Members

คุยข่าวเช้า

สวัสดีคับพี่น้อง ก่อนอื่นหลังจากกล่าวทักทายก็ขอชี้แจงแถลงไขถึงโลโก้ใหม่กับคำว่า "สนามหลวงคุ้ยข่าว" ต้องยอมรับตามตรงว่าได้ไอเดียเดิมมาจากรายการวิทยุและการกระจายเสียงที่โด่งดังในอดีตของ DJ. Note แต่เมื่อมันมาเป็นในแบบของนาย Saber ก็ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะรายการคอลัมนิสต์ "สนามหลวงคุ้ยข่าว" จะเป็นคอลัมเพื่อเสื้อฟ้า(ฮา-) เพราะงั้นก็ขอฝากฝัง "สนามหลวงคุ้ยข่าวไว้ในอ้อมใจแฟนด้วยนะคร้าบ >.< "




คุ้ยข่าวเที่ยง

ในส่วนนี้จะมาสรุปกันถึงผลการแข่งขันในอาทิตย์ล่าสุด รวมถึงพัฒนาการ รูปแบบการเล่น และมุมมองทัศนคติแบบนาย Saber


" 1-0 ที่ยำใหญ่ และ โดนยำ !! " ในการแข่งขันนัดล่าสุดกับทีมน้องใหม่ที่มีกุญซือตบหัวแล้วลูบหลังแบบ MM(Mix Max) เป็นคนคุมทีม ก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นเหล่า Guru หลายสำนักต่างทำนายทายทักเป็นสำนักแม่หมอว่าแมนเชสเตอร์ซิตี้จะตะบันลูกกลมๆไปนอนประตูของ "เดอะวูฟ" ได้ไม่ต่ำกว่า 2 ลูก ประจวบเหมาะกับการปั่นกระแสให้ร้อนแรงของ MM ที่ทำให้สภาพอากาศที่หนาวเย็นของเมืองแมนเชสเตอร์ร้อนระอุในทันทีด้วยคำพูดที่ว่า "ซิตี้นั้นยังไม่ถึงขั้น หลายคนอาจจับตามองแต่ผมยังคิดว่ายูไนเต็ดยังเก่งกว่า พวกเขาไม่มีทางไปเทียบรัศมีเพื่อแย่งแชมป์ได้หรอก" นั่นเป็นคำพูดอันตรายซึ่งอาจเป็นระเบิดโทสะให้กลับมาฟาดฟันตัวเองของ MM แต่ก็อาจก่อกวนให้กระบวนทัพของซิตี้ต้องหัวเสียแต่ปั่นห่วนได้เช่นกัน แค่ก่อนเริ่มเกมก็เดือดซะ (ฮา-)



ในเวลา 21.00 น. ตามเวาประเทศไทย ทรุยสปอรต์ 4 ทำการถ่ายทอดสด และเริ่มคิดออฟ ฟุตบอลลูกกลมๆถูกเริ่มเกมโดยผู้มาเยือยซึ่งหวังจะพกคะแนนกลับไปอย่างน้อย 1 แต้ม แต่เกมกลับไม่เป็นเช่นนั้น เหล่าขุนพลทีมมหาเศรษฐีกลับเป็นฝ่ายคุมเกมได้เหนือกว่าและในความเร็วในรุกที่มีไม่แพ้ทีมในในโลกไล่บดและนวดซะจนน้องใหม่มี "ดวงตาเห็นธรรม" ลงไปอุดกัน 11 ตัวหลังเสร้นครึ่งสนาม และก็อั้นไม่อยู่โดน "ไอมืดก้านยาว" อเดบายอร์ตะบันในนาทีที่ 17 ของเกม แมนซิตี้ขึ้นนำอย่างรวดเร็วและยังคงเกมรุกไปจนจบ 45 นาทีแรก สงสัยว่าดาบสองคมของการไซโคจะส่งผลร้ายต่อ MM เสียแล้ว

ครึ่งหลังเริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร MM แสดงแสงยานุภาพปรับเปลี่ยนจุดอ่อน 2 คนในทันที และได้ผลเสียด้วย เหล่าขุนพลของ "เดอะซิตี้" ไปไม่เป็นขึ้นบอลไม่ได้ งมโข่ง และโดนโต้กลับเร็ว แต่กระนั้นก็ยังไม่วายแสดงผลงานที่ Big 4 ชอบทำกันนั่นคือการพลิกเกมฉับพลัน แม้จะเป็นรองแต่ทีมใหญ่ที่มีคุณสมบัติที่จะยิ่งใหญ่นั้นไม่จำเป็นต้องครองเกมตลอด 90 นาที หากแต่แม้จะโดนกดดันแต่เมื่อมีการโต้กลับ ลูกบอลจะต้องถูกส่งและลำเลียงไปยังประตูคู่ต่อสู้ให้เร็วและแปรเปลี่ยนเป็นประตูชัย น่าเสียดายที่จังหวะเหล่านี้ 2-3 ครั้งไม่เกิดผลในขั้นตอนสุดท้าย จนกระทั่งนาทีที่ 80 "ถีบจักร" ได้ถูกส่งลงเป็นมาหนทางเพื่อเลือก เนื่องจาก 3 ประสานกองหน้า ณ. เวลานี้นัดกันตีนบอด (รวมไปถึงซุปเปอร์เหม่ง) มีโอกาสจ่อๆก็ยิงไม่เข้า เพราะงั้นจึงเป็นหน้าที่ที่โดนคาดหวังว่า "ถีบจักร" อาจเปลี่ยนลูกเหล่านั้นเป็นประตูได้ !? แต่กระนั้นดูเหมือนอนาคตอันแสนมืดมนจะมาเยือนเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการดวล 1-1 แบบลูกผู้ชาย การเข้าชาร์จจ่อๆหน้าประตู การเลี้ยงโต้กลับ แม้แต่การส่งบอล เจ้าหนูถีบจักรไม่ได้แสดงคุณสมบัติอันสมควรส่งลงเป็นตัวจริงให้เห็นกันเลยแม้แต่น้อย (จนบางคนคิดว่าถ้าเป็น โจ ที่ย้ายไปเอฟเวอร์ตันล่ะ จะเป็นไง ?)จึงทำให้เกมจบแบบกร่อยๆ 1-0 ฝากผลงานย่ำแย่ในการทำประตูด้วยสถิติ ยิง 16 ครั้ง เข้ากรอบ 13 แต่ได้ประตู 1 มองในแง่ดีว่าซิตี้อาจไม่มีดวง ก็อาจเป็นได้ เพราะแม้จะ 1 ลูกแต่หากเกมนั้นจบด้วยคำว่า "ชัยชนะ" นั่นย่อมหมายถึง 3 คะแนนไม่แตกต่างกัน แต่หากมองลึกๆสิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง 1 ลูก กับ 5 ลูก มันคือสภาพจิตใจ ดังเช่นในตอนนี้ทีมใดๆที่จะไปชนกับเจ้าปืนใหญ่ "อาเซน่อล" หรือแม้แต่ไก่เดือยทอง "สเปอร์" ก็อาจต้องคิดหนักเมื่อไปเจอกับความหึกเหิมของเหล่ากำลังพลนักเตะที่ล้วนแล้วจะถล่มคู่ต่อสู้มาอย่างไม่ไว้หน้าโดยเฉพาะ "เดอะกันเนอร์" ที่เล่น 2 นัดล่อไป 10 ประตู ดังนั้นคุณภาพในการพังประตูจึงเป็นสิ่งที่จะกดดันฝ่ายตรงข้ามได้ดีทีเดียว แล้วไปถึงยังเป็นอาวุธหลักทางจิตวิทยาซึ่งทำให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามเกิดอาการหวั่นเกรงอีกต่างหาก แม้จะได้ 3 คะแนนเท่ากัน แต่คุณค่านั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนั่นเอง.........




ยามเย็นคุ้ยข่าว

กลับมาที่มุมมองทัศนคติต่อทีม ในการแข่งขัน 3 นัดหลังของแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นทำผลงานไม่น้อยหน้าทีมใดๆ ด้วยการบุกไปชนะกุหลาบไฟ 2-0 , บินลัดฟ้าไปอุดประตูชนะ 1-0 , รวมถึงล่าสุดจบสกอร์ไม่เฉัยบขาดชนะไป 1-0 เหล่านี้แม้จะทำให้คะแนนของทีมในตารางยังสวยหรูและขวัญกำลังใจของนักเตะดีเยี่ยม แถมยังน่าทึ่งกัลผลงานที่เรียกว่า "คลีนชีท" หรือการไม่เสียประตูให้คู่แข่งติดต่อกันมา 3 นัดซ้อนรวมทุกรายการ นั่นอาจเป็นสัญญาณเล็กๆให้เป็นความหวังแกเหล่าแฟนบอล แต่กลับกันลองมองในสภาพทีมโดยรวมแล้วยังพบปัญหาในหลายๆจุดที่ต้องเป็นปัญหา ในสภาพกองหลังปัจจุบัน การทำงานของกราบซ้ายและขวานั้นไม่สมบรูณ์ การเติมเกมสูงแล้วกลับลงมาไม่ทันยังคงเป็นปัญหาเป็นระยะๆ การที่กองหลัง Key Man อย่าง "โคโล่ ตูเร่" ต้องรับบทหนักเพียงคนเดียวยังเป็นปัญหา และยังมีการวิเคราะห์ถึงกองหลัง "เดอะไอริช" ของทีมอย่าง "ริชาร์ด ดันด์" ที่เหล่า Guru และสื่อหลายสำนักต่างฟันธงถึงจุดอึ่มตัวกับทีม และการเล่นที่ดูเหมือนขาดแรงจูงใจ และอาจรวมไปถึงบทวิเคราะห์ถึงการเสื่อมภาพของกองหลังที่เร็วกว่ากำหนด สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหาหลักในการแก้ไขของ "มาร์ค ฮิวส์" ในการเจอะเจอกับทีมแบล๊กเบริ์น , บาเซโล่น่า(ชุดผสม) , วูฟ จะเห็นได้ว่าทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้จะต้องเพิ่งพาซุเปอร์เชย์ ในการช่วยทีมให้พ้นเคราะห์พ้นภัย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้เรื่อยไปคิดว่าวันใดวันหนึ่งที่ซุเปอร์เชย์จะช่วทีมไม่ได้ย่อมมาถึง

การเปิดเกมรุกเต็มพื้นที่ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้นมากเสียยิ่งกว่าปีที่แล้ว นั่นย่อมหมายความว่าพื้นที่แดนหลังที่เสี่ยงกับการถูกโต้กลับย่อมมีมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันหากแดนกลางคุมเกมและสามารถป้อนบอลลูกกลมๆไปให้แดนหน้าประสานงานได้เรื่อยๆย่อมหมายถึงประตูชัยที่เป็นกอบเป็นกำแต่นั่นก็ต้องอยู่ในสมการของการจบสกอร์ที่สมบรูณ์แบบด้วย เพราะมันจะไร้ประโยชน์หากป้อนบอลไปแล้วบอลนั้นกลับเข้ามือผู้รักษาประตูหรือเข้ามือผู้ชมที่อยู่ด้านหลังเสีย ดังนั้นแล้วการครอบครองและครอบคุลมพื้นที่ของมิดฟิลล์เก๋าเกม "แบรรี่" และมิดฟิลล์อายุน้อย "ไอร์แลน" จึงต้องถูกฝึกฝนอย่างหนัก วันใดก็ตามที่ทั้งคู่สามารถครอบครองเกมได้เหนือกว่าคู่แข่ง เหนือว่าแดนกลางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เหนือว่ามิดฟิลลิเวอร์พูล เหนือกว่าฟาเบรกัส และแกร่งกว่าเอสเซียงของเชลซี เวลานั่นจะเป็นเวลาที่แมนเชสเตอร์ซิตี้จะได้แสดงประสิทธิ์ภาพการรุกที่อันตรายระดับโลกให้ประจักษ์ และวันใดก็ตามที่แผนการรุกของแมนเชสเตอร์ซิตี้ไม่ได้พึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งแต่เพิ่งพาระบบเกมจะเป็นวันที่คู่แข่งต้องยำเกรงแมนซิตี้เป็นที่สุด รวมไปถึงหากวันใดที่แมนเชสเตอร์ซิตี้รู้จักการเล่นบอลทั่วสนามไม่เน้นแต่เพียงการเจาะเข้าตรงกลางอย่างเดียว......วันนั้นแมนเชสเตอร์ซิตี้จะถูกยกเป็นทีมต่างดาว (ฮา-)




สนามหลวงทันเหตุการณ์

สนามหลวงทันเหตุการณ์จะคงจะหนีพ้นไปจากประเด็นนี้ไม่ได้แน่นอน "โจลีอนน เลสคอตส์" กองหลังตัวสำรองของทีมชาติอังกฤษ เจ้า "หน้าบาก" โด่งดังสุดๆด้วยฟอร์มเกมรับที่มั่นคงแม้ไม่แข็งแกร่งดัง "เซอร์บิเนเตอร์(เนมันย่า วิดิช)"แต่แน่นอน แม้ไม่รวเร็วมากมายดัง "เดอะเอ๋อ (เจมี่ คาราเกอร์)" แต่ไม่ค่อยพลาด และแม้จะไม่แกร่งกร้าวดัง "มิสเตอร์เชลซี (จอน์ท เทอร์รี่)" แต่ฝากความเชื่อถือได้ ดังนั้นดังที่กุญซือหน้าอีที "เดวิด มอยส์" เคยกล่าวไว้ ในเกาะอังกฤษหากมองที่ทีมชาติ ตัวเลือกกองหลังอันดับแรกคงหนีไม่พ้น จอนท์ เทอร์รี่ , ริโอ เฟอร์ดินาน , เจมี่คาราเกอร์ แต่หากรองลงมาก็จะเป็นทีของ โจลีออน เลสคอตส์ , แมททิว อัพสัน , ฟิล จากีก้า " จากคำพูดดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นที่น่าแปลกใจกับการรุกเร้าของแมนเชสเตอร์ซิตี้ทีมที่ต้องการประกาศศักดาไปเทียบชั้นกับเหล่า Big 4 การได้ตัวกองหลังทางเลือกของทีมชาติอังกฤษ มานั้นอาจเป็นการใช้ชื่อเสียงของนักเตะเข้าข่มไปในตัวนอกเหนือจากฝีมือ หากมองตามความคุ้มค่าก็จะคาดเดาได้ทันทีว่าหวยจะมาออกกับเจ้า "กองหลังหน้าบาก" ด้วยเหตุผลของอายุการใช้งาน และสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าตัวเลือกอีก 2 คนที่กล่าวไป ดังนั้นการหมายมั่นปั้นมือจะในความแกร่ง ความสด และความนิ่งของ "กองหลังหน้าบาก" ประสานกับความเก๋า ความเร็ว ของ "โคโล่ ตูเร่" จึงเป็นแผนการของ "มาร์ค ฮิวส์" กุญซือตกถังข้าวสารในปีนี้ ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือไม่อย่างไร แต่ก่อนหน้านั้นเห็นทีจะต้องจัดการจบการซื้อขายนี้ให้เร็วที่สุด หากชักช้ายืดเยื้อเกินไปอาจพลาดของหลุดมือต้องรอถึงปีใหม่เป็นแน่แท้

Views: 81

Reply to This

Replies to This Discussion

ขอบคุณครับกับข่าว ยังงัยถ้าได้หน้าบากมาแล้ว รั่วน้อยลงแน่นอน คลีนชีต มา 3 นัดแล้วนะครับ ถึงแม้มีดวงก้อเถอะ
อ่านสนุกง่ะ ^_^
ถูกต้องครับ

ขอแก้นิดนึง วันใดที่ไอร์แลนด์กับแบร์รี่เข้าขากัน ไม่ต้องถึงกับเหนือกว่ากองกลางลิเวอร์พูลก็ได้ เอาแค่เข้าขากันก็พอ วันนั้นก็เป็นนรกแตกของทีมฝั่งนู้นแล้วครับ

วันใดที่เล่นบอลทั่วสนาม = เกมส์วูลฟ์ นอกจากโรบิญโญ่ที่พอนำแล้วติดโชว์ กับ ดันน์ที่สะกัดไม่ได้เรื่องแล้ว บอลไปทั่วสนาม และเล่นกันโหดมากๆครับ เสียอย่างเดียวคือพื้นที่สุดท้ายพลาดกันเอง และการประสานงานของไอร์แลนด์กับแบร์รี่ยังไม่เข้าทีกัน ทำให้เน้นใช้ระบบ "ข้ารุก เอ็งสกรีนบอล" "เอ็งรุก ข้าสกรีนบอล" ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจใช้ได้ แต่ถ้าวันใดสองคนนั้นประสานเกมส์ได้เหมือน อินิเอียสต้าผสานเกมส์รุกกับชาบี้เมื่อไหร่ วันนั้นนรกมาเยือนทีมใดก็ตามที่เจอทีมเราครับ คอนเฟิร์มจริงๆ

แบร์รี่คุมจังหวะได้เก่งไม่แพ้ใคร ผมคิดว่าแบบนั้น เขามา ทีมเราเก็บบอลได้ตลอด คุมจังหวะได้ตลอด เกมส์รุกไม่มืดมนเหมือนฤดูกาลที่แล้วด้วย
ขอบคุณครับ สาเบอร์
แทงยู

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.