เวลาผ่านไปและผ่านไป แมนฯซิตี้ไร้โทรฟี่ใดๆเมื่อสิ้นซีซั่น หลายคนผายมือพร้อมจาบจ้วงใส่เป๊ป"ขอต้อนรับสู่พรีเมียร์ลีก"
เกมล่าสุดกับเบิร์นลี่ย์ ทีมที่มีผลงานดีเกินคาดโดยเฉพาะฟอร์มนอกรังกวาดแต้มมาได้หมดไม่ว่าจะเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์, เวมบลีย์, แอนฟิลด์และกูดิสัน พาร์คหากแท็กติกที่ใช้ได้ผลกับทีมอื่นก็มีอันต้องแตกละเอียดเมื่อเกมรุกของเรือใบค่อยๆนวด เล่นเหมือนกำลังซ้อม ไม่ได้เร่งทุกนาที มีจังหวะก็ค่อยขึ้นเกมฉับพลันก่อนเอาชนะไปสบายแข้ง 3-0
ถามว่านี่ใช่ไหมที่ทุกคนคาดหวังกับทุกสโมสรที่เป๊ปกุมบังเหียน?
แน่นอน
ชนะแบบมีสไตล์ ครองบอลเยอะ สร้างโอกาสเยอะและพยายามแย่งบอลคืนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
สถิติหลังเกมฟ้องแบบนี้ : ครองบอล 78%:22%, ยิง 15:6, ยิงตรงกรอบ 10:0 ขณะเดียวกันนับภาพรวมของฤดูกาลนี้พวกเขาก็เป็นเบอร์หนึ่งในหลายส่วนทั้งค่าเฉลี่ยครองบอลสูงสุด, ผ่านบอลแม่นยำที่สุด, เอาชนะลูกกลางอากาศมากที่สุดไปจนถึงพวกเขามีสองผู้เล่นที่แอสซิตส์รวมกัน 12 ลูกไปแล้วได้แก่ดาบิด ซิลบากับเควิน เดอ บรอยน์
เมื่อมองไปยังสิบเอ็ดผู้เล่นตัวแรกที่ลง ก็พูดได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วหลักๆก็ 3 ตำแหน่งคือนายทวารกับฟูลแบ็กสองข้างแม้กระทั่งพอเมนดี้บาดเจ็บยาว การที่เสี่ยงใช้งาน ฟาเบียน เดล์ฟ ให้รับบทแบ็กซ้ายจำเป็นก็ดูจะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทีมไปเรียบร้อยเพราะหมากของเป๊ปมักกำชับให้แบ็กสองข้างหุบเข้ากลางเสมือน"มิดฟิลด์เงา"คอยช่วยเฟร์นานดินโญ่อีกแรงตอนทีมกำลังได้เกมรุก นั่นแปลว่าแมนฯซิตี้ชุดนี้ด้วยปีกสองข้างไม่ว่าใครจะลงก็ตามก็มีทักษะที่เหนือพอจะเอาชนะกองหลังฝั่งตรงข้ามได้ไม่ยากในจังหวะหนึ่งต่อหนึ่ง
จอห์น สโตนส์จับคู่กับนิโกล่าส์ โอตาเมนดี้??
ก่อนหน้านี้ถ้าเห็นรายชื่อลงพร้อมกันก็คงมีแต่คนร้องยี้เนื่องจากต่างคนต่างเคยผิดพลาดร่วมกันมาไม่รู้เท่าไรทว่าตอนนี้ช่วยให้ทีมเสียไปเพียง 4 ลูกเท่านั้นในลีก
มีจุดหนึ่งที่อาจจะพูดได้ว่าเป็นการพลิกโฉมแมนฯซิตี้ทีมนี้ นั่นคือการที่เป๊ปเลือกถอยเดอ บรอยน์ลงมายืนมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับเฟร์นานดินโญ่หลังจากเคยพยายามลองดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมแล้วหลายตำแหน่งทั้งตัวรุก, ตัวริมเส้นจนถึงกองหน้าตามศัพท์แสง "false9"
ด้วยศักยภาพของเดอ บรอยน์จึงขับเคลื่อนเกมให้ทีมไหลลื่น ไม่แต่ทีเด็ดการผ่านบอลได้เสียหากในเกมรับเองก็ขยันลงมาช่วยไล่ทวงบอลคืนจนสถิติการแย่งบอลชนะมีถึง 1.4 ครั้งต่อเกมซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับผู้เล่นที่ถนัดเกมรุกมากกว่า(เปรียบเทียบเพื่อนร่วมชาติ เฟลไลนี่สถิติอยู่ที่ 1.8 ครั้งต่อเกม)
ฌอน ไดซ์ กุนซือเบิร์นลี่ย์เองออกมาสารภาพว่าทีมของเขาไม่มีอะไรจะสู้เต็งแชมป์ประจำฤดูกาลนี้ได้เลย ต่อให้แท็กติกทุกอย่างจะเหมือนกับผลงานมาสเตอร์พีซหลายเกมที่ผ่านมาแต่กำแพงมนุษย์สิบชีวิตก็มีอันพังทลายเมื่อถูกบอลเคาะสั้นอย่างใจเย็นค่อยๆบดขยี้ราวเครื่องจักร
เป๊ปพาแมนฯซิตี้ชนะ 11 เกมรวดทุกถ้วยเป็นสถิติยอดเยี่ยมสุดของสโมสรซึ่งสมัยคุมบาร์เซโลนาเคยทำได้ถึง 14 เกมเช่นกันกับบาเยิร์นก็เคยทำได้เท่ากับตอนนี้ 11 เกม
บางคนอาจยักไหล่ชี้ไปว่าเพราะอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนเลือกอยู่กับทีมที่ดีพร้อมทุกอย่าง ไม่ได้เก่งกาจจริงหรอก ฯลฯ หากที่อยากให้คิดว่าลองเอาโค้ชอย่างแซม อัลลาร์ไดซ์หรือโทนี่ พูลิสมาทำบ้าง เราจะเห็นบอลรูปทรงเดียวกันนี้งั้นหรือ??
แน่นอน แมนฯซิตี้ยังมีบททดสอบอีกเยอะกว่าจะไปถึงฝั่งฝัน มีแมตช์ยากๆรอ มีช่วงคริสต์มาสลากยาวปีใหม่อันแสนหฤโหดแต่วันนี้พวกเขาโชว์แล้วว่าฟุตบอลที่มีสไตล์นั้นมันมีผลดีอย่างไรในระยะยาว
ทุกคนลึกซึ้งถึงบอลแบบเป๊ป
ทว่าวันนี้เอาตามคำบอกเล่าของเจอร์เก้น คล็อปป์"99%ของทีมในโลกนี้จะไม่รอดหรอกเมื่อเจอซิตี้"
ชนะด้วยประตูชัยทดเวลาบาดเจ็บ ชนะด้วยลูกจุดโทษเพียงลูกเดียวตัดสิน ชนะด้วยเซตพีซ ชนะเพราะอีกฝ่ายทำเข้าตัวเองให้ ชนะแบบเทพีแห่งโชคเข้าข้าง ชนะแบบต้อนถล่มทลาย
หากชนะแบบเป๊ปอ่านได้ว่า 9 เกม ชนะ 8 กดไป 32 ลูก มีเปอร์เซนต์ครองบอลเฉลี่ย 65%
"ไก่ป่า"
Tags:
ฤดูกาลนี้แมนซิตี้ ไปไกลแน่ อ่านสนุกดี เรื่องอ่านหนังสือก็ชอบอ่าน คอลัมน์ ไก่ป่า
เมื่อเขาพูดเรื่องราวเกี่ยวกับทีมเรือใบเรา จะพลาดได้ไง แต่บางท่านขี้เกียจอ่าน
หาว่าเรื่องยาวไป เลยขึ้เกียจอ่าน 5555....
คนพูดก็พูดไปคนเขียนก็เขียนไป เพื่อนๆทุกคนจะเริ่มเห็นว่า หลังจากดูผลงานของเป๊ป จากปีก่อนหรือปีนี้ การจ่ายบอลสั้นครอบครองเกมส์ทำได้ไหลลื่นกว่าปีก่อน อาจเป็นเพราะนักเตะมีพละกำลังมากขึ้น ไม่เหมือนปีที่แล้วที่บอลมักอยู่กับ แบค สว. แล้วหลุดโดนกินตัวทำให้ โอตาเมนดี้ กับเฟอนันดิญโย ต้องตัดฟาวด์ โดนใบเหลือง-ใบแดง กันว่อนสนาม
ที่สำคัญไปกว่านั้น เราจะได้เห็นรูปแบบการเล่น " ทีมเป๊ป " มันดูสวยงามจริงๆ ไม่ทะลึ่งพรวดพราด เลี้ยงแบบไปไม่ได้ก็จะไป เหมือนไปลุ้นทีมแตน ล้มเชลซี ซึ่งผมมีความคิดว่า เราดูบอลไปด้วย แถมได้เทคนิคการเล่นไปด้วย ทำให้ดูบอลของหลายทีม ต้องยอมรับเลยว่า โค๊ชเก่งๆมีผลกับเกมส์จริงๆ
เพราะเอากุนซือ ระดับโลก คนอื่นมาคุม แมนซิตี้ในตอนนี้ เขาก็จะมีวิธีการของตนเอง จึงไม่แปลกเลยที่ เรือใบ จะจ้องเอาเป๊ปและยอมทุกอย่างที่เป๊ปอยากจะได้ ดังนั้น ผลงานในปีที่2 จึงแตกต่างจากปีแรกอย่างมากมายเสียจริงๆ คุ้มป่ะ สื่อหลายสำนักเงียบกริบ ไม่กล้าด่า มีแต่ชมๆๆๆ 555
เกมบุกมัน.... ถุลุงตาข่ายกระจุยกระจาย...
ชอบคุ่ เรือใบ ยุคเป๊บ.. และขอชื่นชมนักเตะทุกคน เต็มที่ วิ่งสู้ฟัด
เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดแบบนี้จริงๆเหรอ "99%ของทีมในโลกนี้จะไม่รอดหรอกเมื่อเจอซิตี้" ปลื้มใจจริงๆ
ตอนนี้เรือใบถูกมองเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
นักเตะได้รับการพัฒนา และจับตามอง
เป๊บเอง ได้รับการยอมรับในผลงานอยู่แล้ว
พอมาเล่นลีคที่พลิกผัน ตัวแปรเยอะ อย่างพรีเมียร์ลีค แล้วทำผลงานได้ดีเรื่อยๆ
สร้างทีมที่เข้มแข็งน่าเกรงขาม
ก็ยิ่งได้รับการชื่นชมยอมรับ ทั้งจากโค้ชร่วมอาชีพ ทั้งจากนักเตะ และจากสื่อ
สิ่งเดียวที่รอทุกคนในเรือใบสีฟ้าตอนนี้ คือผลรางวัล การกำชัยชนะ และชื่อเสียงระดับโลกล่ะครับ
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by