ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554
เบอร์มิงแฮม 2-2 แมนฯ ซิตี้
สนาม : เซนต์ แอนดรูว์ส
ทีมตราลูกโลกเรียกตัวหลัก โรเจอร์ จอห์นสัน, คาเมรอน เจอโรม, เบน ฟอสเตอร์, สตีเฟ่น คาร์, แบร์รี่ เฟอร์กูสัน ที่ได้พักในเกมเอฟเอ คัพกลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด ส่วนแข้งใหม่มีชื่อ เคอร์ติส เดวี่ส์ เป็นตัวสำรอง
ฝั่งทีมเยือนก็ได้ คาร์ลอส เตเวซ กัปตันทีมหายเจ็บหลังคืนทัพ เช่นเดียวกับ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ที่ผ่านการทดสอบความฟิต ขณะที่ ดาบิด ซิลบา, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, ไนเจล เดอ ย็อง และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ก็คืนตัวจริงด้วย
เริ่มเกม 4 นาที แมนฯ ซิตี้ สร้างโอกาสแรกเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ทันที จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เลี้ยงบอลเลาะจากกราบขวาเข้าเขตโทษ แล้วผ่านให้ คาร์ลอส เตเวซ พลิกบอลหนีตัวประกบแล้วซัดด้วยเท้าขวาเสียบมุมประตูเข้าไป
เจ้าบ้านตอบโต้กลับ นาทีที่ 13 เดวิด เบนท์ลี่ย์ ปั่นโค้งไปให้ คาเมรอน เจอโรม โหม่งเช็ดหลุดเสาออกไป และอีก 3 นาทีต่อมา สตีเฟ่น คาร์ เปิดบอลให้ นิโกล่า ซิกิช แปจากหน้ากรอบโทษ โจ ฮาร์ท ต้องออกแรงเซฟข้ามคาน
กระทั่งนาทีที่ 23 เบอร์มิงแฮม ก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ เดวิด เบนท์ลี่ย์ เปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปให้ นิโกล่า ซิกิช สะกิดบอลเปลี่ยนทางจากระยะ 6 หลาผ่าน โจ ฮาร์ท เข้าไปไม่เหลือ
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลัง แมนฯ ซิตี้ บาดเจ็บที่ศีรษะ ต้องใช้เวลาปฐมพยาบาลอยู่นานหลายนาที ก่อนที่จะส่ง โคโล่ ตูเร่ ลงสนามแทน
เรือใบสีฟ้า กลับขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 41 เมื่อ เอดิน เซโก้ ถูกทำฟาวล์หน้ากรอบโทษ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ ปั่นฟรีคิกโค้งด้วยเท้าซ้ายจากระยะประมาณ 25 หลา บอลเลี้ยวอ้อมกำแพงเสียบเสาเข้าไปอย่างงามหยด จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ 2-1
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ถอด ไนเจล เดอ ย็อง ที่มีอาการบาดเจ็บออก แล้วส่ง ปาทริค วิเอร่า ลงไปแทน
เพียงแค่นาทีแรก เบอร์มิงแฮม เกือบตีเสมอได้เร็ว เดวิด เบนท์ลี่ย์ ตะบันเท้าขวาจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งวาบเฉี่ยวคานออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 57 ยังเป็นโอกาสตีเสมอของเจ้าถิ่นอีกครั้ง เดวิด เบนท์ลี่ย์ ปั่นโค้งไปให้ โรเจอร์ จอห์นสัน กองหลังที่เติมค้างอยู่ในกรอบโทษ ได้โหม่งโล่งๆ แล้ว แต่ขวิดบอลเฉี่ยวเสาอีก
เรือใบ ก็มีโอกาสปิดเกมด้วยประตูที่สามในนาทีที่ 72 คาร์ลอส เตเวซ หลุดเข้าไปดวลกับ เบน ฟอสเตอร์ แล้ว แต่มุมแคบเลยยิงยัดไปติดหน้าอก ฟอสเตอร์ เต็มๆ
กลายเป็น เบอร์มิงแฮม ที่มาได้จุดโทษในนาทีที่ 77 เควิน ฟิลลิปส์ กองหน้าตัวสำรอง โดน ปาทริค วิเอร่า ไปสอยคว่ำบริเวณเส้นเขตโทษ ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์ ชี้เป็นจุดโทษ และ เคร็ก การ์ดเนอร์ ก็สังหารไม่พลาด ตีเสมอเป็น 2-2
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เบอร์มิงแฮม เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2-2 เป็นแต้มสำคัญของเจ้าถิ่น ขณะที่ทีมเยือนโอกาสลุ้นแชมป์เลือนลางลงทุกทีหัลงเก็บเพิ่มแต้มเดียวมี 46 แต้มจาก 25 นัดตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ด 8 แต้มแถมแข่งมากกว่า 1 เกม
Tags:
ผมนั่งดูเมื่อคืน บอกตรงๆเสียอารมณ์ฉิบหาย ฟอร์มห่วยทั้งทีม ชื่อชั้นตัวผู้เล่นเหนือกว่าทุกอย่าง แต่กลับทำได้แค่เจ๋า
โอกาสเป็นแชมป์มี แต่คงน้อยมาก ต้องชนะทุกทีมที่เหลืออ่ะผมว่า ถ้าดาบี้แมชกับแมนูยู เราแพ้ ทุกอย่างจบ
เหลือแค่10กว่าแมต ถ้าเรือยังเล่นและรักษาระดับไม่ได้ล่ะก้อ งานหนักแน่ เพราะคะแนนแต่ล่ะทีมตามติดตูดแล้วครับ
ไม่เคยเม้นเลยฮะ แต่เห็นเม้น พี่แล้ว ต้องขอกดไล้ จิงๆ เห้นด้วยอย่างยิ่ง ^^
ดูบอลอยากเห็นแต่ชนะ ก็ต้องเล่น fm แล้วโกงเงินเอา แพ้แล้วออกไม่ต้องเซฟแล้วก็เล่นใหม่ รับรอง สนองนี๊ด พี่ๆที่อยากชนะตลอดได้ชัว ^^
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by