ทีมชุดนี้ของ เปเยกรินี่

     ชัยชนะนัดล่าสุดที่ผ่านมาเหนือพาเลซที่เป็นทีมที่ว่าเล่นนอกบ้านได้รัดกุมที่สุดทีมนึงในพรีเมียร์ลีกเรือใบสามารถกำชัยถล่มไป 4 ประตูต่อ 0 แบบน่าประทับใจ ส่วนคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือตัวกุนซือของเราที่นัดนี้ปรับหมากใหม่แทบหมดซึ่งทีมชุดนี้ของเปเยเองก็ดูจะเล่นดีเกินคาด

     ในนัดนี้เปเยกรินี่ดร็อปผู้เล่นสำคัญๆไปหลายคนทั้งยาย่า สเตอร์ลิง ซาญ่า และเลือกใช้บริการ เดลฟ์ ซาบาเลต้า และ เจ้าหนูอิเฮียนาโช่  คำถามคือ เดลฟ์จะทดแทนยาย่าได้ใช่มั้ย? ซาบาเลต้าช่วงหลังเจ็บบ่อยและทำท่าว่าจะดร็อปลงไปถ้าถามว่าตอนนี้ซาบากับซาญ่าจะไว้ใจใครมากกว่ากัน? ดร็อปสเตอร์ลิงและอิเฮียนาโช่ลงมาแทนจะเวริคจริงๆหรอ?

     ไม่ใช่แค่นั้นการหายไปของกัปตันที่มีทีท่าว่าจะพักยาวในฤดูกาลนี้มีความเสียหายกับแนวรับของซิตี้แน่นอน และไหนจะม็องกาล่าที่เจ็บอีกตัวเลือกในแนวรับที่ค่อนข้างบังคับทำให้ต้องส่งเดมิเคลิสลงคู่กับโอตาเมนดี้หลายคนคงร้องโอ่วววววว เดมิเคลิสส่งบ่อน้ำมันลงมาอีกแล้วนัดนี้มีเสียวแน่นอน

     นัดนี้หลายคำถามวนเวียนอยู่ในหัวของแฟนบอลเรือใบแน่นอนบางกลุ่มเห็นดีว่าอิเฮียนาโช่ลงคู่กับกุนเวิร์คแน่นอนแต่บางกลุ่มก็มีคิดอีกว่าจะเวิร์คจริงๆรึป่าวคู่นี้

     และหลังจากประกาศรายชื่อมา คนที่โดนกระหน่ำก่อนคนแรกคือ เปเยกรินี่แน่นอนคอมเม้นแรกที่หลายคนคิดคือจัดทีมแพ้อีกแล้วจัดทีมยังงี้เตรียมตัวไปได้เลยท้ายซีซั่น

     และสุดท้ายและท้ายสุดหลายคำถามที่เกิดขึ้นในใจสุดท้ายถูกล้างไปด้วยผลงานในสนามของเปเยกรินี่

     การจัดทัพนัดนี้ของเปเยกรินี่ดูจะแปลกตาไปหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด ใครจะเชื่อว่าเจ้าหนูวัย 19 อย่างอิเฮียนาโช่จะไม่ตื่นสนามแถมเล่นได้เข้าขากับพวกบรรดาแข้งรุ่นเก๋าอย่าง กุน ซิลบา เดอบรอยได้ ด้วยทักษะความสามารถเฉพาะตัวเราคงเห็นกันแล้วว่าสองสามคนยังไม่สามารถจับตายเจ้าหนู่นี่ได้

     เดลฟ์สอบผ่านอย่างเห็นได้ชัดซึ่งเดลฟ์ไม่ใช่พวกมิดฟิลด์ที่รุกตะบี้ตะบันเจ้าตัวรุกได้เกมรับเองก็เยี่ยมวินัยในเกมรับเองก็ถือว่าดีมาก รู้จังหวะเกมว่าเวลาไหนควรรุกเวลาไหนควรรับ หลายคนเริ่มจับจ้องมาที่เดลฟ์หลังจากที่ซํดลูกแรกให้เรือใบในนัดนี้แบบสวยสดงดงามและสุดท้ายหากถามว่านัดนี้ใครเด่นสุดผมขอมองไปที่ ฟาเบี้ยน เดลฟ์ ที่เล่นเกินราคา 8 ลป. จริงๆครับ

     ซาบาเลต้าเมื่อก่อนเป็นยังไงวันนี้ซาบาก็ยังเป็นยังงั้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ผลงานของเจ้าตัวยังคงคงเส้นคงวาเหมือนเดิมช่วงหลังที่ผ่านมาซาญ่าเล่นดีจนขึ้นมาเบียดซาบาลงไปเป็นสำรองและซาญ่าสไตร์การเล่นก็ดูดุดันแข็งแกร่งจนทำให้ช่วงหลังหลายคนลืมภาพซาบาไปเลย เน่นอนครับหากพูดถึงเกมรับซาญ่าดูจะเหนียวแน่นกว่าแต่หากถามว่าเกมรุกล่ะ ซาญ่าเด่นอย่างเดียวแค่ลูกครอสเข้าไป

     ซึ่งหากวัดกันกับซาบาที่มีทีเด็ดทะลุทะลวงหหาช่องหากถามเปเยกรินี่ผู้เล่นที่ตอบโจทย์ในการทำทีมสไตร์เขาระหว่างซาญ่ากับซาบาใครคือคำตอบเชื่อว่าเปเยเลือกซาบาก่อนแน่นอน

     หลายคำถามคงได้คำตอบแล้วครับว่าผู้เล่นเหล่านี้จะมาทดแทนตัวจริงของเราได้หรอคำตอบสั้นๆง่ายๆได้ใจความว่า ได้แถมดีกว่านิดๆด้วย

     เรามาลองวิเคราะห์แทคติกกันดีกว่าครับว่าการที่เปเยกรินี่หันมาใช้ 4-4-2 แบบดั้งเดิมนี้มีอะไรที่ดูจะเปลี่ยนไปบ้าง

     ในนัดนี้เราเห็นหลายอย่างที่เปลี่ยนไปสำหรับซิตี้ อย่างแรกเลยเกมรุกเกมรุกดูกลับมาชีวิตชีวาอีกครั้งนึงทั้งรุกด้วยการครอสบอลริมเส้น ทะลวงแดนกลาง ยิงไกล ใช้ความสามารถเฉพาะตัว เดลฟ์ในช่วงครึ้งแรกเองหลายคนสงสัยว่านักเตะราคาแค่ 8 ลป. คนนี้ฝีมือจะเทียบเท่ายาย่าได้รึป่าว

     คำตอบก็อย่างที่บอกไปครับ ซึ่งก่อนยาย่าจะลงมาเกมรุกของซิตี้ก็ดูจะไปเป็นอีกมิตินึงคือคุณขึ้นมากันแล้วสิ่งสุดท้ายที่พวกคุณต้องทำได้คือจบสกอร์ ซึ่งเราจะเห็นว่าซิตี้ออกอาวุธนอกเขตโทษหลายครั้งเพราะพาเลซนั้นเน้นรัดกุมเหนียวแน่นและสุดท้ายอาวุธของจู่โจมไกลซิตี้ก็โจมตีได้ผลสองลูกสองประตูที่ได้มาจากนอกเขตโทษสวยสดงดงามจริงๆ

     เกมรุกของซิตี้ก็ดูจะมีไม้เด็ดมากขึ้นอีกหลังจากเอายาย่าลงมาเป็นอาวุธในแนวรุกอีกคนนึง ซึ่งเท่าที่เห็นคือลงมาเล่นหน้าต่ำและเดินเกมรุกอย่างเต็มตัวและก็อย่างที่เห็นครับว่าเกมรุกของซิตี้ดูจะมีมิติเพิ่มอีกมากขึ้นที่เห็นได้ชัดเลยคือการทะลุทะลวงแดนกลาง การทำชิ่งตามช่องเราจะเห็นครับว่า ยาย่า ซิลบา อกูเอโร่ ชิ่งเล่นกันตามช่องได้ดีและนี่ก็เป็นอีกนัดของเดอบรอยน์ที่ดูจะเล่นกับทีมชุดนี้ของซิตี้ได้ดูลงตัว และนี่ก็เป็นอีกนัดที่เห็นซิตี้กลับมาเป็นซิตี้ที่มีเกมรุกดุดัน มีความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้นอีกครั้งนึง

     แดนกลาง เดลฟ์กับเฟอร์นานโด ไม่น่าเชื่อว่าการเล่นคู่กันนับครั้งได้ของคู่นี้ดูแข็งแกร่งจริงๆที่เปเยกรินี่ตัดสินใจเลือกเดลฟ์มาก่อนยาย่า แน่นอนครับอันดับแรกคือเน้นเกมรับในแดนกลางแน่นอนซึ่งเอาไว้ดักลูกโต้ของพาเลซและปิดตายแดนกลางของพาเลซที่มีกาบายคอยบัญชาเกมได้อย่างดีซึ่งเราจะเห็นว่า พาเลซครึ่งหลังแก้รำโดยออกบอลข้างอย่างเดียวถึงจะเป็นสไตล์พาเลซแต่เราดูแล้วรู้จริงๆว่านัดนี้แดนกลางเราแข็งกว่าอย่างชัดเจน

     เราจะเห็นครับว่าพอซิตี้ปรับกระบวนมาเป็นตั้งโซนรับแบบที่เคยทำคือดักรอบอลผมสังเกตุว่านัดนี้เราดูแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าหลายนัดที่ผ่านมาโดยเฉพาะแดนกลางซึ่งเจ้าปลาหมึกเราดูแข็งแกร่งมากยามยืนคู่กับเดลฟ์ ซึ่งหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าควรใช้คู่กลางคู่นี้ต่อไปหรือไม่

     แนวรับที่ทุกคนเป็นห่วงการหันกลับมาใช้บริการเดมิเคลิสหลายคนคงไม่พอใจและแหกปากตะโกนบอกว่าเอามันขายไปได้แล้วแต่มีสถิติที่น่าเหลือเชื่อว่าสามนัดหลังสุดทุกรายการเดมิเคลิสบรรชาเกมรับกลับกลายเป็นว่าคลีนชีททั้งสามนัดถึงสไตร์การเล่นจะดูเชื่องช้าไปหน่อยแต่ดูจะกลายเป็นว่าเข้าขากับโอตาเมนดี้เฉยเลย

     และที่สำคัญโจ ฮาร์ทเองก็แสดงให้เห็นว่าทำไมกายาเยโร่ไม่สามารถเบียดเค้ามาเป็นตัวจริงได้เพราะฟอร์มการเล่นที่เหนียวหนึบหนับนี้ก็ยากที่ใครจะมาแย่งตำแหน่งไปจริงๆครับ

     ทุกๆอย่างในนัดนี้มันเป็นความบังเอิญที่ลงตัวท่ามกลางคำถามที่คาใจรึป่าว ใครจะเชื่อว่ากุนกับนาโช่เข้าขากัน เดลฟ์กับเฟอร์นานโดจะเป็นคู่หูแดนกลางคู่ใหม่ของซิตี้ แนวรับที่ดูเหมือนจะหลวมแต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเก็บคลีนชีทไปสามนัดแล้ว

     สรุปภาพรวมทั้งหมดเลยครับเท่าที่เห็นจากนัดนที่ผ่านมาก็ดูจะลบคำวิจารณ์ในตัวเปเยกรินี่ลงไปบ้างและก็เป็นอีกนัดที่ซิตี้เล่นกันได้เข้าขารู้ใจและแข็งแกร่งดี แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่าซิตี้จะยึดชัยชนะแบบนี้ต่อไปได้เรื่อยๆรึป่าวเพราะจากที่ผ่านมาผลงานของซิตี้ก็ยังขึ้นๆลงๆ ทำให้เราเดาไม่ได้ว่านัดหน้าผลจะจบลงมาเป็นอย่างไร

     อย่างที่ผมบอกไปในหลายๆคอลัมน์สิ่งที่ซิตี้ต้องทำคือรักษาความสม่ำเสมอให้ได้ ซึ่งดูแล้วผมเชื่อว่าทีมชุดนี้ที่เจอพาเลซ น่าจะเป็นคำตอบได้สำหรับเปเยกรินี่ อยู่ที่ว่าเปยกรินี่กล้าที่ดร็อปผู้เล่นอย่างยาย่า สเตอร์ลิง ต่อไปได้รึป่าวและลองใช้ทีมชุดต่อไปดูหากทำได้และดีขึ้นมันก็คุ้มที่จะเสียงใช่มั้ยล่ะครับ 

 - บลูมูน -