้ถึงเส้นชัยแล้ว ถ้ามองโดยภาพรวมทั้งหมดเปเยกรินี่ดีมั้ย ผมตอบได้เต็มปากว่าดีครับ
แต่….. พักหลังมานี้ผมเริ่มเห็นอะไรของซิตี้ที่ค่อยๆเปลี่ยนไปในแง่ที่ค่อนข้างจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร ปัญหาที่เปเยกรินี่เผชิญอยู่ตอนนี้คืออาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักซึ่งไม่น่าเชื่อครับว่าหลังจากที่คอมพานีไม่ได้ลงเพราะมีปัญหาอาการบาดเจ็บนับตั้งแต่ไม่มีกัปตันเราแมนซิตี้ยังไม่เคยเก็บคลีนชีทได้เลย
เกมรุกดูจะทื่อไปหมดทั้งที่มีซิลบาที่กลับมาฟิตลงเล่นเต็มที่ได้แล้ว และยังมียาย่าซึ่งเท่าที่ผ่านมาถ้าสองคนนี้ลงสนามพร้อมกันสีสันเกมรุกของซิตี้จะดูมีเสน่ห์ขึ้นมาทันทีแต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าสองคนนี้ลงเล่นพร้อมกันแต่เสน่ห์ที่เคยมีตอนนี้กลับหายไป
นักเตะบาดเจ็บก็ส่วนนึงและโปรแกรมที่เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงแน่นอนครับว่านักเตะเจอโปรแกรมเตะที่มหาโหดช่วงบ็อกซิ่งเดย์นี้เป็นล้ากันไปเป็นแถบๆแน่แต่นี่คือหน้าที่ของผู้จัดการทีมครับว่าจะบริหารทีมยังไงให้ผ่านช่วงนี้ไปได้เปเยกรินี่กับสองฤดูกาลที่ผ่านมาผมเชื่อว่าน่าจะปรับตัวได้แล้วกับโปรแกรมโหดส่งท้ายปีของศึกพรีเมียร์ลีก
และที่ผมจะพูดในวันนี้จริงเลยคือตัวเปเยกรินี่เอง ซึ่งช่วงนี้ไม่รู้ลุงแกไปเข้าวัดสำนักเดียวกับร็อดเจอร์สรึป่าวระบบถึงได้รวนเละตุ้มเปะยังงี้
ผมมาพูดอะไร… เอางี้ผมขอพูดถึงนัดสวอนซีก่อนละกันครับ นัดนี้เห็นชัดครับว่าถ้าเราจะบีบเพลสซิ่งเร็วเราทำได้ครับเราจะรุกแบบสุดๆเราทำได้ครับ แต่ในนัดนี้ซิตี้หลังจากขึ้นนำ 1-0 กลายเป็นว่าเล่นแบบรอเวลาโดน ถามว่าผมมองแผนของเปเยกรินี่คืออะไรในตอนนั้น 4-4-2 รึไม่ใช่ 4-2-3-1 รึก็ไม่ใช่ มันกลายเป็นระบบที่สะเปะสะปะจะรุกไม่รุกจะรับก็รับแบบไม่มีการบีบวิ่งเข้าหา แต่กลับเป็นรับแบบเปิดช่องให้เข้าโจมตีง่ายๆนักเตะดูเสียตำแหน่งกันหมด เกมรุกหากไม่ได้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะก็ดูจะไม่รอด บอกตรงๆครับว่าตอนนี้ทีมเวริคของซิตี้ดูจะค่อยๆหายลงไป
แทคติค และ ระบบ จริงๆของเปเยกรินี่ตอนนี้หายไปไหนบอลที่เล่นกันตามช่องส่งบอลกันง่ายๆ เคาะบอลเป็นลิงชิงบอลเคลื่อนที่ตอนนี้หายไปไหน ตั้งแต่ได้ราฮิม กับเดอบรอยน์มากลายเป็นว่าแม่ทัพที่คอยบรรชาเกมรุกกลับถูกโยนไปที่สองคนนี้มากกว่า และดูเหมือนว่าแมทไหนที่มีเดอบรอยน์แมทนั้นเกมจะไปขึ้นที่เขาเป็นส่วนใหญ่ซึ่งยาย่าจะดูเป็นแค่กองกลางที่คอยแปะบอลไปแปะบอลมาอย่างเดียว
ส่วนเกมก็ไปเน้นริมเส้นซะส่วนใหญ่ซึ่งช่วงนี้ต้องใช้คำว่า “บางครั้ง” เท่านั้นที่ซิตี้จะมีลูกชิ่งกันสวยๆเข้าไปทำกันในเขตโทษคู่ต่อสู้ เกมเข้าทำแดนกลางหายไปส่วนใหญ่ทำเกมริมเส้นไปไม่ได้คืนมาตั้งกันใหม่หรือไม่ก็กำลังต่อบอลดีๆโดนฉกบอลไปต่อหน้าต่อตา ผมเลยบอกว่าการไปเป็นทีมการเล่นเป็นทีมเวริคของซิตี้หายไป จนตอนนี้กลายเป็นไปอาศัยความคล่องของสเตอร์ลิงซะมาก และโยนภาระในเกมรุกไปให้เดอบรอยน์มากเกินไป ระบบที่เคยเป็นมันเลยหายไปที่พูดมาผมหวังว่าจะนึกภาพออกนะครับ
หลักๆเลยคือเปเยกรินี่ต้องงัดไม้เดิมของตัวเองกลับมาครับคือระบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองจริงๆกลับมาให้ได้ หากพูดถึงเลสเตอร์แน่นอนครับว่าเคาท์เตอร์แอคแทคของรานิเอลี่นั้นเฉียบขาดและน่ากลัว หากพูดถึงอาเซน่อลเกมรุกที่รวดเร็วจนแนวรับของคู่ต่อเป็นต้องปวดหัวซะทุกทีม ลิเวอร์พูลก็เกมเพลสซิ่งที่รวดเร็ว มาแมนซิตี้ก็มีเกมรุกที่ดุดันสวยงามและหลากหลาย นั้นคือแมนซิตี้ในช่วงที่เปเยกรินี่มาคุมทีมแรกๆ
หากถามตอนนี้ล่ะแมนซิตี้ทรงบอลและระบบคืออะไรในแต่ละนัดเปเยกรินี่เปลี่ยนแผนเยอะมากระหว่างเล่นเดี๋ยวสลับคนนู้นไปตรงนู้นมาตรงนี้ 4-2-3-1 กลายไปเป็น 4-3-1-2 จาก 4-3-1-2 ก็กลับมาเป็น 4-2-3-1 การจัดผู้เล่นแต่ละนัดเดาใจยากมากว่าจะเอาใครลงบ้างบางครั้งมาเหนือแสงอัดกลางสาม บางนัดมีกองหน้าแต่เลือกที่จะไม่ใช้ เท่านั้นไม่พอที่เดาใจยากสุดคือจะมาไม้ไหน
จะรับแล้วโต้หรือจะมารับอย่างเดียวหรือจะมารุก รุกอยู่ดีๆก็ไปผ่อนเกมรุกจนในที่สุดก็ปั้งโดนและต้องมานั่งลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย เอาตรงๆครับหากถามแฟนเรือใบในตอนนี้ผมว่าครึ่งนึงเลยเชียร์ไปหัวใจจะวายไปในแต่ละนัด โห้ว….รวมถึงผมเองด้วย
ผมอยากเห็นซิตี้ที่เป็นซิตี้ ซิตี้ที่เคยมีเกมรุกที่สวยงามมีการเข้าทำที่หลากหลายมีการครองบอลที่เหนียวแน่นไม่ว่าจะเจอทีมที่เพลสซิ่งเก่งแค่ไหนก็เอาตัวรอดได้ ซิตี้ที่ยามเล่นเกมรับมีการตั้งโซนที่ดูเป็นระเบียบและมีเกมโต้กลับที่เฉียบขาด หากบอกว่าถูกจับทางได้แล้วไอ้แบบเดิมๆ แต่ฟุตบอลคือฟุตบอลครับรากฐานของโค้ชแต่ระคนวางมาอย่างไงผมว่าถ้าเรายึดระบบที่เป็นเราปรับปรุ่งแก้ไขนิดหน่อยแต่ยังคงเสน่ห์ความเป็นสไตร์เราอยู่ได้ผมว่าก็ยากที่จะมีใครมาต่อกรครับ
ทำไมแวงเกอร์ถึงทำอาเซน่อลให้มีเกมรุกที่มั่นคงมาตลอดร่วมสิบๆปีได้ เฟอร์กูสันทำไมทำแมนยูให้มีเกมรุกที่เร้าใจได้ตลอดเวลา หากทีมอื่นใช้คำว่าจับทางได้แต่ทำไมพวกกุนซือเหล่านี้มีทางออกและยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้
เปเยกรินี่ต้องรีบไขน็อตเก้าอี้ให้แข็งต่อไปโดยเรียกความเป็นเปเยกรินี่คนเดิมและซิตี้ที่เป็นซิตี้แบบเดิมกลับมาให้ได้เร็วๆไม่ใช่มัวมาเล่นแบบหลากหลายสไตร์แบบนี้หรือถ้าจะเปลี่ยนไปแบบมันชินี่ที่ตีหัวเข้าบ้านก็เอาแบบนั้นไปเลยและหากอยากเล่นเกมรับก็ต้องเทรนนักเตะวางแผนให้มีระเบียบวินัยมากกว่าเดิม หรือหากจะเล่นรุกก็รุกแบบที่เราเคยชินตาว่านี่คือซิตี้ไปเลยผมเชื่อว่านักเตะชุดนี้มีความสามรถมากพอที่จะเล่นตามระบบที่โค้ชต้องการซึ่งถ้าเปเยกรินี่จะงัดระบบเดิมที่เคยเป็นซิตี้ออกมาใช้ผมว่าก็ต้องทำได้ชัวร์
ถึงแม้โอกาสเซฟเก้าอี้ตัวเองจะมีเปอร์เซ็นน้อยนิดถ้าเรือใบได้เป๊ปมาคุมทีม แต่แฟนเรือใบจะจดจำครับว่านี่คือซิตี้ในยุคของคุณซิตี้ที่มีเกมรุกที่สวยงามหลากหลายไม่ใช่เปเยกรินี่ที่ทำซิตี้ได้ไร้ทิศทาง
คอลัมน์นี้ผมไม่ได้ต้องการดราม่าหรืออะไรผมไม่ใช่ว่าโมโหเปเยกรินี่และมาระบายอะไรไม่รู้ให้ฟัง ผมรักทีมนี้ ผมศรัทธาและเชื่อมั่นในโค้ชทุกคนถามว่าเปเยกรินี่ผมชอบมั้ยผมชอบมากไม่เคยมีความคิดว่าอยากให้เขาโดนไล่ออกแต่ที่ผมมาพูดนี่คือเรื่องจริงที่อยู่ตรงหน้าว่าเปเยกรินี่ตอนนี้คุณเป็นแบบนี้จริงๆ และทุกคนก็ยังหวังครับว่าคุณจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร
และขอทิ้งท้ายครับว่าในนัดวันจันทร์ผมบอกตรงๆครับว่าผมเดาใจป๋าแกไม่ออกจริงๆว่าจะงัดไม้ไหนมาใช้ตอนเจอแมนยูวิเคราะห์ไว้เยอะว่าบุกหนักๆๆๆๆแลกกันมันส์แน่แต่สุดท้ายป๋าแกมาเหนือเล่นรับแบบเซฟแต้มที่เหนือความคาดหมาย หากถามว่านัดที่จะเจออาเซน่อลในมันเดย์ไนท์จะออกมารูปแบบไหนผมขอมองว่ามีแนวโน้มที่ซิตี้จะมาเน้นรับเหมือนเกมที่เจอแมนยูแต่ก็ต้องดูครับว่าสปิริตของเปเยกรินี่จะสามารถกู้กลับมาได้รึป่าวต้องรอชมครับ
- บลูมูน -
Tags:
เห็นด้วยครับ ในตอนแรกคิดว่า ได้สเตอร์ลิ่งมาจะช่วยเรื่องเกมริมเส้นได้มากขึ้นคือความเป็นปีกธรรมชาติและมีความเร็ว น่าจะมาเพิ่มมิติเกมรุก แต่ไม่ใช่โยนภาระไปให้ปีกเล่นทั้งหมด เกมต่อบอลสวยๆเคาะบอลสั้นเจาะตามช่องประสานงาน เล่นบอลตจังหวะชิ่ง หนึ่ง สอง แทบไม่ค่อยมีให้เห็นยิ่งการทำเกมแดนกลางไม่ค่อยมีเลย การเข้าทำที่เคยบุกแล้วเข้าโจมตีเป็นทีม เข้าไปเป็นแพ ตอนนี้ หายไปยืนกันห่างมากไป ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ทั้งเกมรุก และเกมรับนี่ยิ่งแย่เลยนะครับยามขาดกัปตันทีม แต่หวังว่าเกมกับอาร์เซน่อลนักเตะตำแหน่งอื่นจะมาช่วยส่วนของเกมรับและรอสวนกลับนะครับ ไม่ใช่เล่นปล่อยรอโดนแล้วไม่แก้ เหมือนเกมกับไก่ กับ หงส์ อันนี้แอบเสียวหัวใจจริงๆ แต่ก้อขอให้ทำงานให้เต็มที่ครับ โดยเฉพาะท่านเปเญ ยังเชื่อว่าท่านมีฝีมืออยู่ แต่ขอให้คิดไวทำไวขึ้นอีกนิดนะครับ แล้วจบฤดูกาลค่อยมาดูกันครับว่าเราจะมีแชมป์ไหม และจะช่วยเซฟเก้าอี้ของตัวเองไว้ได้มากแค่ไหน สู้ๆๆค้าบบบ เป เย กริ นี่
ขอบคุณครับน้องแซ็ค เขียนได้ดีและเต็มตรงกันครับ เขียนมาอีกนะครับจะคอยติดตามครับผม
สู้ๆนะลุงเป
เขียนได้ตรงตามความรู้สึกของผมมากครับ ช่วงนีเป็นบอลไรทิศทาง รอเสียประตู บอลชิ่งนี่ไม่ต้องพูดถึง ปึกวิ่งไปก็เจอดักได้หมดแล้ว
..ยากแล้วละครับที่จะได้เห็นทรงบอลที่วิเศษสุดของซิตี้คืนกลับมา..
..ลุงเปเญ่แกประสาทเสีย ไม่รู้จะเล่นแผนไหนแล้ว เดาใจลุงแกไม่ถูกเลย..
..ที่แน่ๆคือลุงแกระยะหลังๆจะทีความกล้าๆกลัวๆอยู่ในใจ คิดอย่างเดียว.. "ถ้าไม่ชนะก็ต้องไม่แพ้"..
..เราจึงได้เห็นการอัดกลาง 3 ตัว ถอดกองหน้าเสริมกองหลังท้ายๆเกม..
..ณ บัดนาว เราจะไม่ได้เห็นการขึ้นนำแล้วตามขยี้ซ้ำจนจบเกม..
..มันจะมีแต่ขึ้นนำแล้วเดินเล่นกันแบบชิวๆ รอโดนอย่างเดียว เปเญ่คงไปไม่ไหวแล้วละ..
..เอาเข้าจริงๆ มันโช่ยังมีจุดยืนที่ชัดเจน สามารถสร้างคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่นให้ทีมได้มากกว่าด้วยซ้ำไป !
การเล่นในรูปแบบที่ผิดตาแบบธรรมชาติทั้งการสูญเสียนักเตะกำลังหลักบาดเจ็บๆหลายๆคน ทำให้ทีมดำเนินไปได้ยากซะเหลือเกิน ทั้งเกมในบ้านที่แข็งแกร่ง เกมบุกที่เป็นทีม เดียวนี้คือพึ่งแต่แนวรุกจริงๆ เห็นได้ไม่บ่อยกับการเคลื่อนที่ของคนจำนวนมากเป็นกลุ่มต่อบอลไปมาในกรอบเขตโทษแบบลิงชิงบอล มีแต่เน้นเกมบุกทางด้านข้างหนักมากแถมเกมด้านข้างยังช็อตๆ บุกได้แต่ทางแบ็คซ้ายซะเป็นส่วนใหญ่ เลยหัยกลับมาเน้นรับเน้นครองบอล มันไม่ใช่สไตล์แมนซิ การบุกเน้นๆบุกมันส์ๆ บุกอย่างถาโถมนี่แหละคืดบอลของแมนซิ มันหายไปหมด การออกสตาร์ทต้นฤดูกาลที่แบบยิ้มกริ่ม และพอมีเกม ชปล. เข้ามาก็ต้องหมุนเวียนผู้เล่น ทำให้ฟอร์มนักเตะหรือรูปแบบทีมเสียไปหมด การซื้อตัวผู้เล่นก็ต้องยอมรับว่าเกิดยากมากถ้าไม่ใช่เงินซื้อสตาร์ การกู้ศรัทธาด้วยการซื้อสตาร์มาก็ไม่ได้จะบอกว่าเก้าอี้ของคุณมันจะอยู่รอดปลอดภุย ถ้าคิดจะเล่นเกมรับ ซื้อมิดฟิลล์ตัวรับที่ดีกว่า เฟอนันโดซะ เอาแบบตัดเกมหนักๆ ทีเดียวอยู่ไม่ใช่เน้นรับแต่ซื้อมิดฟิลล์รุกมาเสริมเต็มทีม เปเยกรินี่กับทางออกตอนนี้ถึงมีลุ้น 4 แชมป์แต่ผมก็มองว่าถ้ายังเล่นโดยเน้นครองบอลกการรับเป็นหลักเหมือนซิตี้จะขาดจุดยืนของตัวเองไปแล้ว ทางที่ดียอมสละเก้าอี้เน้นจุดยืนในเกมรุกที่แม้จะแพ้แต่ก็เอนเตอร์เทรนคนดูดีกว่า เพราะตอนนี้เปอร์เซ็นต์มันยิ่งมีไม่มากพอถ้าคุณเล่นรับ
ถ้าเป๊ปไม่มาผมว่าเสริม แบ็คซ้าย ขวา และกองหน้า รวมสาม คน แล้วปล่อยเดมิเคลิส ดึงเดนาเยอร์กลับมาเท่านี้น่าจะช่วยให้ทีมไปได้ไกลไม่ต้องพึ่งเป๊ปแล้ว
นี่คือแมนซิตี้ที่ยังไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุด ณ เวลานี้
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by