"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอกับ สโต๊ค ซิตี้ 1-1 ทั้งที่เจ้าถิ่นเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน แต่ยังแซงลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตาราง ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553
สโต๊ค ซิตี้ 1 - 1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม: บริทานเนีย สเตเดี้ยม

"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ เพิ่งเสมอกับ แมนฯซิตี้ ในเอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต้องไปเตะรีเพลย์ต่ออีกนัด เกมนี้โคจรมาเจอกันในลีกก่อน โดยเจ้าบ้านไม่มี แม็ทธิว เอเธอริงตัน ที่บาดเจ็บเข่า พักประมาณสองสัปดาห์ แนวรุกวาง มามาดี้ ซิดิเบ้ ล่าตาข่ายกับ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์

ด้าน "เรือใบสีฟ้า"ไม่มี คาร์ลอส เตเวซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ได้รับไฟเขียวให้กลับไปบ้านเกิดอาร์เจนตินาเพื่อเฝ้าภรรยาที่คลอดบุตร หมดสิทธิ์ช่วยทีมต่อไป ส่วน เคร็ก เบลลามี่ กองหน้าเวลช์เจ็บหัวเข่า ทำให้ต้องใช้งาน โรเก้ ซานตา ครูซ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในแดนหน้า

เปิดฉากครึ่งแรกได้แค่ 5 นาที เจ้าบ้านโหมบุกทันทีมีลุ้นก่อน มามาดี้ ซิดิเบ้ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ เชย์ กิฟเว่น นายทวารเรือใบสีฟ้า เซฟไว้ได้

ผ่านมา 16 นาที โอกาสของสโต๊ค อีกครั้ง เมื่อ เกล็นน์ วีแลน ได้ยิงจากเส้น 18 หลา แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอีก

แมนฯ ซิตี้ บุกขึ้นมาบ้างในนาทีที่ 26 ไมก้าห์ ริชาร์ด โยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้ แกเร็ธ แบร์รี่ วอลเลย์ด้วยซ้ายบอลพุ่งออกหลังประตู

ทีมเยือนเริ่มจับจังหวะบุกได้ อดัม จอห์นสัน เปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษให้โรเก้ ซานต้า ครูซ ยิงด้วยขวาจากระยะ 12 หลา แต่บอลไม่เข้ากรอบในนาทีที่ 38 หมดครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง ช่างปั้นหม้อ ส่ง แดนนี่ คอลลินส์ ลงมาเล่นแทน แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแธ่ม ในแนวรับ

สถานการณ์ของเจ้าบ้านไม่สู้ดีนัก ต้องเหลือแค่ 10 คนในนาทีที่ 52 หลังจาก อับดูลาย ฟาย ไปเกี่ยวขาของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในจังหวะจะหลุดเข้าไป ผู้ตัดสินไม่รอช้าให้ใบแดงไล่ ฟาย ออกจากสนามทันที จากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาหน้ากรอบเขตโทษ ปรากฏว่า ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ยิงไปอัดกำแพงไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

แม้ว่าตัวผู้เล่นจะมากกว่า แต่รูปเกมไม่ได้เปรียบทำให้ แมนฯซิตี้ เปลี่ยนแท็คติกส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ปีกความเร็วสูงลงมาแล้วถอดเอาแบ็คซ้ายอย่าง ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ออกมาในนาทีที่ 59 ส่วน สโต๊ค ให้ ซาลีฟ ดิเยา เล่นแทน เลียม ลอว์เรนซ์

ทีมเยือนเริ่มบดแล้ว อเดบายอร์ หาเหลี่ยมซัดด้วยขวาในเขตโทษบอลหลุดเสาขวาไป ในนาทีที่ 65

อย่างไรก็ตาม สโต๊ค ที่ตัวน้อยกว่ามาได้ประตูพลิกขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 72 จากจังหวะที่ โจลีออน เลสค็อคค์ กองหลังเรือใบ สกัดไม่ดีมาเข้าทางของ เกล็นน์ วีแลน กดด้วยขวาจากระยะ 25 หลา บอลผ่าน เชย์ กิฟเว่น ที่พยายามจะปัดแต่ไม่ทันเข้าไปให้ ช่างปั้นหม้อ นำก่อน 1-0

หลังจากเสียประตู ทีมเยือนก็บุกอย่างหนักและก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ จากการทำประตูของ แกเร็ธ แบร์รี่ ในนาทีที่ 86

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สโต๊ค ซิตี้ น่าจะได้ประตูชัย  รอรี่ ดีแล็ป ทุ่มไกลเข้ามาที่กลางประตู ไรอันชอว์ครอสส์ ปราการหลังเจ้าถิ่นขึ้นโขกเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกฟาล๋ว ทำให้จบเกม สโต๊ค เสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 1-1 โดยทีม เรือใบแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นมารั้งอันดัยบ 4 ของตารางแล้ว


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น - โรเบิร์ต ฮูธ, อับดูลาย ฟาย, ไรอันชอว์ครอสส์, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแธ่ม - รอรี่ ดีแล็ป, ดีน ไวท์เฮด, เกล็นน์ วีแลน, เลียม ลอว์เรนซ์ - มามาดี้ ซิดิเบ้, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์

สำรอง : อัสมีร์ เบโกวิช (ผู้รักษาประตู), เจมส์ บีตตี้, เดฟ คิตสัน, แดนนี่ พิวจ์, ซาลิฟ ดิเยา, ตุนกาย ซานลี่, แดนนี่ คอลลินส์

แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น - ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, โคโล่ ตูเร่, โจลีออน เลสค็อตต์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - อดัม จอห์นสัน, ปาทริค วิเอร่า, ไนเจล เด ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่ - โรเก้ ซานต้า ครูซ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 

สำรอง: สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ (ผู้รักษาประตู) - ปาโบล ซาบาเลต้า, เวย์น บริดจ์, เนดุม โอนูโอฮา, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, มาร์ติน เปตรอฟ

ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์