[Preview Big Match]เดือดเปิดวีค!เรือมั่นบู๊หงส์ฟอร์มแรง,ส่ง เฆซุส-ซิลบา หักปีก
______________________________________________
คู่เดือดเปิดวีค... "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ จัดการส่ง กาเบรียล เชซุส ประสานคมแข้ง ดาบิด ซิลบา พังประตู ฝั่ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง ซาดิโอ มาเน่ ผนึก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล่าตาข่าย เกมเยือนถิ่น เอทิฮัด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 9 ก.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด :beIN SPORTS 1, เวลา : 18.30 น.

ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
(นัดที่ 4 ฤดูกาล 2017-18)
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2560
แมนฯซิตี้ (4) - ลิเวอร์พูล (2)
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 1, เวลา : 18.30 น.

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม, (แมนเชสเตอร์)

โจเซฟ ''เป๊ป'' กวาร์ดิโอล่า กุนซือ ''เรือใบ'' แมนฯ ซิตี้ พาทีมเบียดชนะบอร์นมัธ 2-1 ในเกมล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 3 เกม

สภาพทีมเกมนี้ ''เป๊ป'' จะได้ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาตัวใหม่พ้นโทษแบนกลับมา แต่ก็ต้องแลกด้วยราฮีม สเตอร์ลิง ที่โดนพักแข้งสวนทางกลับไป หลังโดนไล่ออกในเกมล่าสุด

นอกจากนี้ก็ต้องรอดูความพร้อมของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมที่มีอาการเจ็บน่องรบกวนเล็กน้อยมาจากการรับใช้ชาติ อาจทำให้พลาดเกมนี้ เรียกได้ว่าต้องรอลุ้นเช็คจนทีสุท้ายก่อนเตะ
------------------------------------------------------------------
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล พาทีมระเบิดฟอร์มถล่มอาร์เซน่อลขาดลอย 4-0 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด

ความพร้อมเกมนี้ คล็อปป์พร้อมประเดิม อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ตัวใหม่ที่ดึงมาจากอาร์เซน่อลในวันเดดไลน์ แต่เชื่อว่าน่าจะรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน เพราะลูกทีมกำลังทำผลงานกันได้ดีอยู่แล้ว

ทว่าจุดนึงที่อาจจะเปลี่ยนคือนายประตู หลังเปิดโอกาสให้ โลริส คาริอุส ออกสตาร์ตแบบเซอร์ไพรส์ในเกมล่าสุด แต่เกมนี้คาดว่า ซิมง มิโญเล่ต์ น่าจะกลับมาเฝ้าเสาตามปกติ

ส่วน นาธาเนียล ไคลน์ (หลัง) และ อดัม ลัลลาน่า (เข่า) ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว ยังชวดเหมือนเดิม

ขณะที่ ฟิลิเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ของทีมที่ชวดย้ายไปบาร์เซโลน่าในซัมเมอร์นี้ จะไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ โดย คล็อปป์ ตัดทิ้งก่อนทันที
------------------------------------------------------------
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ - เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ลีรอย ซาเน่
ผู้จัดการทีม : โจเซฟ ''เป๊ป'' กวาร์ดิโอล่า

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโอ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เยอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์
---------------------------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ลิเวอร์พูลยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่แพ้ต่อแมนฯ ซิตี้เลยใน 4 นัด (ชนะ 3 เสมอ 1)
- 7 นัดหลังสุดที่เจอกัน แมนฯ ซิตี้ชนะนัดเดียว
- แต่ถ้านับเฉพาะที่บ้านแมนฯ ซิตี้ พวกเขาแพ้ลิเวอร์พูลแค่นัดเดียวจาก 8 นัดหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 3)
- ลิเวอร์พูลยิงแมนฯ ซิตี้ได้ตลอด 13 นัดหลังสุดที่เจอกัน
- เรือใบแพ้เกมลีกในบ้านแค่นัดเดียวจาก 23 นัดหลังสุด (ชนะ 13 เสมอ 9)
- ตอนนี้แมนฯ ซิตี้ไม่แพ้เกมลีก 11 นัดติดต่อกัน ถือว่าดีสุดยุคเป๊ป
- เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' ยิงลิเวอร์พูลได้ตลอดใน 5 นัดหลังที่เอติฮัด
- ลิเวอร์พูลแพ้แค่นัดเดียวในการเจอกับทีมที่จบ 7 อันดับแรกของตารางในฤดูกาลก่อนหน้า (ชนะ 12 เสมอ 9)
- นอกจากนี้หงส์แดงยังคลีนชีตถึง 6 จาก 7 นัดหลังสุดในลีก
- ซาดิโอ มาเน่ มีโอกาสเป็นแข้งหงส์คนที่ 4 ที่ยิงได้ 5 นัดติดต่อกันในลีก

-----------------------------------------------------------
Cr.siamsport ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th