แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 - แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1
ศึกมันเดย์ ไนท์ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้พกสถิติสุดหรูชนะรวดทั้งสามนัดโดยไม่เสียประตูภายใต้เจ้านายคนใหม่โรแบร์โต้ มันชินี่ลงบู๊โดยหากพิชิตแบล็คเบิร์นได้ก็จะทะยานขึ้นสู่อันดับสี่ทันที
อย่างไรก็ดี เรือใบสีฟ้ายังไม่คิดใช้งานปาทริค วิเอร่ากองกลางตัวใหม่ที่ยังไม่ฟิตเพียงแต่เดินลงสนามไปโชว์ตัวก่อนเกมเท่านั้น ขณะที่โคโล่ ตูเร่อำลาต้นสังกัดไปรับใช้ชาติในศึกเนชั่นส์คัพเช่นเดียวกับเอ็มมานูเอล อเดบายอร์แม้โตโกจะถอนทีมไปแล้ว
ด้านกุหลาบไฟไม่มีเอล ฮัดจิ ดิยุฟที่ติดโทษแบน ตลอดจนวินซ์ เกรลล่าที่เดี้ยง แต่เดวิด ดันน์กับเบร็ตต์ เอเมอร์ตันฟิตสมบูรณ์ทั้งคู่
หลังจากมีการไว้อาลัยให้กับสตาฟฟ์ทีมชาติโตโกที่เสียชีวิตจากเหตุถูกกลุ่มกบฏในแองโกล่าลอบยิง เกมก็เริ่มต้นโดยแมนฯ ซิตี้เปิดฉากรุกเข้าหาทันที
และเพียงแค่ 5 นาทีเจ้าบ้านก็มีเสียวจากจังหวะที่เคร็ก เบลามี่แลบไปรับบอลที่เส้นหลังด้านซ้ายแล้วตบมาให้คาร์ลอส เตเวซเข้าแปเน้นๆถูกนายทวารพอล โรบินสันใช้ขาสกัดไว้ได้ แต่ก็มีธงยกขึ้นมาแม้จะไม่ใช่ลูกล้ำหน้า
อย่างไรก็ดี ถัดมาอีกสองนาทีทีมตราเรือใบก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาแล้วโรบินสันออกมาตัดบอลแย่ ไปชนเข้ากับคีธ แอนดรูวส์พวกเดียวกันเลยทำหลุดมือถูกเบนจานี่ เอ็มวารูวารียิงสวนเข้าไปก่อนที่เตเวซซึ่งอยู่หน้าปากประตูจะใช้หน้าขาทิ่มบอลตุงตาข่ายพาทีมมหาเศรษฐีนำหน้า 1-0
เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของเจ้าบ้าน กระนั้นจังหวะเข้าทำก็เริ่มขาดหาย กระทั่งนาทีที่ 23 กุหลาบไฟที่สู้ยิบตาก็หาโอกาสลุ้นจากลูกยิงไกลของสตีเว่น เอ็นซอนซี่โด่งข้ามคาน
นับจากนั้น ต่างก็ต่อเกมกันไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้รสชาติกร่อยลงไป กระทั่งนาทีที่ 39 แฟนเจ้าบ้านก็ได้ฮือฮาเมื่อไมกาห์ ริชาร์ดส์แผลงฤทธิ์สุดบรรยาย ลากบอลจากแดนตัวเองขึ้นมาแทงเข้าเขตโทษให้เอ็มวารูวารีสับไกไปชนเสา แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟผิวสียังตามไปซ้ำที่ระยะหกหลาได้ทันจึงเป็นอันว่าเรือใบสีฟ้าทิ้งห่าง 2-0 ก่อนที่เสียงนกหวีดจบครึ่งแรกจะดังขึ้น
ครึ่งหลังทีมเยือนเปลี่ยนตัวสำรองรวดเดียวสองรายส่งเดวิด ฮอยเล็ตต์กับนิโคล่า คาลินิชลงไปแทนแอนดรูวส์กับฟรังโก ดิ ซานโต
แต่แล้วเพียงแค่สี่นาที กุหลาบไฟก็ไม่วายถูกเด็ดกลีบอย่างง่ายดายอีกตามเคยเมื่อเตเวซลงไปล้วงบอลบริเวณกลางสนามแล้วตักยาวออกกราบขวาให้เอ็มวารูวารีกระชากขึ้นหน้าก่อนที่นักเตะผิวสีจะป้ายคืนมาหน้าเขตโทษให้หอกฟ้าขาววิ่งเข้าแปเต็มๆจาก 20 หลาผ่านมือโรบินสันได้สำเร็จช่วยให้แมนฯ ซิตี้ทะยานนำเป็น 3-0
ผ่านมาถึงนาทีที่ 59 เตเวซก็ทิ้งโอกาสทำแฮททริคไปอย่างไม่น่าเชื่อในจังหวะที่บาโปล ซาบาเลต้าเติมขึ้นมาทางขวาแล้วตักบอลเข้าเขตโทษให้พ่อค้าแข้งอาร์เจนไตน์โขกเหน่งๆจาก 10 หลา ทว่าบอลออกนอกกรอบอย่างหมดราคา
ขยับมาอีกสองนาที ซาบาเลต้าก็ได้ใบเหลืองในจังหวะเสียบใส่ฮอยเล็ตต์พร้อมเสียลูกฟรีคิกริมเขตโทษด้านซ้าย ดันน์จึงวางบอลไปเสาแรกให้เอ็นซอนซี่ขวิดเผาขนระยะสามหลา แต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 66 แบล็คเบิร์นส่งมาร์ติน โอลส์สันลงไปแทนดันน์เป็นไพ่ใบสุดท้าย ขณะที่เรือใบใช้บริการโรบินโญ่แทนเบลลามี่ในอีกสามนาทีให้หลัง
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 71 เจ้าบ้านก็เล่นหละหลวมอันนำมาซึ่งการเสียประตูจนได้เมื่อเชย์ กิฟเว่นตวัดบอลที่ถูกส่งกลับมาคืนให้แว็งซ็องต์ กอมปานีแล้วดาวเตะผิวสีจับหลุดไปไกลเท้าเลยถูกมอร์เท่น กัมสท์ พีเดอร์เซ่นเก็บไปซัลโวจาก 18 หลาเสียบเสาพากุหลาบไฟไล่มาห่างๆ 1-3
ช่วงทดเจ็บ คาร์ลอส เตเวซ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนปั่นโค้งด้วยขวาเสียบตาข่ายงามหยด ส่งให้ แมนฯ ซิตี้ ฉีกหนีไปเป็น 4-1 พร้อมกับเป็นแฮตกทริกแรกของ คาร์ลอส เตเวซ กับทีมเรือใบสีฟ้าอีกด้วย
จบเกมแมนฯ ซิตี้ ถล่ม แบล็คเบิร์น 4-1 กระโดดขึ้นสู่อันดับสี่ของตารางได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เชย์ กิฟเว่น - ปาโบล ซาบาเลต้า, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ กอมปานี, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - มาร์ติน เปตรอฟ, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี่, เคร็ก เบลลามี่ - คาร์ลอส เตเวซ, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
สำรอง: สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) - ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โรบินโญ่, โรเก้ ซานตา ครูซ, ซิลวินโญ่, เดดริค โบยาต้า, อับดิซาลาม อิบราฮิม
แบล็คเบิร์น: พอล โรบินสัน - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ไรอัน เนลเซ่น, กาแอล ชิเว่ต์ - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, คีธ แอนดรูว์ส, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น - เดวิด ดันน์ - ฟรานโก้ ดิ ซานโต้
สำรอง: เจสัน บราวน์ (ผู้รักษาประตู) - สตีเว่น รีด, มาร์ติน โอลส์สัน, นิโคล่า คาลินิช, เดวิด ฮอยเล็ตต์, มิเชล ซัลกาโด้, ปาสกาล ชิมบงด้า