Members

คอลัมน์น่าสนใจ::"เพื่อนบ้าน"ของปีศาจแดง

คอลัมน์น่าสนใจ::"เพื่อนบ้าน"ของปีศาจแดง



     บางทีศึกชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลที่กำลังจะเดินทางมาถึงนี้อาจเป็นเรื่องของ 2 ทีมแห่ง แมนเชสเตอร์ แบบเพียวๆ เพราะทั้ง ''ยูไนเต็ด'' และ ''ซิตี้'' ต่างเป็นทีมที่มีขุมกำลังที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ณ เวลานี้
 


        ชะรอยว่าจะคล้ายๆ การขับเคี่ยวกันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ในศึก ลา ลีกา ของ สเปน ที่แก่งแย่งแข่งขันห้ำหั่น เชือดเฉือนกันเพียงแค่ 2 ทีม


        หลังจากนั่งเบียดกับความล้มเหลวมา 3 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่การอำลาตำแหน่งของบรมกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน - แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์อีกครั้ง เพื่อหาทางกลับมาจากป่าช้าให้จงได้ ว่าแล้วก็สำแดงแสนยานุภาพทางการเงินของตัวเองอีกครั้งด้วยการเอาฟ่อนธนบัตรไปห่อตัวดาวเตะใหม่มาเสริมทัพทั้งหมด 4 คน


        เอริก ไบยี่ 30 ล้านปอนด์


        เฮนริค มคิทาร์ยาน 26 ล้านปอนด์


        ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้มาแบบฟรีๆ


        และ ปอล ป๊อกบา ในฐานะผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในโลก 89 ล้านปอนด์


        รวมทั้งหมดวอดวายไป 145 ล้านปอนด์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียวเชียว


        ส่วนค่าเหนื่อยของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก็น่าจะสูงที่สุดอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีกเช่นกัน


        ในเมื่อลงทุนมหาศาลขนาดนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ล้มเหลวนะครับ และต้องคว้าแชมป์ให้ได้เพียงสถานเดียวเท่านั้น!


        หากดูจากขุมกำลังและคุณภาพของผู้จัดการทีม มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการพุ่งชนความสำเร็จ ถ้าในเมืองเดียวกันดันไม่มีเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่าง แมนฯ ซิตี้


        เพื่อนบ้านของปีศาจแดง หรือที่ท่านพระยาหมื่นลูกหนังเคยให้คำนิยามว่า "เพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ" ขึ้นชื่ออยู่แล้วนะครับเรื่องการใช้เงินแบบบ้าคลั่ง โดยไม่จำเป็นต้องคิดมาก และไม่ต้องห่วงผลประกอบการ เหตุเพราะมีเจ้าของร่ำรวยระดับโคตรพ่อโคตรแม่มหาเศรษฐีระดับราชันแห่งทะเลทราย


        เพียงแต่เงินซื้อความสำเร็จไม่ได้เสมอไป


        ฤดูกาลที่แล้ว หากดูจากศักยภาพของผู้เล่นของ แมนฯ ซิตี้ พวกเขาน่าจะทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งแบบสบายๆ หลังเปิดฉากอย่างร้อนแรงด้วยกะซวกชัย 5 นัดติดต่อกันโดยไม่เสียประตู


        ก่อนที่ปัญหาของ แมนฯ ซิตี้ จะค่อยๆ ทะลักออกมาทีละนิด


        เฉพาะอย่างยิ่งหลังการประกาศแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ล่วงหน้าว่าเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ "สำเภาเศรษฐี" ของต้นหนอย่าง มานูเอล เปเยกรีนี่ ก็เตลิดออกอ่าว-ออกทะเลไปเลย


        แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่ผีเข้า-ผีออกพอๆ กับเดี๋ยวดี-เดี๋ยวร้าย ปราศจากความสม่ำเสมอซะอย่างนั้น ก่อนจะค่อยๆ ถีบตูดตัวเองเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 แบบหวุดหวิด


        ปัญหาสำคัญอันดับหนึ่งอยู่ที่เกมรับที่เสียประตูง่ายเหลือเกิน


        ปราการหลังที่ซื้อมาใหม่อย่าง นิโกลัส โอตาเมนดี้ กับ เอเลียควิม ม็องกาล่า เจ้าของทีมเขาอุตส่าห์ซื้อมาเพื่อแก้ปัญหา แต่พวกมึงกลับเข้ามาเพิ่มปัญหาในเกมรับซะอย่างนั้น!


        มิดฟิลด์ตัวกลางอันเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนก็เช่นกัน


        แฟร์นานโด กับ แฟร์นานดินโญ่ เรียนตามตรงว่า "ธรรมดาเกินไป" ขณะที่ ยาย่า ตูเร่ ก็เริ่มโรยราและอยู่ในช่วงขาลง


        เท่านั้นไม่พอผู้จัดการทีมอย่าง มานูเอล เปเยกรีนี่ ดูเหมือนจะหมดมุข


        เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แมนฯ ซิตี้ ก็ค่อยๆ ปรับปรุงตัวเองไปทีละภาคส่วน แบบว่าปัญหาอยู่ตรงไหนก็แก้ตรงจุดนั้น


        อิลคาย กุนโดกัน ถูกกระชากเข้ามา เพื่อเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางในราคา 20 ล้านปอนด์


        โนลิโต้ (13.8 ล้านปอนด์) กับ ลีรอย ซาเน่ (37 ล้านปอนด์) โดนดึงเข้ามาเสริมเกมรุกให้วูบวาบมากขึ้น

        กองหลังที่มีจุดนี้ คราวนี้ลงทุนอีกถึง 47.5 ล้านปอนด์ เพื่อกระชาก จอห์น สโตนส์ มาจาก เอฟเวอร์ตัน


        เกมรุกที่น่ากลัวอยู่แล้วก็คงจะน่ากลัวยิ่งขึ้นจากการมาของ อิลคาย กุนโดกัน, โนลิโต้ และลีรอย ซาเน่


        เกมรับก็น่าจะยกระดับให้สูงขึ้นจากการมาของ จอห์น ศิลา ปราการหลังดาวรุ่ง


        เจ๋งที่สุดคือสไตล์การทำทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า


        วิธีการเล่นแบบ "ติกิ-ตาก้า" ที่เคยเห็นจาก บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค จะถูกยกมาใส่ แมนฯ ซิตี้ คือเน้นเกมรุกด้วยการต่อบอลเร็วตามช่องบนความสวยลากไส้


        ว่าแล้วขอลองจัดตัวผู้เล่น 11 คนแรกที่ดีที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ ในระบบ 4-2-3-1 ดูนะครับ


        ผู้รักษาประตู: โจ ฮาร์ท


        แบ็คขวา: บาการี่ ซาญ่า


        แบ็คซ้าย: กาแอล กลีชี่


        เซ็นเตอร์แบ็ค: จอห์น สโตนส์ กับ แวงซองต์ กองปานี


        มิดฟิลด์ตัวกลาง: อิลคาย กุนโดกัน กับ ยายา ตูเร่


        ปีกขวา: เควิน เดอ บรอยน์


        ปีกซ้าย: ลีรอย ซาเน่         


        หน้าต่ำ: ดาบิด ซิลบา


        ศูนย์หน้า: กุน อเกวโร่


        นอกจากนี้ยังมีอะไหล่คุณภาพคับตูดอย่าง แฟร์นานโด, แฟร์นานดินโญ่, เฆซุส นาบาส, โนลิโต้, ซามีร์ นาสรี่, ราฮีม สเตอร์ลิง และถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด มี มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นเด็กมหัศจรรย์ แมนฯ ซิตี้ ก็มี เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน


        ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด


        คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกิดมาเพื่อฆ่า โชเซ่ มูรินโญ่ โดยเฉพาะ


        สมัยคุมทีมในเวที ลา ลีกา ด้วยกัน ผลงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหนือกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างชัดเจน ทั้งผลงานในฟุตบอลลีกและในการปะทะกันโดยตรง


        3 ฤดูกาลที่คุมทีมราชันชุดขาว "เดอะ สเปเชี่ยลวัน" ช่วยให้ เรอัล มาดริด มีอันดับในตารางสูงกว่า บาร์เซโลน่า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แค่เพียงครั้งเดียว ขณะที่การเจอกันโดยตรงทั้งหมด 16 ครั้ง "มูมู่" เอาชนะ "เป๊ป" ได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น!


        คิดแล้วก็น่าหนักใจแทน แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งนัก เพราะต่อให้มีดาวเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกอยู่ในทีมก็ใช่ว่าจะเหนือกว่าเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญของตัวเอง


        หลังจากคว้าแชมป์ ด.1 โบราณ เป็นครั้งสุดท้ายในยุคของ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ เมื่อ 1967 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องรอนานถึง 26 ปี - กว่าจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้อีกครั้งในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน


        การเฝ้าคอยความสำเร็จขบวนใหม่ผ่านไปแล้ว 3 ปี (นับตั้งแต่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุด เมื่อฤดูกาล 2012-13) แมนฯ ยูไนเต็ด และฤดูกาลนี้พยายามดิ้นรนแบบสุดฤทธิ์-สุดเดช เพื่อกระชากตัวเองกลับมาจากป่าช้า แต่ใครบางคนบนฟ้าคงรับสินบนจากท่านชีค มันซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เจ้าของทีม แมนฯ ซิตี้ จึงส่งเพื่อนบ้านของปีศาจแดงมาขัดขวาง


        บางทีการกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่คิด


"บอ.บู๋"

///////////////////////////////////////////////////////////////////

Cr.siamsport. ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th

Views: 868

Reply to This

Replies to This Discussion

ถ้าแขกเจ้าของทีมไม่ทิ้งทีม ยูไนเต็ดจะได้รำคาญกับเพื่อนบ้านไปอีกนานทีเดียว

ถูกนำไปเรียบเทียบ กับ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ในศึก ลา ลีกา ของ สเปนว่าขับเคี่ยวกันก็น่าจะอาจจะเป็นแบบนั้นในฤดูกาลนี้ แต่ที่ บ บู๋ โชว์ความโง่ออกมาแบบปล่อยไก่คือ คำนิยามว่า "เพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ" ขึ้นชื่ออยู่แล้วนะครับเรื่องการใช้เงินแบบบ้าคลั่ง โดยไม่จำเป็นต้องคิดมาก และไม่ต้องห่วงผลประกอบการ เหตุเพราะมีเจ้าของร่ำรวยระดับโคตรพ่อโคตรแม่มหาเศรษฐีระดับราชันแห่งทะเลทราย

อยากจะถามน้องว่าลืมเรื่องกกหารเงินไแล้วหรอครับ เค้าเข้มข้นกับทุกทีม ไม่มีเว้น ซิตี้เองก็เคยเจอปรับเงิน ลดจำนวนโควต้านักเตะในยุโรปนะครับ กว่าจะมาถึงจุดนี้ที่ได้กำไรมหาศาลไม่มีขาดทุนหรือติดลบตัวแดงอีกต่อไแล้วครับน้อง 

ส่วนอื่นก็เห็นด้วย รวมทั้ง 11 ตัวจริง ถ้านักเตะไม่เจ็บฟูลทีมอาจจะจัดลงตัวได้แบบนั้น แต่ตอนนี้คงต้องรอหน่อย โดยเฉพาะ กุนโดกัน กับ กอมปานี

วิธีการเล่นแบบ "ติกิ-ตาก้า" ที่เคยเห็นจาก บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค จะถูกยกมาใส่ แมนฯ ซิตี้ คือเน้นเกมรุกด้วยการต่อบอลเร็วตามช่องบนความสวยลากไส้ ตอนนี้รอดูเกมจริงนัดแรกอยุ่ครับ อาจจะยังไม่ลงตัวแต่การเล่นจริงดีกว่าเกมอุ่นเครื่องแน่นอนค่อยๆปรับไป พร้อมกับเก็บสามแต้มไปเรื่อยๆครับ แมนซิตี้ สู้ๆๆๆๆๆๆ แชมป์ๆๆ

คำว่า เพื่อนบ้านผุ้น่ารำคาญ นี้ ตอนนี้ท่าจะกลายเป็น เพื่อนบ้านผุ้น่ากลัว ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วล่ะ คำว่า ทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่ง แต่ก่อน แมนซิตี้ ใช่ เพราะไม่มี ปวศ เหมือนบางทีม ต้องใช้เงินสร้าง แต่ตอนนี้ เพื่อนบ้านแมนซิตี้ ต่างหาก เรียกว่า ทุ่มเงินอย่างหน้ามืด เพื่อกลับจากขุมนรก 5555
ปากก็พูด เงินซื้อความสำเร็จไม่ได้ เชลซีเองก็เคยโดนกล่าวหาแบบนี้ พอหลัง ๆ ทั้งเชลซีและแมนซิ ช่วยกันกอบโกยแชมป์ เจ้าของวลีนี้ ต้องยอมกลืนน้ำลายอวยทีมตัวเองว่า ทำถุกแล้ว ดีแล้ว ที่ซื้อเด็กเก่ากลับมาในราคา 100 ล้าน 5555
น่าฉงฉาน ซื้อของฟรีกลับมาเป็นร้อยล้าน อิ อิ
555 แฟนผียังจะหมดลุ้น

..เกมพรีเมียร์มันโหดกว่าลีกอิ่น อืบรา 34 แล้ว กลัวจะเดี้ยงเสียก่อนน่ะซิ..

..ป๊อกบ้าไม่ใช่เทวดาคนเดียว บอลเล่น 11 คน..

..อีกไม่กี่วันแล้วก็จะรู้แล้วว่าใครคือของจริง !

ต้องพูดกัน แบบ ปอนด์ต่อ ปอนด์  แมนยู ฤดูกาลนี้ มีดีแค่ไม่เท่าไร เพราะขุมกำลังเก่าดีอยู่แล้ว ในยุคจารย์หลุยส์ เพียงแต่แกนำปรัชญามาใช้มากเกินไป ยิ่งฤดูกาลนี้หมายมั่นปั้นมือกับ แรซฟอร์ด มากกว่า มาร์กซิยาล เสียด้วยแถม ย่ำยีน้ำใจแบบไม่เห็นคุณค่าตัวในยุค จารย์หลุยส์ ยกเบอร์9 ให้อิบรา เสียอีก

กองกลาง 1 กลางหน้า 1 กองหลัง 1 แล้วบอกลงตัว ไว้ใจคาร์ริกขนาด เอาง่ายๆนะ ช่วงปีใหม่ แมนยูอาจวอดวาย เพราะมีเตะมากมาย แต่เผอิญไม่มีเตะบอลถ้วย  อาจพอรอดตัว

เนื่องจากซื้อ ป๊อกบา มาแพงเลยต้องขาย อะไหล่ เด็กปั้นในทีมออกไปเพื่อทำทุน ช่วงปีใหม่อีกครั้งนึง อย่างน้อยก็พอซื้อนักเตะดีๆได้อีก 2 คน

ถ้าตัวหลักเจ็บขึ้นมา ตัวสำรองของทีมมี performance เท่า ซิตี้ หรือไม่ในการเล่นแทนกันได้ อันนี้น่าคิดนะครับ  สำหรับผมแล้วมองว่า แมนยูไนเต็ด เหนือแมนซิตี้ ข้อเดียวคือมี ผู้รักษาประตู ชื่อ ดาบิด เด เคอา

บ.บู๋ เชียร์ทีมบู่ๆ ตะเพิดฟานกัล...จะเอาจ่ามู...จะเอาจ่ามู

บ.บู๋ เหมือนเด็กปัญญาอ่อน เชียร์ไปด่าไป

คราเนี้ยะแหละ...บอเอ๋ย บอบู่...จ่าหมู..จ่ามู...จะกลายร่างเป็น จ่าเฉย 55555555

ไอ้บู๋มันเด็กผี มันบ้าคิดเองเออเองมานานแล้วครับ ไม่มีหรอกที่จะไม่หาเรื่องทีมอื่นยิ่งมันอิจฉาเรือใบจะตายไปตั้งแต่ได้เจ้ของรวยมันกลัวเกินหน้าผี จนทีมเราได้แชมป์มันปรี๊ดแตกไปหลายทีแล้วครับ

เจอกันทั้งหมด 16 ครั้ง "มูมู่" เอาชนะ "เป๊ป" ได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น! สถิติมูโครตดี 555...

เมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสีฟ้านานแล้ว

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.