สวัสดีคับหลังจากไม่ได้เขียนคอลัมนิสต์ให้กับเพื่อนมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ที่จริงกะว่าจะเขียนอีกทีก็ตอนเห็นแมนซิตี้เป็นรูปเป็นร่างหลังการซื้อขายเสร้จสิ้น ครั้งนี้ก็จะมาวิเคราะห์ วิจารณ์ และดูหลักการของทีม ทั้งการซื้อตัว และคาดเดารูปแบบของทีมคร่าวๆกันก่อน
อย่างที่บอกไว้แต่แรก เป้าหมายของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่หวังลมๆแล้งๆ เพราะไม่งั้นคงไม่งัดเงินทองร่วมร้อยล้านมาลงทุน ถ้าถามว่าทำไมชาวต่างแดนต้องมาบ้าคลั่งกับกีฬาฟุตบอลขนาดนี้ ? ก็มองกลับไปตามหลักการเศรษฐกิจ ตะวันออกกลางเป็นที่รู้กันว่าเป็นแหล่งทำเงินจากน้ำมัน และน้ำมันนี้ก็ได้รับการคาดการว่าจะหมดลงในอีกราวๆ 40-50 ข้างหน้า ( หากยังใช้ในปริมาณมหาศาลเช่นทุกวันนี้ ) ดังนั้นเหล่า ชีค , แขก , อาบัง แล้วแต่จะเรียกขาน....จึงได้คิดหาธุรกิจที่จะทำหากเวลาที่น้ำมันซึ่งเป็นรายได้หลักหมดไป การที่มาซื้อแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นหากมองถึงผลกำไรนั้นมากมายมหาศาลนัก เพียงแค่ซื้อซุเปอร์สตาร์อย่างโรบินโย่มาแค่คนเดียวราคาหุ้นก็พุ่งกระฉูดพูดได้ว่าตอนนี้ลงทุนไปร่วม 100 ล้าน แต่หากขายก็ยังคงได้กกำไรราว 50-100 ล้าน ฟุตบอลมันก็เป็นอย่างงี้แหละคับ เพราะมันเป็นกีฬาอันดับหนึ่ง หากได้แชมปก็ได้เงิน ได้ค่าถ่ายทอดสด ได้จากการขายของ นั่นไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้ยินข่าวคราวที่ว่าทีมเศรษฐีมือใหม่อย่างแมนซิตี้จะพยายามซื้อดาวดัง แม้ไม่ดังคับฟ้าขอแค่คนรู้จักก็เพียงพอแล้ว...................
ในปีนี้การเสริมทีมในแดนกลางถือว่าลงตัวทีเดียว การได้ แบรรี่มาช่วยเชื่อมต่อเกมแดนกลางทำให้ภาระของกองกลางดาวรุ่งอย่าง ไอร์แลนด์ หมดไปทันที..........จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาแม้เจ้าโล้นจะเติมเกมช่วยทีมได้เยอะก็จริง แต่ในบางจังหวะก็ต้องลงมาปักหลักแถวแดนกลางเนื่องจาก กอมปานี , เด ยอง ไม่ใช่กองกลางที่เชื่อมต่อเกมได้ แม้จะมีเสียงส่งไปบอกให้ใช้งาน เอลาโน่ แต่ก็เจอกับความเสี่ยง เพราะเอลาโน่เป็นบอลแต่งจังหวะ คล้ายคลึงกับ เดวิด แบ๊คแฮม ที่ต้องในเท้าแต่งบอลก่อนจะออกบอล นักบอลสไตล์นี้หากไม่มีวิชั่น(มุมมอง)ที่กว้างพอก็มักจะโดนเบียด โดนปะทะ โดนแย่งบอลไปก่อนที่จะง้างเท้าเปิดบอลเสมอๆ และจึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็น เอลาโน่ ลงเล่นทางปีกขวาที่มีผู้เล่นไม่แออัดจนเกินไป ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการได้ แบรรี่ ที่เล่นในแบบตัวเชื่อมเกมกึ่งๆตัวรับ เป็นตัวประคองเกมแดนกลางให้พวกตัวตัดเกมปะทะไปก่อนแล้วตัวเองจะเก็บตก และยังเปลี่ยนเกมได้ด้วยลูกเปิดแม่นยำ ซึ่งลูกเปิดนี่ก็อาจเป็นอีกแนวทางหนึ่งของทีมก็เป็นได้ เห็นชัดเจนเวลาที่แมนซิตี้เจอทีมตั้งรับเก่งๆจะต่อบอลไม่ถึงข้างหน้า ลำบากและร้อนถึง โรบินโย่ , ไอร์แลนด์ , ไรท์ ฟิลลิปป์ ต้องลงมาเอาบอลไปข้างหน้าด้วยตัวเอง แต่ปัญหาเหล่านี้จะบรรเทาลงแน่นอน เพราะ แบรรี่ ได้พิสูจน์การเชื่อมเกมของเขาในทีมแอสตันวิลล่ามาแล้ว และยังมีความเป็นผู้นำสูง ไม่แปลกหากผู้จัดการทีมจะให้เขาเป็นกัปตันทีมคนใหม่..........ที่จะคอยบัญชาเกม รับ-รุก ช้า-เร็ว
ต่อไปมาพูดถึง โรเก้ ซานตาครูช นักเตะที่แจ้งเกิดมานานและเริ่มมาแจ้งเจ็บกับเสือใต้บาเยรินมิวนิค แต่กระนั้นก็กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งกับทีมแบล๊คเบริน ทำเอาสั่นสะเทือนลีคผู้ดีและทำให้ทีมใหญ่ๆจ้องมองตาเป็นมัน มีข่าวมากมายนับ 10 ทีม.........ที่หวังจะดึงกองหน้าตัวนี้ แต่ก็ไม่มีทีมไหนจริงจังสักทีม เพราะเนื่องจากถูกฟ้ากำหนดว่าต้องมาอยู่แมนเชสเตอร์ซิตี้เท่านั้น ? ที่ผมกล้าพูดก็เพราะเหมือนทางผู้จัดการทีมคนใหม่ของกุหลาบไฟจะอ่านเกมขาดมาแต่ต้น การตั้งราคาค่าตัว 20 ล้าน ( จะลดหรือไม่ค่อยว่ากัน ) เป็นการบอกให้ทีมอื่นๆต้องคิด แน่นอนทีมใหญ่ๆอย่าง อาเซนอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เป็นข่าวด้วยล้วนสามารถซื้อได้ไม่ยากนัก แต่ใครจะกล้าเสี่ยงกับนักเตะที่เพิ่งแจ้งเกิด 1 ปีด้วยราคา 20 ล้านกันล่ะ ? แล้วยังประวัติการเจ็บเรื้อรังของนักเตะที่เป็นชะงักให้ต้องนั่งคิดถึงความคุ้มค่า ดังนั้นมันก็เหมือนชะตากำหนดตั้งแต่ต้นอยู่แล้วสำหรับนักเตะรายนี้ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าที่บอร์ดบริหารยอมรับการซื้อตัวนักเตะคนนี้คงไม่พ้นผู้จัดการทีมความหวัง เพราะหากว่ากันตามตรงการเสียเงินในราคาเดียวกันหรือแพงกว่าสักนิดเพื่อดึง อเดบายอร์ ของอาเซน่อลที่พร้อมปล่อยตัวหากได้ราคาราวๆ 25 ล้านปอนจะไม่ดีกว่าหรือ ? แต่เชื่อว่า มาร์ค ฮิวส์ น่าจะไปสาธยาย บรรยาย โวหาร ปราศัย ทำทุกอย่างเพื่ออธิบายคุณสมบัติของนักเตะรายนี้ และน่าจะอธิบายถึงความเสี่ยงด้านการบาดเจ็บของเขาแล้ว เพราะก่อนนี้เคยทำงานร่วมกันมา อันเป็นที่สิ้นสุดในการเซ็นสัญญาย้ายทีมในวันที่ 23 มิ.ย. 2552 ที่ผ่านมานั้นเอง พูดถึงกองหน้าคนนี้คงยังบอกไม่ได้ว่าจะสามารถมาชดเชยพลังการบุกของทีมได้ระดับไหน คงต้องรอดูกันต่อไปอีกสักพัก...............
มีข่าวลือและเสียงเล่าอ้างถึงการเปิดตัวในวันที่ 1 ก.ค. ของนักเตะหุ่นเพนกวิน คาร์ลอส เตเบส กองหน้าจอมขยัน วิ่งไม่มีหมด ใส่ไม่มียั้ง และหัวฟูทุกนัดที่ลงเล่น.............หากกล่าวถึงกองหน้าร่างเล็กคนนี้คงเป็นที่รู้จักกันพอควร เป็นนักฟุตบอลที่เติบโตมากับทีมอย่าง โบคาจูเนียร์ และย้ายมาเล่นในทีมเวสแฮม ( แบบผิดกฏ ) แถมยังช่วยชีวิตทีมขุนค้อนให้รอดตายอย่างเหลือเชื่อ ด้วยการซัดประตูโทนใส่ผีแดงแรงฤิทธิ์ จนเป็นเหตุให้ป๋าอเล็กซ์อยู่เฉยไม่ได้ต้องยืมตัวมา 2 ปี โดยนักเตะก็หวังจะฝังรากในถิ่นแมนเชสเตอร์ ถึงกับลงทุนย้ายบ้านเช่ากันทีเดียว ( บางที่บอกว่าเจ้าตัวลงทุนซื้อบ้านใหม่ในแมนเชสเตอร์ทีเดียว !? ) แต่แล้วก็โดนปล่อยให้ฝันค้างเพราะการมาของศิลปินลูกหนัง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่ราคาค่าตัวไม่น้อยและกระฉูดถึง 30 ล้านปอน แม้เตเบสจะช่วยทีมได้มาก และยิงประตูสำคัญได้เยอะ แต่ก็ยังไม่เป็นที่ประทับใจของผู้จัดการทีม และในที่สุดก็ตกเป็นตัวสำรองถาวรของ เวย์ รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ.............ฝันร้าย 2 ปีใกล้สิ้นสุดเจ้าตัวประกาศแยกทางกับแมนยูในที่สุด แต่ภายหลังเกิดพลิกโผล การจากไปของดาราโลก คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มเห็นคุณค่าของเจ้าเพนกวินน้อย..........ถึงกับโทรศัพท์ไปกล่อม แต่ดูเหมือนภาพหลอนของเสียงป๋าและการกระทำที่หักมุมจะยังติดหูและตาของเจ้าตัว จนในที่สุดโอกาสการลงเอ่ยกับยูไนเต็ดก็จบลงไป เหลือเพียง 2 ทีมที่แสดงอาการกระสันอ้าแขนรับนักเตะร่างเล็กแต่ขยันซอย แมนเชสเตอร์ซิตี้ , เชลซี เป็นชื่อทีมที่เสนอตัวพร้อมรับเยียวยาจิตใจของ คาร์ลอส เตเบส การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี ทั้งการเงิน ความฝัน ความสำเร็จ และสิ่งที่เขาต้องการที่สุด "เป็นคนสำคัญ" แต่แล้วจู่ๆก็ฟ้าผ่าพลิกล๊อค เมื่อเชลซีประกาศดื้อๆออกมาว่าไม่ได้ยื่นข้อเสนอมูลค่ามหาศาลเพื่อซื้อเจ้าเพนกวินแต่อย่างใด !? นั่นทำให้ทางเลือกของนักเตะที่มีเหตุผลหลักๆง่ายๆไม่ซับซ้อนคือ อยู่เล่นในอังกฤษ , ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ , ได้รับการปฏิบัติที่ดี , ทีมมีความทะเยอทะยาน , และพร้อมจ่ายเงินเพื่อซื้อตัวเขา ............ มันจึงเหลือทางเลือกจึงเหลือแค่เรือใบสีฟ้าลำน้อยๆที่พยายามกลายร่างเป็นเรือเดินสมุทรไททานิค และด้วยกระแสข่าวและเหตุผลนี้จึงเป็นที่สนุกของสื่อทั้งหลายที่จะสรุปว่าตัวนักเตะน่าจะลงเอยกับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ !? แต่อย่าได้ฝันหวานไปเหล่า พลพรรคนักรบสีฟ้า หากยังไม่เซ้นสัญญาจรดปากกาบรรจงลายเซ็น........อะไรก็เกิดขึ้นได้ มันก็เหมือนกับการที่ทีมแมนซิตี้ไปชิงเอาโรบินโย่ของเชลซีมาต่อหน้าต่อตานั่นแหละ ไม่แน่ว่าคราวนี้อาจเป็นแมนซิตี้ที่ต้องเจ็บช้ำแบบเดียวกับที่เคยทำเชลซีก็เป็นได้นะ !?
ต่อไปมาถึงคราวนักเตะที่เป็นการซื้อขายที่เงียบที่สุดของทีมแมนซิตี้ในตอนนี้คงหนีไม่พ้น สจ๊วต เทย์เลอร์ ด้วยอายุอานาม 28 ปี ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ได้รับความเชื่อถือในประสบการณ์ว่ามีมากกว่า โจ ฮาร์ท ซุเปอร์รุคกี้ในตำแหน่งนายทวาร หากเทียบภาษีแล้วผมยังในเครดิตของ ฮาร์ท ว่าเหนือกว่า...........แต่นั่นหมายถึงในอนาคต !? ณ.ตอนนี้ต้องบอกได้ว่าหากเกิดอาการบาดเจ็บของ เชย์ กิฟเว่น แล้วต้องปะทะกับทีมใหญ่ๆ คงต้องมองมาที่ สจ๊วต เทย์เลอร์ ที่แก่กว่า เก๋ากว่า และดูกระแสของเกมเก่งกว่า โจ ฮาร์ท.............มีคนกล่าวไว้ว่ายิ่งอายุมากขึ้นผู้รักษาประตูจะยิ่งเก่งขึ้นไม่ได้ร่วงโรยไปแบบนักเตะธรรมดาอื่นๆ นั่นน่าจะเป็นคำกล่าวในด้านทัศนคติที่ยิ่งอายุเยอะจะแบกรับความกดดันได้ดีกว่านั่นเอง มันเป็นโจยท์ที่ไม่ว่ายังไง ตะแคงคิด นั่งคิด นอนคิด หรือลงมือปฏิบัติ โจ ฮาร์ท ในตอนนี้ก็เอาชนะ สจ๊วต เทย์เลอร์ ไม่ได้แน่นอน............การถูกส่งไปสัมผัสประสบการณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้รักษาประตูที่อายุน้อย เพราะไม่มีใครมานั่งหวังกับผู้รักษาประตูที่อายุไม่ถึง 25 ปีแน่ๆ ดังนั้นการซื้อ สจ๊วต เทย์เลอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่มาถูกทางของ มาร์ค ฮิวส์ ในการทำทีมให้แข็งแกร่งแน่นอน
นี่ยังไม่นับถึงการซื้อตัวกับนักเตะที่เป้นข่าว โคโล ตูเร่ , โจทาน เลสคอต , ซามูเอล เอโต้ แต่หากคุณสังเกตุดูให้ดีแล้ว โอกาสที่จะได้จอมถล่มประตูอย่าง เอโต้ อาจไม่เกิดขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าราคาแพง ค่าเหนื่อยแพง และ การปรับตัวที่ใครจะกล้ารับประกัน ? หากซื้อมาแล้วกลายเป็น อังเดร เซฟเชงโก้ หมายเลข 2 ใครจะรับผิดชอบ !? นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้จัดการทีม มาร์ค ฮิวส์ พยายามใช้และซื้อนักเตะที่อยู่ในลีคเดียวกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องตัดกำลังคู่แข่ง แต่มันยังรวมถึงความแน่นอนและผลประโยชน์ที่สามารถคำนวณออกมาได้โดยง่ายและความเสี่ยงต่ำด้วย !?
จบคอลัมนิสต์เฉพาะกิจ ละเมอเพ้อหล่าม ก็หวังว่าจะเพลินๆและแก้ง่วงแก้เหงาระหว่างรอนักเตะคนที่ 4 คนที่ 5 คนที่ 6 และอาจมีต่อๆไป ตอนนี้ก็ต้องลากันไปก่อน ไว้เจอกันโอกาสหน้า......สวัสดีคับ
By. Saber
********************************************
ปล. ผมได้รับ PM สมาชิกบางท่านบอกว่าจะขอเอาข้อความทั้งที่ผมเขียนโดยไม่ตั้งใจ และตั้งใจ หรือกระทั่งคอลัมนิสต์ไปเผยแพร่ อันนี้ผมขอบอกไว้ได้เลยคับว่าไม่มีนโยบายห้ามเผยแพร่แต่อย่างไรคับ ใครอยากเอาไปที่ไหนก็ตามสะดวก ผมขออย่างเดียว Credit คับ.....ไม่ใช่ของตัวผม แต่เป็นของ Web Site แห่งนี้ ถ้าไม่กระไรนักอยากให้ลงว่าเป็นบทความจาก MCFC หรือ Manchester City Fan Club แล้วก็ทำ Link มาเว็ปนี้ด้วยคับ คือว่าคงจะดีหากแฟนบอลทีมเดียวกันได้เข้ามาและพบปะพูดคุยในเว็ปนี้เยอะๆ เพื่อจะได้มีข่าวใหม่ๆ นักเขียนคอลัมใหม่ๆ(รูปแบบใหม่) และจะได้สนุกสนานกับแฟนบอลทีมเดียวกันคับ จึงเรียนไว้และอยากขอให้ทราบกันตามนี้คับ
Tags:
-
▶ Reply to This