ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อทวันอังคารที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ทีมดังจากลอนดอน เกมนี้เป็นทีมเยือนที่เล่นได้ดีกว่า และบุกมาเอาชนะไปได้ 2-0 แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 ตั้งแต่ 20 นาทีแรก
ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ชิพ) 0 - 2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (พรีเมียร์ชิพ)
สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม
"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าถิ่นมีผลงานในบ้านสุดยอดมากในซีซั่นนี้ ส่งผู้เล่นชุดใหฯ่ลงสนามครบครันพร้อมทั้งได้ตัว เอลาโน่ บลูแมร์ หายเจ็บกลับมาเป็น 11 คนแรก โดยวาง โรลันโด้ เบียงคี่ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และก่อนเริ่มเกม ซิตี้ ได้ทำการเปิดตัว เนรี่ คัสตีโย่ หัวหอกทีมชาติเม็กซิโก ที่จะย้ายจากชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค มาอยู่กับทีม เรือใบสีฟ้า แบบยืมตัว 1 ปี ในช่วงเดือน มกราคม นี้ ด้วย
ทางด้าน สเปอร์ส ต้องขาด แกเร็ธ เบล, แอนโธนี่ การ์ดเนอร์, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ทั้งหมด ส่วน ร็อบบี้ คีน กองหน้าทีมชาติไอร์แลนด์ ติดโทษแบน เป็นนัดสุดท้าย รวมทั้งไม่มีชื่อของ ดาร์เรน เบนท์ ในแดนหน้า โดยให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ล่าตาข่ายกับ เจอร์เมน เดโฟ แทน สำหรับแนวรับส่ง ดีดิเย่ร์ โซโกร่า ลงมายืนร่วมกับ ยูเนส กาบูล อีกครั้ง
ออกสตาร์ทครึ่งแรก สเปอร์ส เป็นฝ่ายลำเลียงบอลโจมตีขึ้นมาบุกได้ดี ก่อนมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 5 จากจังหวะที่ทำเกมกันสวย เริ่มจาก สตีด มัลบร็องก์ ไหลบอลจากซ้ายเข้ากลาง เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง ข้ามบอลหลอกให้ เจอร์เมน จีนัส จ่าบอลทะลุช่องตัดแนวรับให้ อารอน เลนน่อน สอดขึ้นมาทางขวาแล้วจ่ายเข้ากลางให้กับ เจอร์เมน เดโฟ แปด้วยขวาจ่อๆจากระยะแค่ 6 หลา เข้าประตูไปง่ายดายให้ ไก่เดือนทอง ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น นาทีที่ 17 สตีด มัลบร็องก์ กองกลางของไก่เดือยทอง ยิงไปโดน โรลันโด้ เบียงคี่ ช่วยเคลียร์ออกมาได้
สถานการณ์ของทีมเยือนไม่ดีนัก เมื่อ ดีดิเย่ร์ โซโกร่า ไปเข้าเสียบสองเท้าใส่ เอลาโน่ กองกลางแมนฯซิตี้ ทำให้ผู้ตัดสิน สตีฟ เบนเน็ตต์ ชักใบแดงไล่ โซโกร่า ออกจากสนามทันที ทำให้ สเปอร์ส เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน โดย ปาสกาล ชิมบงด้า แบ็คขวาทีมเยือนเข้ามาประท้วงโดนใบเหลืองไปอีกราย
สองนาทีต่อมา ฆวนเด้ รามอส เทรนเนอร์ของสเปอร์ส เปลี่ยนแท็คติกทันทีด้วยการส่ง เตมู เตนิโอ ลงมาแล้วถอด เจอร์เมน เดโฟ คนทำประตูออกมาพัก พร้อมกับปรับ ปาสกาล ชิมบงด้า เข้ามายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ กาบูล แทน
ผู้เล่นสเปอร์ส เริ่มหัวเสียแล้วกับการตัดสินของ สตีฟ เบนเน็ตต์ โดยนาทีที่ 25 สตีด มัลบร็องก์ ไปเสียบใส่ เวดราน คอร์ลูก้า อย่างน่าเกลียด รับใบเหลืองไปอีกราย
ผ่านมาถึงนาทีที่ 28 แม้ตัวจะน้อยกว่า แต่ สเปอร์ส น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ อารอน เลนน่อน เปิดจากสุดเส้นหลังด้านขวาเข้ากลางให้กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ วอลเลย์จากระยะ 12 หลา โดน เวดราน คอร์ลูก้า แหย่ขาบล็อคไว้บอลออกข้างไป
เรือใบสีฟ้า ทำเกมรุกได้สวย น่าจะได้ประตูตีเสมอ ในนาทีที่ 33 เมื่อ ฆาเบียร์ การ์ริโด้ เปิดบอลเข้ากลางให้กับ เบียงคี่ ชิ่งขึ้นหน้าให้กับ เอลาโน่ ซัดด้วยเท้าขวาเล่นทางบอลถากเสาไกลไปนิดเดียวเท่านั้น
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 40 ไมเคิล จอห์นสัน กองกลางซิตี้ ลากเข้าไปกดเต็มเท้าขวาจากระยะ 12 หลา บอลบิดออกทางซ้ายไป หมดครึ่งแรก สเปอร์ส บุกมานำก่อน 1-0
ครึ่งหลังนาที 53 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่มาร์ติน เปตรอฟเปิดบอลเข้าไปในกรอบโทษให้ ดาริอุส วาสเซลล์ พุ่งโมห่งจ่อๆแค่ 6 หลา แต่พอล โรบินสัน นายด่านทีมเยือนโชว์หนึบพุ่งปัดข้ามคานออกไปได้
นาที 83 สเปอร์สมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะสวนกลับเจมี่ โอฮาร่า วางบอลจากจากครึ่งสนามให้สตีด มัลบร็องก์ดึงบอลลงตรงหน้ากรอบโทษฝั่งขวาแล้วแตะหนีริชาร์ด ดันน์ เข้าไปดีดด้วยขวาตรงจุดโทษบอลหนีมือโจ ฮาร์ท เข้าเสาสองอย่างเด็ดขาด
นาทีสุดท้ายสเปอร์สหวิดได้เม็ดสามเมื่อดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ พาบอลหนีกองหลังเจ้าถิ่นหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบโทษแต่กลับยิงไปติดตัว โจ ฮาร์ท อย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมสเปอร์สบุกชนะแมนฯ ซิตี้ 2-0 ตีตั๋วเข้ารอบตัดเชือกต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - เวดราน คอร์ลูก้า, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, ริชาร์ด ดันน์, ฆาเบียร์ การ์ริโด้ - ดาริอุส วาสเซลล์, ดีทมาร์ ฮามันน์, ไมเคิล จอห์นสัน, เอลาโน่ บลูแมร์, มาร์ติน เปตรอฟ - โรลันโด้ เบียงคี่
สำรอง : อันเดรียส์ อิซัคส์สัน (ผู้รักษาประตู) - ไมเคิล บอลล์, โจวานนี่ เดแบร์สัน, เอมิล เอ็มเพนซ่า, แกลงซง แฟร์กน็องเดส
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน - ปาสกาล ชิมบงด้า, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ยูเนส กาบูล, อี ยอง-เพียว - อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง, สตีด มัลบร็องก์ - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, เจอร์เมน เดโฟ
สำรอง : ราเด็ค แซร์นี่ย์ (ผู้รักษาประตู) - ตีมู เตนิโอ, อาแดล ตารับท์, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจมี่ โอฮาร่า
ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์
ทำไมลุงต้องโพสข่าวแพ้ทุกที เอาเป็นว่ามันเป็นข่าวร้ายก่อนข่าวดีวันที่ 23