ฟุตบอล - พรีเมียร์ลีก

ปืนใหญ่ กำลังฮอตเปิดรังโขยกปอมปีย์ - ผีแดง ออกนอกรังแต่ยังน่าชนะ วีแกน (เดลินิวส์)

อาร์เซนอล-ปอร์ตสมัธ (21.00 น.)

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดประจำวันเสาร์ที่ 22 ส.ค.“ปืนใหญ” อาร์เซนอล จะปิดบ้านเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รอรับการมาเยือนของ "ปอมปีย์" ปอร์ตสมัธ โดย อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือสมองเพชรของ “เดอะกันเนอร์ส” พาทีมทำผลงานสุดยอดเยี่ยมใน 2 นัดที่ผ่านมา ด้วยการบุกชนะเอฟเวอร์ตัน 6-1 ต่อด้วยบุกกระหน่ำ กลาสโกว์ เซลติก 2-0 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อกลางสัปดาห์

นัดนี้เป็นการเล่นต่อหน้าแฟนตัวเองเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามหลังจากที่ยึดชุดเดิมมา 2 นัดติด คาดกันว่า เวนเกอร์ จะมีการสลับนักเตะบางตำแหน่ง เนื่องจากเพิ่งบอบช้ำเจ็บตัวไม่น้อยจากนัดฟัด เซลติก ปัญหานักเตะบาดเจ็บเป็นหน้าเก่า โยฮัน ฌูรู, ซาเมียร์ นาสรี, โทมัส โรซิคกี ขณะที่ ธีโอ วัลคอตต์ กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว รายชื่อ 11 คนแรกของทีม มานูเอล อัลมูเนีย เฝ้าเสา กองหลังเป็นหน้าเดิมประกอบด้วย บาการี ซานญา, วิลเลียม กัลลาส, โธมัส เวอร์มาเลน และ กาแอล กลิชี ขณะที่แผงกลางมี อเล็กซ์ ซง กับ เดนิลสัน ลงเล่นเกม แล้วใช้ เชส ฟาเบรกาส หรือ อาบู ดิยาบี ที่หายเจ็บแล้ว เป็นตัวทำเกมรุกคอยเชื่อมเกมอยู่หลัง อังเดร อาร์ชาวิน และ นิคลาส เบนท์เนอร์ ที่จะถ่างออกไปด้านข้าง ส่วนกองหน้าตัวเป้ารับหน้าที่โดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ด้าน พอล ฮาร์ต กุนซือทีมปอร์ตสมัธ ตัวผู้เล่นยังสมบูรณ์ขาดแค่ สตีฟ ฟินแนน และ เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน ยังอยู่ในช่วงพักฟื้น แต่จะได้ตัว แอนโธนี ฟานเดน บอร์ กองหลังทีมชาติเบลเยียมลงเล่นอีกครั้ง หลังจากประเดิมตัวจริงในนัดก่อนไปแล้ว โดยจะไปเล่นตำแหน่งริมเส้นด้านขวา ด้านแบ๊กซ้ายใช้งาน นาเดียร์ เบลจ์ฮัด ส่วนคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซิลแว็ง ดิสแต็ง ประสานงานกับ ยูเนส คาบูล ด้านแผงกลางใช้งาน เฮย์เดน มัลลินส์, ปาปา บูบา ดิย็อป, อารอน โมโคเอนา, นิโก กรานชาร์ และ จอห์น อูทากา ส่วนหน้าเป้า เฟเดริก ปิกิยอน

สำหรับสถิติการเจอกัน 10 นัดหลังสุด อาร์เซนอล กินขาดชนะถึง 6 เสมอ 4 ยังไม่เคยแพ้ แต่หากนับเฉพาะที่บ้านของ อาร์เซนอล 5 ปีหลังสุด อาร์เซนอล ชนะ 4 เสมอ 1 ยิงได้รวม 13 ประตู เสียไปแค่ 3 ประตู

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อาร์เซนอล - มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี ซานญา, วิลเลียม กัลลาส, โธมัส เวอร์มาเลน, กาแอล กลิชี, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส (อาบู ดิยาบี), อังเดร อาร์ชาวิน, นิคลาส เบนท์เนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ปอร์ตสมัธ - เดวิด เจมส์, แอนโธนี ฟานเดน บอร์, นาเดียร์ เบลจ์ฮัด, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, ยูเนส คาบูล, เฮย์เดน มัลลินส์, ปาปา บูบา ดิย็อป, อารอน โมโคเอนา, นิโก กรานชาร์, จอห์น อูทากา, เฟเดริก ปิกิยอน

ผลการแข่งขันที่คาด อาร์เซนอล ชนะ 3-0

เบอร์มิงแฮม-สโตค (21.00 น.)

"เดอะ บลูส์" เบอร์มิงแฮม ซิตี ทีมน้องใหม่ จะเปิดบ้านเซนต์ แอนดรูว์ส รับการมาเยือนของ "ช่างปั้นหม้อ" สโตค ซิตี โดย อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือทีม เจ้าถิ่นสภาพทีมดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เมื่อ ลี โบว์เยอร์ กองกลางขาโหดพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้แล้ว ขณะที่เกมรับ สกอตต์ ดันน์ และ จิโอวานนี เอสปิโนซา กลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มร้อย แต่ยังมีตัวเจ็บอื่นอยู่อย่าง มาร์คัส เบนต์, เดวิด เมอร์ฟี, เลียม ริดจ์เวลล์

เบอร์มิงแฮม ลงเล่นในบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน ตำแหน่งผู้รักษาประตู โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แผงหลังมี เกรกอรี วิญาล ยืนแบ๊กซ้าย สตีเฟน คาร์ ยืนด้านขวา คู่เซ็นเตอร์ใช้ สกอตต์ ดันน์ และ จิโอวานนี เอสปิโนซา มาที่แดนกลาง ลี โบว์เยอร์ ลงประสานงานกับ แบร์รี เฟอร์กูสัน ขณะที่ริมเส้นเป็น เซบาสเตียน ลาร์สสัน และ คีธ ฟาฮีย์ ส่วนแนวรุก เจมส์ แม็คฟาดเดน ยืนอยู่หลัง คริสเตียน เบเนิเตซ หัวหอกที่ได้โอกาสใหม่ลง 11 คนแรก โดยที่ แกรี โอคอนเนอร์ และ คาเมรอน เจอโรม เป็นตัวสำรอง

ฝั่ง "ช่างปั้นหม้อ" สโตค ซิตี ภายใต้การนำของ โทนี พูลิส สภาพทีมสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครแบน ขาดแค่ มามาดี ซิดิเบ ที่เจ็บอยู่นานแล้ว นัดที่ผ่าน สโตค มีการสลับนักเตะลง ซึ่งเกมนี้จะปรับอีกครั้ง แต่แผนการเล่นยังคง 4-4-2 โธมัส โซเรนเซน ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน แอนดี วิลกินสัน, อับดูลา ฟาย,ไรอัน ชอว์ครอสส์ และ แดนนี ฮิกกินบอตตอม ขณะที่แดนกลางมี รอรี ดีแล็บ จอมทุ่มไกล, เลียม ลอว์เรนซ์, แม็ทธิว เอเธอริงตัน และ เกล็น วีแลน สำหรับกองหน้าเป็นคู่เดิม เจมส์ บีตตี และ ริชาร์ด เครสเวลล์

สำหรับสถิติการเจอกันรวม 8 นัดหลังสุด เบอร์มิงแฮม ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 2 แต่การเล่นในบ้าน 4 ฤดูกาลหลังสุด เบอร์มิงแฮม เหนือกว่าจากการชนะ 3 เสมอ 1 โดย 3 ปีหลังสุดคือการชนะด้วยสกอร์ 1-0, 2-0, 3-1 และเสมอ 1-1 เมื่อปี ค.ศ.1995

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เบอร์มิงแฮม - โจ ฮาร์ท, เกรกอรี วิญาล, สตีเฟน คาร์, สกอตต์ ดันน์, จิโอวานนี เอสปิโนซา, ลีโบว์เยอร์, แบร์รี เฟอร์กูสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คีธ ฟาฮีย์, เจมส์ แม็คฟาดเดน, คริสเตียน เบนิเตซ

สโตค - โธมัส โซเรนเซน, แอนดี วิลกินสัน, อับดูลา ฟาย, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี ฮิกกิน บอตตอม, รอรี ดีแล็บ, เลียม ลอว์เรนซ์, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, เกล็น วีแลน, เจมส์ บีตตี, ริชาร์ด เครสเวลล์

ผลการแข่งขันที่คาด เบอร์มิงแฮม ชนะ 1-0

ฮัลล์ ซิตี-โบลตัน (21.00 น.)

ฟิล บราวน์ กุนซือทีม “ไทเกอร์ส” ฮัลล์ ซิตี นำทีมเล่นในถิ่นเคซี สเตเดี้ยม เจอกับ “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” โบลตัน วันเดอเรอร์ส โดยสภาพทีมของ บราวน์ ไม่ค่อยแตกต่างจากนัดล่าสุดมากนัก ดีน มาร์นีย์ ยังเจ็บเข่าไม่หาย เช่นเดียวกับจิมมี บูลลาร์ด และ เอียน แอชบีย์ โดยรายหลังจะขึ้นเขียงผ่าตัดที่หัวเข่าและอาจต้องพักนาน 9 เดือน เช่นเดียวกับ ริชาร์ด การ์เซีย และ เคร็ก ฟาแกน เจ็บอยู่ก่อน ด้าน โจซี อัลติดอร์ กองหน้าทีมชาติสหรัฐน่าจะลงเล่นได้แล้ว ถ้ายังไม่ได้ก็จะเป็นคาเล็บ โฟลันในการจัดทีม บอยซ์ มายฮิลล์ เฝ้าเหมือนเดิม ในแดนหลังใช้งานหน้าเดิม สจีเวน มูยูโคโล, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนโธนี การ์ดเนอร์ และ แอนดี ดอว์สัน ส่วนตรงกลาง แบร์นาร์ด เมนดี อยู่ด้านขวา สตีเฟน ฮันต์ อยู่ด้านซ้าย ตรงกลางใช้ 2 ตัวเก๋า จอร์จ บัวเต็ง คอยตัดเกม โจวานนี ทำเกมรุก และคู่หัวหอกคือ โฟลัน กับ ดาเนียล กูแซ็ง

ด้าน แกรี เม็กสัน กุนซือโบลตัน วันเดอเรอร์ส ออกสตาร์ตไม่สวยนัก แพ้คาบ้านต่อ ซันเดอร์แลนด์ นัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ลงเตะ ทำให้นักเตะ ในทีมสภาพสดกว่าเจ้าถิ่นแน่นอน ขุมกำลังโบลตันถือว่าดีเท่าที่มีอยู่ ไม่มีใครเจ็บเพิ่มจากนัดแรก ยุสซี ยัสเคไลเนน นายด่านฟินแลนด์เฝ้าเสา เกมรับ พอล โรบินสัน, แกรี เคฮิลล์, แซต ไนท์ และ แซม ริกเกตต์ส ส่วนเกมตรงกลาง เกวิน แม็คแคนน์, แมททิว เทย์เลอร์, ฟาบริซ มูอัมบา และ ฌอน เดวิส ขณะที่แนวหน้าเป็น คู่เดิม เควิน เดวีส์ กองหน้าจอมโขก และโยฮัน เอลมานเดอร์ หอกสวีเดน

สำหรับสถิติการเจอกันเมื่อปีที่แล้ว ฮัลล์ แพ้ในบ้านก่อน 0-1 ส่วนนัดที่ 2 เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ฮัลล์ บุกไปยันเสมอ 1-1

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ฮัลล์ ซิตี - บอยซ์ มายฮิลล์, สตีเวน มูยูโคโล, ไมเคิล เทอร์เนอร์, แอนโธนี การ์ดเนอร์, แอนดี ดอว์สัน, แบร์นาร์ด เมนดี, สตีเฟน ฮันต์, จอร์จ บัวเต็ง, โจวานนี, คาเลบ โฟลัน, ดาเนียล กูแซ็ง

โบลตัน - ยุสซี ยัสเคไลเนน, พอล โรบินสัน, แกรี เคฮิลล์, แซต ไนท์, แซม ริกเกตต์ส, เกวิน แม็คแคนน์, แมททิว เทย์เลอร์, ฟาบริซ มูอัมบา, ฌอน เดวิส, เควิน เดวีส์, โยฮัน เอลมานเดอร์

ผลการแข่งขันที่คาด ฮัลล์ ชนะ 2-1

แมนเชสเตอร์ ซิตี - วูล์ฟแฮมป์ตัน (21.00 น.)

"ใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรังซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ “หมาป่า” วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส น้องใหม่ โดยเมื่อกลางสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไปเตะฟุตบอล โจน กัมเปอร์ โทรฟี่ ที่สนามคัมป์นู เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ผลงานเยี่ยมบุกไปเชือด วีแกน ถึงบ้าน 1-0

สภาพทีมในนัดนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มี มาร์ค ฮิวจ์ส เป็นกุนซือ ยังไม่มี โรเก ซานตาครูซ ศูนย์หน้าปารากวัย ที่ยังเจ็บเข่า ต้องพักรักษาตัวอีกระยะ รวมทั้งยังขาด ไมเคิล จอห์นสัน และ แวงซ็อง กอมปานี ที่ยังไม่หายเดี้ยงเช่นกัน แต่ฮิวจ์ส ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ เนื่องจากมีทางเลือกเพียบ โดยเกมนี้ ยังเน้นเปิดเกมรุกเต็มที่ 3 ประสานในแดนหน้าจะเป็น โรบินโญ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ คาร์ลอส เตเบซ ส่วน เครก เบลลามี เป็นตัวสำรอง ขณะที่แดนกลาง ใช้ สตีเฟน ไอร์แลนด์ คุมเกมกับ แกเรธ แบร์รี โดยมี ชอน ไรท์ ฟิลิปส์ ที่ฟอร์มกำลังดี เดินเกมริมเส้น ส่วนแนวรับมีไมกาห์ ริชาร์ด เล่นแบ๊กขวา, ริชาร์ด ดันน์ จับคู่กับ โคโล ตูเร ในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง และมี เวย์น บริดจ์ เล่น แบ๊กซ้าย

ด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน ของมิค แม็คคาร์ธี กุนซือมากฝีมือ เก็บชัยชนะนัดแรกได้แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นถือว่ายังไม่น่าประทับใจนัก เกมนี้ไม่มีนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม จึงคาดว่าน่าจะใช้ชุดเดิมลงสู้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี โดยมีแมทธิว จาร์วิส จับคู่ล่าตาข่ายกับ แอนดรูว์ คัฟ ฮีโร่จากนัดที่แล้ว ส่วน ซิลแวง อีแบงค์ เบลค ยังเดี้ยง ลงเล่นไม่ไหว ขณะที่แดนกลางมี เนนาด มิลิยาส เดินเกมรุกกับ คาร์ล เฮนรี โดยมี เดวิด เอ็ดเวิร์ด คุมจังหวะเกม ส่วนเกมรับมีไมเคิล แมนเซียนน์ ดาวรุ่งดีกรีทีมชาติอังกฤษ เป็นตัวหลักร่วมกับ โจดี แครดดอค

สำหรับสถิติการเจอกัน 10 นัดหลังสุดของทั้งคู่ ปรากฏว่า วูลฟ์แฮมป์ตัน มีสถิติดีกว่า ชนะไปถึง 6 นัด ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะแค่ 2 นัด และเสมอกันอีก 2 นัด และหากดูเฉพาะเกมในบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี ปรากฏว่า วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ยังมีสถิติดีกว่า เมื่อชนะได้ถึง 3 นัด เสมอ 1 นัด และ แพ้แค่ครั้งเดียว

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชย์ กิฟเวน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, โคโล ตูเร, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์ ฟิลิปส์, แกเรธ แบร์รี, คาร์ลอส เตเบซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบินโญ

วูล์ฟแฮมป์ตัน - เวย์น เฮนเนสซี, ริชาร์ด สเตียร์แมน, โจดี แครดดอค, ไมเคิล แมนเซียนน์, สตีเฟน วอร์ด, เกรก ฮัลฟอร์ด, เดวิด เอ็ดเวิร์ด, คาร์ล เฮนรี, เนนาด มิลิยาส, แมทธิว จาร์วิส, แอนดรูว์ คัฟ

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ 3-1

ซันเดอร์แลนด์ - แบล็กเบิร์น (21.00 น.)

"แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ เปิดรังสเตเดี้ยม ออฟ ไลต์ เจอกับ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส โดยซันเดอร์แลนด์ เพิ่งจะแพ้เชลซี คารังตัวเอง 1-3 ทั้ง ๆ ที่ขึ้นนำไปก่อน นัดนี้จึงหวังจะแก้ตัวเต็มที่ เนื่องจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ถือว่าไม่ใช่ทีมแกร่ง มากนัก

สภาพทีมในนัดนี้ ซันเดอร์แลนด์ ที่มี สตีฟ บรูซ เป็นผู้จัดการทีม ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือโดนแบนเพิ่มเติม เกมนี้จึงน่าจะยืนพื้นด้วยนักเตะชุดเดิม ในแดนหน้าคาดว่า เคนวิน โจนส์ จะลงมาเล่นร่วมกับ ดาร์เรน เบนต์ ดาวยิงตัวใหม่ต่อไป โดยที่ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ เป็นแค่ตัวสำรอง ขณะที่แดนกลางใช้ลี แคตเตอร์โมล คุมเกม และมี คีแรน ริชาร์ดสัน รับหน้าที่ปั้นเกมทางริมเส้น ส่วนแนวรับมีแอนตัน เฟอร์ดินานด์ เป็นกำลังหลัก

ขณะที่ แบล็กเบิร์น ที่มี “บิ๊กแซม” แซม อัลลาไดซ์ เป็นผู้จัดการทีม เพิ่งได้ตัว มิเชล ซัลกาโด แบ๊กจอมเก๋า มาร่วมทีม แต่เกมนี้น่าจะเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนตัวหลักคนอื่น ๆ ยังอยู่กันครบ เนื่องจากไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือโดนแบนเพิ่มเติม มี เจสัน โรเบิร์ต จับคู่กับ เบเนดิคต์ แม็คคาร์ธี โดยมี ฟรังโก ดิ ซานโต ดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจากเชลซี ยังเป็นตัวสำรอง ขณะที่ แดนกลางมี สตีเวน เอ็นซานซี ปั้นเกมร่วมกับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ และ มอร์เทน กัมสต์ พีเดอร์เซน โดยที่ แนวรับใช้ คริสโตเฟอร์ แซมบา เล่นกับ กาเอล ชิเวต์ ตามเดิม

สำหรับสถิติการพบกัน 10 นัดหลังสุด ปรากฏว่า ซันเดอร์แลนด์ ชนะไป 3 ครั้ง และ แบล็กเบิร์น ชนะไป 4 ครั้ง และอีก 3 ครั้งเสมอกัน ขณะที่เกมในบ้านซันเดอร์แลนด์ 5 นัดหลังสุด ปรากฏว่า ซันเดอร์แลนด์ ชนะไปนัดเดียว เสมอ 2 นัด และ แพ้ไป 2 นัด ส่วนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เจอกันในพรีเมียร์ลีก 2 นัด ซันเดอร์แลนด์ เสมอในบ้าน แต่บุกไปชนะแบล็กเบิร์น 2-1 ในเกมเยือน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ซันเดอร์แลนด์ - มาร์ตัน ฟูลอป, ฟิลลิป บาร์ดสลีย์, แอนตัน เฟอร์ ดินานด์, แดนนี คอลลินส์, จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ลี แคตเตอร์โมล, ลอริค คานา, คีแรน ริชาร์ดสัน, เคนวิน โจนส์, ดาร์เรน เบนต์

แบล็กเบิร์น - พอล โรบินสัน, ลาร์ส จาคอบเซน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, กาเอล ชิเวต์, สตีเฟน วอร์น็อค, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ, คีธ แอนดรูวส์, มอร์เทน กัมสต์ พีเดอร์เซน, เจสัน โรเบิร์ตส์, เบเนดิคต์ แม็คคาร์ธี

ผลการแข่งขันที่คาด เสมอกัน 1-1

วีแกน - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (21.00 น.)

วีแกน แอธเลติก เปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 3 สมัยซ้อน โดยวีแกน ฟอร์มยังผีเข้าผีออก นัดแรกของฤดูกาลบุกไปชนะ แอสตัน วิลลา แต่นัดที่ 2 ดันพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน น้องใหม่ ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีปัญหาในเรื่องตัวผู้เล่นที่ยังเจ็บหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกองหลัง

เกมนี้ โรเบอร์โต มาร์ติเนซ กุนซือคนใหม่ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือโดนแบน สามารถส่งชุดเดิมลงเล่นได้ โดยคาดว่ากำลังหลักของทีม น่าจะเป็นชุดเดิมจาก 2 นัดแรก โดยมี เจสัน คูมาส ยืนเป็นกองหน้าคู่กับฮูโก โรดัลเยกา และใช้ ชาร์ล เอ็นซอกเบีย เดินเกมรุกร่วมกับ ยอร์ดี โกเมซ ขณะที่แนวรับเป็น พอล ชาร์เนอร์ จับคู่กับ ไตตัส บรัมเบิล

ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังมีปัญหา ในแนวรับ เมื่อริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานยา วิดิช 2 กองหลังตัวจริง ยังลงเล่นไม่ได้ โชคดีที่จอนนี อีแวนส์ น่าจะผ่านการทดสอบความฟิต ลงเล่นคู่กับ จอห์น โอเชีย ขณะที่แดนกลาง ไมเคิล คาร์ริค น่าจะลงเล่นคู่กับ อันแดร์สัน กองกลางไดนาโม โดยมี นานี และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เดินเกมทางริมเส้น ส่วนคู่กองหน้าน่าจะเป็นเวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ โดยไมเคิล โอเวน จะเป็นตัวสำรอง

สำหรับ สถิติในการพบกัน 10 ครั้งหลังสุด ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือกว่ามาก เมื่อเป็นฝ่ายชนะไปได้ถึง 9 นัด มีเสมอแค่นัดเดียวส่วนเกมในบ้านวีแกน ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะได้ทั้ง 5 ครั้งหลังสุด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

วีแกน - คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลช็อต, ไตตัส บรัมเบิล, พอล ชาร์เนอร์, มายเนอร์ ฟิเกรัว, ไมเคิล บราวน์, เฮนดรี โธมัส, ชาร์ล เอ็นซอกเบีย, ยอร์ดี โกเมซ, ฮูโก โรดัลเยกา, เจสัน คูมาส

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เบ็น ฟอสเตอร์, แกรี เนวิลล์, จอห์น โอเชีย, จอนนี อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, ไมเคิล คาร์ริค, อันแดร์สัน นานี, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์

ผลการแข่งขันที่คาด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0


ที่มา http://hilight.kapook.com/view/40616