หลังจากที่ทีมอื่นมีกมีระบบลูกรักกันแตกต่างไปตามทีมนั้นๆ ไม่ว่า "ลูคัส เลว่า" และ " เฟอร์นัน โดตอเรส " ของลิเวอร์พูล "คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ " และ "ไรอัน กิ๊ก" รวมไปถึง " รูนี่ย์ " กับ "เบอร์บาตอฟ " ของแมนยู หากมองไปที่เชลซีหรืออาเซน่อลก็คงพอรู้แบบไม่ต้องพูดให้ยืดยาว
แมนเชสเตอร์ซิตี้เองก็ได้มีการนำระบบนี้เข้ามาใช้งานจนหน้ามืดตามัวมองอะไรไม่ถูกเช่นกัน ภายใต้การนำทีมของ "เดอะมาร์ค" ที่หัวเด็ดตีนขาด ไม่ว่าต้องการเกมแบบไหนก็ไม่สน สมควรเปลี่ยนกระแสยังไงก็ไม่มอง ดันทุลังส่งทีมลูกรักลงครบสูตร และแล้วผลออกมาก็คือเกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่ "วิลล่าปาร์ค"
แมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นทีมที่ขึ้นชื่อลือชาด้านเกมบุกไม่ว่าจะการถล่มบุกไม่ลืมหูลืมตา เกมรวดเร็วที่ทะลวงแผงหลังให้กระจุยแม้ว่าทีมที่ต่อกรจะเป็น BIG 4 เก่าก็ตาม.........แต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน Monday Night อันแสนน่าเบื่อก็คือ เกมอืดอาดเป็นเต่าคลาน รับส่งก็ขาดๆเกินๆ การบุกก็เก้ๆกังๆ การเปลี่ยนตัวก็ขอบอกว่า "ห่วยบรม !?"
แน่นอนว่าเกมนี้ 4-3-3 แพ้ 4-4-2 เห็นๆ "เบลามี่" ไม่สามารถกระชากแล้วตัดเข้าในได้ทำให้ต้องฝืนเปิดด้วยอีซ้าย ก็เสร็จโจรโดน "ฟีเดล" เก็บนิ่ม ทางขวาเจ้าเพนกวิน "เตเบส" นอกจากไม่ผ่านแล้วยังฮุบมาด้านในหวังเชื่อมเกมแต่พอเจอ "เปรตอฟ" ของฝั่งวิลล่าก็ไปไม่เป็นเพราะจะชิ่งบอลกับ "อเด" ก็ไม่รู้ใจกันเท่าเบลามี่ ทางด้าน "ไรท์ ฟิลลิปป์" ที่ฟอร์มออกทะเลมาแล้ว 2 นัด นัดนี้ก็ออกทะเลอีกหน ไม่ผ่านการตามประกบของ "วอร์น๊อค" ด้วยสถิตแย่ๆ 90 นาที กระชากไม่ผ่านสักครั้ง !? สรุปผลนอกจากลูกกดดันด้วย เตะมุม กับ ฟรีคิก ก็ไม่มีอะไรที่วิลล่าจะลำบากใจสักนิด เกมรุกวันนี้ห่วยกว่า "เดอะปอมปีย์" ทีมนอนจมบ๊วยเสียอีก
หันมามองกองกำลังที่อยากได้พึ่งพา ทั้งเกมที่เห็นทรงเกมแย่ๆทนดูไม่ได้ "เดอะมาร์ค" ขยับก้นเดินไปๆมาๆ แต่แล้วก็เปลี่ยนเอา "ไอร์แลน" ลงมาแทนคนเจ็บจนได้ รูปเกมที่ต้องการมาแล้วเมื่อตัวรุกที่จ่ายบอลได้หวาดเสียอีกคนลงมาถือเป็นการเสริมเกมรุกที่น่ากลัวใช้ได้ สอบผ่านในการเปลี่ยนตัว แต่ไม่นานนักเหล่านักเตะวิลล่าก็รู้ทางแค่อัดบอลหนักๆอย่าให้ "เหม่ง" มันเลี้ยงบอลหรือจ่ายบอลง่ายๆ ก็จอดสิคับ ตัวรุก 6 ตัว ไปไม่ได้ 1 ตัว กระชากผ่านบ้างไม่ผ่านบ้างแต่ต้องมาตายซ้ำซากกับเท้าไม่ถนัดอีก 1 ตัว อเดเองก็โดดเดี่ยวทะลุยุทธจักรอีก 1 ตัว เตฟเองก็วิ่งไปๆมาๆ งงๆงกๆเงินๆ กับชีวิตว่ากุเป็นกองหน้าหรือกองกลางอีก 1 ตัว แล้วเหม่งกับแบรี่ จะแบกรับแรงปะทะจากแผงกลาง 4 คนไหวรึ ?
การเปลี่ยน "ซานตา ครูส" ลงมานั้นพอทำใจได้ว่าเปลี่ยนตามแบบฟอร์มที่อาจเอามาชิงจังหวะโหม่งหรือเข้าบอลในเขตโทษ...........แต่ขอโทษทีแล้วแล้วเอาใครมากระชากเปิดบอลล่ะ ? ทางซ้ายก็เอาคนถนัดขวาไปอยู่ ไอกองหลังกินนิ่มสกัดแต่ทางเท้าขวา ทางซ้ายช่างแม่งเปิดไม่แม่นอยู่แล้ว !? ทางขวาก็ไม่ผ่านสักรอบเปิดบอลไม่ได้ พอนานๆไปความมั่นใจลดไม่กล้าเลี้ยงลุยก็เสร็จโจรสิ (O_oY) แล้วอย่างนี้จะเปลี่ยนมาทำตาแป๊ะอะไรกันล่ะ ไอคนที่จะมาโหม่งบอลน่ะ ? เกมนี้ถ้าลงเอา แบ๊คบ้าพลังที่ไม่ว่าจะมีคนสกัดอย่างไรก็บ้าบุกเข้าไปอย่า "ไมก้า" ก็น่าสนใจเพราะเห็นได้ชัดว่าเกมนี้ "ไรท์" ไปคนเดียวไม่ไหวต้องหากำลังรบมาช่วยตีแบ๊คขวาของวิลล่าให้แตก แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น
หากจะโยก "เบลามี่" มายืนทางขวาเพื่อให้กระชากเปิดบอล แล้วทางซ้ายลองเพิ่ง เปรตอฟที่ถนัดซ้ายแถมฟอร์มดีมากในนัดที่ผ่านมาก็น่าสนใจว่าอาจทำให้รูปเกมได้เปรียบ เพราะบอลจะขึ้นได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้กองหลังตัวกลางหัวหมุนได้แน่นอน (เกมนี้ทั้งเกมบุกแต่ซ้าย) แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับระบบทีมอุปถัมของ "เดอะมาร์ค" เขายังคงยืนยันนอนยันว่าทีมชุดที่เขาเลือกนั้นเหมาะสมกระทุกกรณีทุกสถานการณ์ ไม่ว่าฝนตกแดดออก และไม่สนใจแม้จะมีทางเลือกทางอื่นๆ
นั่นอาจเป็นเพราะนักเตะชุดนี้คือคนที่ตนซื้อมาใช่หรือไม่ ? แน่นอนว่านักเตะเหล่านั้นอาจมีภาษีดูดีกว่าในสายตาของ "เดอะมาร์ค" แต่ไม่ว่าใครก็ย่อมมีวันเบาๆที่เตะบอลกันเบาๆแบบไร้จิตใจหรือไร้จินตนาการกันได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นแฟนบอลอย่างเราๆก็แค่สูญเสียความรู้สึก แต่อยากตะโกนดังๆไปบอก "เดอะมาร์ค" ให้ได้ยินจะๆว่า "ผลงานทุกนัดคือชะตาชีวิตของคุณ !?" การละเลงเงินไปกว่า 120 ล้านปอด์นในช่วง 3 เดือน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับการมาเล่นน่าเบื่อเพื่อยันเสมอเช่นนี้แน่นอน (ถ้าเล่นดีกว่าแล้วเสมอยังไม่เท่าไหร่) สุดท้ายนี้คงไม่มีคำพูดไหนสำคัญไปกว่า "ทุกอย่างก้าวจะกำหนดชีวิตของ เดอะมาร์ค"
นัดต่อไปการไปเยือน "วีแกน" คือปราการด่านต่อไปที่ "เดอะมาร์ค" ยังคงต้องพิสูจน์ตัวตนต่อไป การคุมทีมใหญ่นั้นยาก แต่การประคองทีมที่กำลังจะเติบโตนั้นยากเสียยิ่งกว่า ยิ่งเป็นทีมที่พยายามถีบตัวอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้แล้วด้วย ต้องดูว่า "เดอะมาร์ค" จะทนทานความกดดันของคำว่า " มืออาชีพ " กับ " ระดับโลก " รวมถึง " ความกดดัน " ได้ดีขนาดไหน ติดตามกันแบบ -นัด-ต่อ-นัด-
Tags:
-
▶ Reply to This