Members

ซิตี้เต็มสูบบุกปอมปีย์,ทอฟฟี่ลุ้นเฮแรก


ศึกพรีเมียร์ค่ำคืนนี้ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลุ้นทำสถิติเก็บชัยสามเกมรวดและรักษาคลีนชีตโดยมี"ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ในฐานะเจ้าถิ่นเป็นผู้ให้คำตอบหลัง 3 เกมแรกปราชัยมาเรียบ ส่วนเอฟเวอร์ตัน ที่ออกสตาร์แย่แพ้สองเกมติดมีคิวรับมือวีแกนที่ฟอร์มลุ่มๆดอน ขณะที่แอสตัน วิลล่าที่ฟอร์ทเทพบุกถล่มลิเวอร์พูลเกมที่แล้วจัยังรักษามาตรฐานได้หรือเปล่ากับการเปิดรังดวลฟูแล่ม


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

พอร์ทสมัธ (19) - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (5)


สนาม : แฟร็ตตัน พาร์ค
เวลา : 19.30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1



ผลการพบกันในลีกฤดูกาลที่แล้ว (2008-09)
- พอร์ทสมัธ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ พอร์ทสมัธ 6-0

ผลงานในลีกนัดที่ผ่านมา
- พอร์ทสมัธ : แพ้ ฟูแล่ม (เหย้า) 0-1 / แพ้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (เยือน) 0-1 / แพ้ อาร์เซน่อล (เยือน) 1-4
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ชนะ แบล็คเบิร์น (เยือน) 2-0 / ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า) 1-0

สภาพทีมโดยทั่วไป
พอร์ทสมัธ ของ พอล ฮาร์ท เริ่มต้นฤดูกาลอย่างย่ำแย่ เมื่อปราชัย 3 นัดรวดในพรีเมียร์ลีก สำหรับความพร้อมก่อนเกมวันอาทิตย์นี้ นายทวารจอมเก๋า เดวิด เจมส์ น่าจะเอาชนะอาการบาดเจ็บหัวเข่าลงเฝ้าเสาเจอทีมเก่าได้ หลังจากที่ลงซ้อมตามปกติตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

ขณะที่นักเตะใหม่อย่าง ทอมมี่ สมิธ และ ไมเคิ่ล บราวน์ ก็มีลุ้นประเดิมสนามทันที หลังย้ายมาจากวัตฟอร์ด และ วีแกน ตามลำดับ รวมไปถึง เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง กับ เจมี่ โอฮาร่า ที่ได้จากสเปอร์สมาเป็นรายล่าสุด

อย่างไรก็ดี แนวรับน่าจะเจอผลกระทบจากการขาย ซิลแว็ง ดิสแต็ง ให้เอฟเวอร์ตัน ทำให้ต้องถอย อารอน โมโคเอน่า มายืนเซนเตอร์แทน ส่วน เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน กองหลังอีกราย ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับ สตีฟ ฟินแนน และ ปาปา บูบา ดิย็อป

ระบบ 4-2-3-1 เฮย์เดน มัลลินส์ กับ อองโตนี่ ฟานเดน บอร์เร่ เป็นสองกลางรับ กลางรุกส่ง ทอมมี่ สมิธ เล่นร่วมกับ นิโก้ ครานชาร์ และ จอห์น ยูตาก้า ทิ้ง เฟรเดริก ปิกิยอนน์ ยืนหอกเป้า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงทุนไปกว่า 200 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเก็บชัยได้สองนัดแรก ก่อนจะผ่านเข้ารอบคาร์ลิ่ง คัพ ด้วยการบุกกำราบ คริสตัล พาเลซ เมื่อกลางสัปดาห์

มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือชาวเวลส์ ไม่ได้รับรายงานว่ามีนักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม ก่อนหวังจะยืดสถิติชนะรวด 100 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้ออกไปอีก หลังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ฮิวจ์สขนทัพใหญ่ลงสนามในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่ชนะพาเลซ และน่าจะยึดขุนพลหน้าเดิมๆ ต่อไปนำโดยสตาร์ดังทั้ง โจลีออน เลสค็อตต์, โคโล ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, คาร์ลอส เตเวซ และ โรบินโญ่

เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าทีมชาติเวลส์ และ ไนเจล เด ยองก์ กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ต่างหวังจะได้รับโอกาสให้โชว์ฝีเท้า แต่คงต้องรอบนม้านั่งสำรองไปก่อน ส่วน ไมเคิ่ล จอห์นสัน, โรเก้ ซานตา ครูซ และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี เป็น 3 แข้งที่ยังลงเล่นไม่ได้

ฮิวจ์ส เน้นรุกเต็มตัวในระบบ 4-3-3 นายทวารเป็น เชย์ กิฟเว่น แนวรับมี ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์ และ เวย์น บริดจ์ กองกลางเป็น ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และ แกเร็ธ แบร์รี่ ส่วนสามประสานแดนหน้าราคาเหยียบร้อยล้านปอนด์ คาร์ลอส เตเวซ เล่นกับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ โรบินโญ่


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร์ค ฮิวจ์ส เตรียมจัดทีมชุดใหญ่ลงเล่น โดย โจลีออน เลสค็อตต์ ที่คว้ามาจากเอฟเวอร์ตัน จะลงยืนเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ โคโล ตูเร่ ขณะที่แนวรุกจะใช้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ คาร์ลอส เตเวซ โดย โรเก้ ซานตา ครูซ ที่เจ็บเข่า แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่เจ็บเท้า และ ไมเคิ่ล จอห์นสัน ที่เจ็บโคนขาหนีบจึงกลับมาช่วยทีมไม่ได้เหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

พอร์ทสมัธ (4-2-3-1) : เดวิด เจมส์ - มาร์ก วิลสัน, ยูเนส กาบุล, อารอน โมโคเอน่า, นาดีร์ เบลฮาดจ์ - เฮย์เดน มัลลินส์, อองโตนี่ ฟานเดน บอร์เร่ - ทอมมี่ สมิธ, นิโก้ ครานชาร์, จอห์น ยูตาก้า - เฟรเดริก ปิกิยอนน์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เชย์ กิฟเว่น - ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โคโล ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, เวย์น บริดจ์ - ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, แกเร็ธ แบร์รี่ - คาร์ลอส เตเวซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบินโญ่


ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน


เรือใบไม่ชนะบ้านปอมปีย์ 4 ซีซั่นติด

แมนฯ ซิตี้ มีสถิติการพบกันที่เหนือกว่าพอร์ทสมัธ แต่ก็ไม่สามารถบุกมาเก็บ 3 แต้ม ที่แฟร็ตตัน พาร์ค ได้มา 4 ซีซั่นติดกันแล้ว

"เรือใบสีฟ้า" ยังไม่เคยบุกมาคว้าชัยที่ แฟร็ตตัน พาร์ค นับตั้งแต่เกมชนะ 3-1 เมื่อเดือน พ.ย. 2004 จากนั้นคือ พอร์ทสมัธ ชนะ 2-1 ซีซั่น 2004/06, พอร์ทสมัธ ชนะ 2-1 ซีซั่น 2006/07, เสมอ 0-0 ซีซั่น 2007/08 และ พอร์ทสมัธ ชนะ 2-0 ซีซั่นที่แล้ว เกล็น จอห์นสัน กับ เฮอร์มัน ฮไรดาร์สสัน ทำคนละประตู

ส่วนสถิติการพบกันรวม แมนฯ ซิตี้ ชนะ 37 เสมอกัน 17 และพอร์ทสมัธชนะ 25 ครั้ง โดยหากว่า แมนฯ ซิตี้ บุกชนะพอร์ทสมัธได้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาเก็บชัยชนะนอกบ้านเท่ากับที่ทำได้ตลอดซีซั่นที่แล้วในจำนวน 2 นัด

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ต้องการอีกแค่ 2 ประตู เพื่อทำสถิติพังตาข่ายในพรีเมียร์ลีก ครบหลัก 50 ลูก ส่วน ไมกาห์ ริชาร์ดส์ จ่อทำสถิติลงสนามตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้ แมนฯ ซิตี้ ครบ 100 นัด ขณะที่ โจลีออน เลสค็อตต์ เจ้าของค่าตัว 22 ล้านปอนด์ จ่อประเดิมสนามเกมลีกในฐานะกองหลังค่าตัวแพงอันดับ 3 ของโลก ต่อจาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ (30 ล้านปอนด์) และ อเลสซานโดร เนสต้า (26 ล้านปอนด์)

ฟากพอร์ทสมัธทำสถิติออกสตาร์ตฤดูกาลได้แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังแพ้รวดจาก 3 นัดแรก นอกจากนั้น "ปอมปีย์" ยังมีสิทธิ์แพ้ในลีกเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในเกมนี้ อย่างไรก็ตาม พอร์ทสมัธไม่เคยแพ้รวด 4 นัดแรกในลีก นับตั้งแต่เมื่อ 56 ปีที่แล้ว

นิโก้ ครานชาร์ จ่อลงสนาม 100 นัด ให้กับต้นสังกัด ขณะที่ สตีฟ ฟินแน่น แบ็กขวาตัวใหม่มีลุ้นทำสถิติลงเล่นตัวจริงนัดที่ 400 ในลีกอังกฤษ


บ่อนเชื่อเรือใบยังเฮ 1-0 จ่ายต่ำสุด

สกาย เบท บริษัทรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษ เปิดราคาสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก พอร์ทสมัธ-แมนฯ ซิตี้ โดยออกราคาที่แมนฯ ซิตี้ จะชนะ 1-0 เป็นสกอร์ที่จ่ายตอบแทนต่ำสุด 6/1 (แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน)

ชัยชนะ 1-0 ของแมนฯ ซิตี้ มีราคาที่ 6/1 ตามด้วย 2-0 ราคา 13/2, 2-1 ราคา 15/2, 3-0 ราคา 11/1, 3-1 ราคา 12/1, 3-2 ราคา 28/1, 4-0 ราคา 25/1 ส่วนผลเสมอ 0-0 ราคา 11/1, 1-1 ราคา 7/1, 2-2 ราคา 18/1 และ 3-3 ราคา 80/1

ขณะที่ชัยชนะ 1-0 ของพอร์ทสมัธ มีราคาที่ 12/1 ตามด้วย 2-0 ราคา 28/1, 2-1 ราคา 16/1, 3-0 ราคา 80/1 และ 3-1 ราคา 50/1


บายอร์เต็งเบิกตาข่าย

ในส่วนของผู้ทำประตูแรกของเกมที่ แฟร็ตตัน พาร์ค สกายเบท ยกให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกแมนฯ ซิตี้ เป็นเต็งหนึ่งที่ราคา 9/2 (แทง 2 จ่าย 9 ไม่รวมทุน)

อเดบายอร์ กับ เป็นเต็งหนึ่ง จากนั้นตามด้วยแข้งเรือใบ อย่าง คาร์ลอส เตเวซ 11/2, โรบินโญ่ 11/2, เคร็ก เบลลามี่ 11/2, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 15/2, มาร์ติน เปตรอฟ 9/1, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ 10/1 และ แกเร็ธ แบร์รี่ 14/1

ส่วนฝั่งปอมปีย์ เฟเดริก ปิกิยอน จ่ายต่ำสุดที่ 9/1 จากนั้นเป็น เอ็นวานโก้ คานู 10/1, นิโก้ ครานชาร์ 11/1, เดวิด นิวเจนท์ 11/1, จอห์น ยูตาก้า 14/1 และ นาดีร์ เบลฮาดจ์ 18/1

*******************************************************


เอฟเวอร์ตัน - วีแกน

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

เวลา : 21.00 น.

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 3

เอฟเวอร์ตัน ออกสตาร์ตฤดูกาลเหมือนฝันร้ายเริ่มจากโดนอาร์เซน่อลไล่ถล่ม 6-1 ก่อนที่จะถูกน้องใหม่ เบิร์นลี่ย์ อัด 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เกมยูโรปา ลีก ยังผลงานดีใช้ได้ โดยเกมนี้ซิลแว็ง ดิสแต็ง ปราการหลังชาวฝรั่งเศส ได้รับการคาดหมายว่า จะประเดิมสนามให้เอฟเวอร์ตันทันที หลังจากที่ย้ายมาจากพอร์ทสมัธ ทำให้ ฟิล เนวิลล์ เซนเตอร์แบ็กจำเป็น จะได้ขยับไปเล่นกองกลางเหมือนเดิม

นอกจากนี้ ดินิยาร์ บียาเลตดีนออฟ ดาวเตะรัสเซียที่เพิ่งย้ายมา ก็มีลุ้นได้มีชื่อในทีมด้วย เช่นเดียวกับ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ที่ผ่านเกมยูโรปา ลีก เพลย์ออฟกับซิกม่า โอโลมุช 15 นาทีท้าย หลังหายเจ็บเอ็นร้อยหวาย แต่สำหรับพวกที่เจ็บอยู่ก่อนหน้านี้อย่าง ฟิล จากีลก้า, มิเคล อาร์เตต้า และ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ยังคงหมดสิทธิ์เช่นเดิม

มอยส์ จัดทีมลงเล่นกับซิกม่า โอโลมุช เมื่อวันพฤหัสบดี แบบใช้ทีมชุดไม่ฟูล สำรองอย่าง แดน กอสลิ่ง, แจ็ค ร็อดเวลล์, โช ได้โอกาสลงตัวจริง แต่เกมนี้น่าจะถอยกลับไปเป็นสำรองตามเดิม โดย ทิม เคฮิลล์ กับ หลุยส์ ซาฮา ที่ไม่ได้เล่นเลย จะคืนทีมตัวจริง

ระบบ 4-5-1 ลีออน ออสแมน เล่นแดนกลางร่วมกับ มารูยาน เฟลไลนี่, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์ และ สตีเว่น พีนาร์ หัวหอกเป็น หลุยส์ ซาฮา ยืนค้ำ

วีแกน แอธเลติก ของกุนซือสแปนิช โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ หวังเรียกศรัทธาคืนกลับมาจากแฟนๆ อีกครั้ง หลังจากที่โดนแมนฯ ยูไนเต็ด บุกถล่ม 5-0 ในสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนตกรอบคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อพ่ายแบล็คพูลเละเทะอีกกลางสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม มาร์ติเนซ เตรียมปรับทัพหลายตำแหน่ง หลังจากที่โดนแบล็คพูลถล่ม 4-1 โดยอดีตนายใหญ่สวอนซีฉุนมากที่นักเตะ 9 คนที่สลับลงสนามเล่นไม่ได้เรื่อง

มีเพียงกองหลัง พอล ชาร์เนอร์ และกองกลาง โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ จากทีมตัวจริงที่สนามบลูมฟิลด์ ที่น่าจะยังมีชื่ออยู่ใน 11 ตัวแรกเกมนี้

เท่ากับตัวหลักๆ จะกลับมาเล่นเกมนี้ทั้งหมด ในระบบ 4-3-2-1 โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่, เฮนดรี้ โธมัส, ฆอร์ดี้ โกเมซ เป็นสามกลางรับ ให้ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย เดินเกมรุกกับ เจสัน คูมาส ส่วน ฮูโก้ โรดาเยก้า ยืนหน้าเป้า


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, โจเซฟ โยโบ, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - ลีออน ออสแมน, มารูยาน เฟลไลนี่, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์, สตีเว่น พีนาร์ - หลุยส์ ซาฮา

วีแกน (4-3-2-1) : คริส เคิร์กแลนด์ - มาริโอ เมลคิอ็อตต์, พอล ชาร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, มายนอร์ ฟิเกรัว - โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่, เฮนดรี้ โธมัส, ฆอร์ดี้ โกเมซ - ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, เจสัน คูมาส - ฮูโก้ โรดาเยก้า

ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

*******************************************************



แอสตัน วิลล่า - ฟูแล่ม

สนาม : วิลล่า พาร์ค

เวลา : 22.00 น.

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1

แอสตัน วิลล่า ทำผลงานยอดเยี่ยมในลีกนัดล่าสุด เมื่อบุกไปขย้ำลิเวอร์พูล 3-1 ถึงแอนฟิลด์ เมื่อจันทร์ที่แล้ว ทว่าก็กลับมาตกรอบยูโรปา ลีก อย่างหมดฟอร์ม แม้จะชนะ ราปิด เวียนนา ในบ้าน 2-1 ก็ยังไม่พอ

มาร์ติน โอนีล กุนซือทีมสิงห์ผงาด มีเรื่องให้ขบคิดเมื่อ เคอร์ติส เดวิส ปราการหลังร่างโย่ง ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมหรือไม่สำหรับเกมนี้ หลังอาการเจ็บหัวไหล่กำเริบซ้ำระหว่างเกมยูโรปา ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หากว่า เดวิส ไม่ไหวจริงๆ เจ้าหนูดาวรุ่งอย่าง เชน ลอว์รี่ อาจต้องถูกส่งลงสนามแทน ในกรณีที่โอนีลคว้าตัว ริชาร์ด ดันน์ มาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ทันเวลา

แต่สำหรับแบ็กซ้าย สตีเฟ่น วอร์น็อค พร้อมลงประเดิมสนามให้ต้นสังกัดใหม่เลยทันที หลังจากที่ย้ายมาจากแบล็คเบิร์น ด้วยสัญญา 4 ปี ส่วน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง กับ วิลเฟรด เบาม่า ยังต้องพัก ขณะที่ ลุค ยัง ซึ่งถอนตัวจากทีมไปเนื่องจากคนในครอบครัวเสียชีวิต ยังไม่แน่ว่าจะกลับมาทันเวลาหรือไม่

ระบบ 4-4-2 เจมส์ มิลเนอร์ เดินเกมแดนกลางร่วมกับ สตีฟ ซิดเวลล์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ และ แอชลี่ย์ ยัง หน้าคู่เป็น กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ กับ เอมิล เฮสกี้

ฟูแล่มผ่านเกมยูโรปา ลีก มาเช่นกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ไม่เหมือนกับแอสตัน วิลล่า ตรงที่ทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน ยังผ่านเข้ารอบแม้พ่ายทีมของรัสเซีย

ฮ็อดจ์สัน น่าจะได้ตัว คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ตัวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงช่วยทีม หลังจากที่เจ้าตัวทำท่าเอาชนะอาการบาดเจ็บข้อเท้าได้ทัน อย่างไรก็ดี นักเตะอีกหลายราย ต้องรอทดสอบความฟิตในนาทีสุดท้ายทั้ง แดนนี่ เมอร์ฟี่ (น่อง), พอล คอนเชสกี้ (หัวเข่า) และ บ็อบบี้ ซาโมร่า (เอ็นร้อยหวาย) ที่พลาดเกมกับอัมคาร์ เพิร์ม

ในขณะที่ แอนดี้ จอห์นสัน (ไหล่), ไซม่อน เดวิส (เท้า) และ โทนี่ คัลลิโอ (เอ็นร้อยหวาย) หมดสิทธิ์อย่างแน่นอน เพราะบาดเจ็บ สำหรับ โจนาธาน กรีนนิ่ง มีลุ้นได้ประเดิมสนาม แต่ตัวใหม่อีกรายอย่าง คากิโช ดิ๊คกาคอย ที่ย้ายมาจาก โกลเดน แอร์โรว์ส ในแอฟริกาใต้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยังไม่ฟิตพอลงเล่น

สูตร 4-4-2 เดเมี่ยน ดัฟฟ์ เดินเกมแดนกลางร่วมกับ ดิ๊คซั่น เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ โซลตาน เกร่า ให้ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ยืนหน้าคู่ บ็อบบี้ ซาโมร่า

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แอสตัน วิลล่า (4-4-2) : แบร็ด ฟรีเดล - ฮาบิ๊บ เบย์, การ์ลอส เกย่าร์, เคอร์ติส เดวิส (เชน ลอว์รี่), สตีเฟ่น วอร์น็อค - เจมส์ มิลเนอร์, สตีฟ ซิดเวลล์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, แอชลี่ย์ ยัง - กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, เอมิล เฮสกี้

ฟูแล่ม (4-4-2) : มาร์ค ชวาร์เซอร์ - จอห์น แพนต์ซิล, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, พอล คอนเชสกี้ - เดเมี่ยน ดัฟฟ์, ดิ๊คซั่น เอตูฮู, แดนนี่ เมอร์ฟี่, โซลตาน เกร่า - คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, บ็อบบี้ ซาโมร่า

ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์

Views: 129

Reply to This

Replies to This Discussion

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เกมนี้ให้ระวัง ครานชาร์ น่าจะเป็นตัวหลักแดนกลาง
เยี่ยมครับข้อมูลขอบคุณมากๆ จากนี้ไปเกมส์ของเราน่าลุ้นทุกนัด55555
ไม่กลัวอะไรมากมาย แต่กลัวอยู่อย่างเดียวว่า พอร์ทสมัธ ไม่เคยแพ้ใคร 4 นัดติดมา 56 ปีแล้ว นัดนี้กลัวจะชนะเรา แต่ยากนะ อิอิสู้ๆ ขอ0-2พอ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.