มหกรรมทุ่มเงินซื้อนักเตะใหม่ไม่มีใครเกิน แมนฯ ซิตี้

ปีนี้ใช้ไปอีก 150 ล้านปอนด์เบาะๆ ขนหน้าแข้งไม่ร่วง บางคนบอกว่า ชีค มันซูร์ รวยจัดสูบน้ำมันมาทำทีมฟุตบอลซะบ้าง เหมือนคืนกำไรให้กับ โลกตะวันตก คนยุโรปซื้อน้ำมันมาเติมรถยนต์ไม่รู้เท่าไหร่ เอาเงินนั้นคืนมาซะบ้าง
 

ให้มันรู้ไปซิครับว่าเงินซื้ออะไรไม่ได้บ้าง
 

การใช้เงินอย่างบ้าคลั่งที่ป๋าเฟอร์กี้เรียกว่า "กามิกาเซ่" ผมขออนุญาตกลับฉายาของพวกเขาจาก เรือใบสีฟ้า เป็น เรือบ้าสีไฟ อีกหน เห็นพฤติกรรมแล้วใช่ชัดๆ
 

มาริโอ บาโลเตลลี่ กับ เจมส์ มิลเนอร์ เป็น 2 สมาชิกใหม่ล่าสุดที่ทำให้ตัวเลขในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เฉพาะการซื้อเกิน 320 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว โอะโยะโหย๋
 

คิดเป็นเงินไทยก็ 16,000 ล้านบาท ถ้าค่าเงินปอนด์แพงเหมือนสมัยก่อนจะเป็น 2 หมื่นล้านเชียวนะคุณ ก็ไม่รู้ว่าจุดคุ้มทุนของทีมจะอยู่ตรงไหน ต้องเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
หรือเอาแค่โควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนเป็นพอ
 

แน่นอนว่าการใช้เงินเยอะขนาดนี้ หากทีมเดินทางไม่หรูหรา คนที่โดนก่อนใครเพื่อนคือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่ต้องคาดเดาเลยครับ กุนซือต้องโดนก่อน เก้าอี้ร้อนเป็นไฟ
 

ตั้งแต่ต้นฤดูกาลมีความจำเป็นต้องติดอยู่ในกลุ่ม 3-4 อันดับแรกให้ได้ เกิดลงไปอยู่แค่ตรงกลางของตาราง "ตายแน่"
 

และผมก็ไม่คิดว่าทีม แข้งเทพ อย่างซิตี้จะออกสตาร์ทย่ำแย่ขนาดนั้น ด้วยสัญชาตญาณของนักเตะระดับพระกาฬ ยังไงซะพวกเขาต้องเอาตัวรอดได้แน่ ถูไถไปได้
แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วจะเกือบแพ้ สเปอร์ส ก็ตาม
 

จันทร์นี้เรือใบจะให้คำตอบระดับนึง จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ถ้าชนะก็เริ่ด
 

ฝั่งซิตี้ตั้งความหวังเอาไว้สูง แล้วลิเวอร์พูลล่ะครับจะอยู่ตรงไหน? พวกหงส์ก็หวังเหมือนกันแหละ
 

นี่เป็นสุดยอดอีกหนึ่งเกมแน่นอน
 

ผมไม่พลาดแน่ ซิตี้เล่นกับหงส์ ยังไงก็ต้องดู เรือใบลำนี้ 2 หมื่นล้าน เจอพญาหงส์เจ้าของตำแหน่ง 1 ในบิ๊กโฟร์ที่โดนเขย่าบัลลังค์ จะรอดหรือไม่?
 

ผู้แพ้คงดูไม่จืดแน่ ต้องไม่แพ้ไว้ก่อน เสมอก็ได้รอดตัวไป
 

เอาครับ เรือบ้าสีไฟจะแล่นฉิวหรือไม่

 
ต.โต้ง