อาวุธด้าน!เรือเซ็งเปิดรังเจ๊าฟูแล่ม 1-1
3 ประสานหัวเรือรบของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่วันนี้อุตส่าห์จัดเต็มแผลงฤทธิ์ไม่ค่อยออกแม้จะได้หนึ่งประตูจากมาริโอ บาโลเตลลี่แต่ก็มาโดนเดเมี่ยน ดัฟฟ์ไล่ตามตีเสมอพลาดท่าเก็บได้เพียงแค่แต้มเดียวในบ้านเท่านั้น
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 : 1 ฟูแล่ม
ประตู : 1-0 มาริโอ บาโลเตลลี่ น.26,1-1 เดเมี่ยน ดัฟฟ์ น.48
มาร์ค ฮิวจ์สพาลูกทีมฟูแล่มกลับมาบุกถิ่นเก่าที่เคยทำทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาก่อน โดยต้องดูว่าเขาจะพิสูจน์ฝีมือของตัวเองได้อีกหรือไม่
แม้ว่าโรแบร์โต้ มันชินี่จะบอกว่าไม่อยากส่ง 3 ประสานหัวเรือรบของทีมลงพร้อมกันบ่อยนัก แต่เกมนี้ก็จัดเตเบซ, บาโลเตลลี่และเซโก้ลงพร้อมกันในเกมนี้
ครึ่งแรก
เริ่มเกมขึ้นมาได้ 8 นาทีก็เป็นทางบาโลเตลลี่ที่ได้ทักทายทีมเยือนก่อนใครเพื่อน จากจังหวะที่เขาได้โขกในกรอบเขตโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนเบาๆจากทางเจ้าบ้านก่อน
อีก 2 นาทีต่อมา คราวนี้เป็นโคลารอฟที่ได้ลองส่องไกลจากระยะ 35 หลาบอลพุ่งฉิวแต่ก็หลุดกรอบออกไปอีก
นาทีที่ 14 คราวนี้เป็นเดมป์ซี่ย์ของทางฟูแล่มที่ได้โอกาสซัดบ้าง แต่เหมือนจะอินเทรนด์กันเหลือเกินเพราะยิงหลุดกรอบออกไป
และแล้วนาทีที่ 26 หลังจากสวนกันไปมาได้สักพัก บาโลเตลลี่ก็มาเบิกร่องยิงประตูขึ้นนำให้กับ "เรือใบ" ไปก่อน จากจังหวะโยนยาวที่เขาเอาบอลลงหน้ากรอบเขตโทษ ต่อบอลกับเตเบซก่อนที่จะแตะหลบกองหลังแล้วซัดแบบสุดเฉียบคมจากนอกกรอบ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามสุดๆ แมนฯซิตี้นำ 1-0
นาทีที่ 34 เห็นเพื่อนร่วมทีมซัดไปแล้ว ทางเซโก้ก็อยากที่จะมีสกอร์กับเขาบ้าง แต่ลูกยิงของเขาก็ไปติดเซฟของทางชวาร์เซอร์
หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสกันไปอีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีทีมใดทำประตูได้ แมนฯซิตี้ยังคงนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที แมนฯซิตี้ก็ต้องเซ็งเลย เมื่อเจอทีเด็ดของฟูแล่มในการทำเกมกันอย่างสวยงามเริ่มจากเปิดออกข้างให้กับจอห์นสันวิ่งควบไปเปิดจังหวะแรกเข้ากลางกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็นดัฟฟ์พุ่งเข้าไปแปเน้นๆเต็มๆไม่มีเหลือ เจ๊ากันแล้ว 1-1
นาทีที่ 55 แมนฯซิตี้พลาดโอกาสที่จะลุ้นประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะความผิดพลาดของฮังเกลันด์ที่วิ่งไปดักบอลได้แล้ว แต่ดันไป(หล่อ)ลื่นจนถูกซาบาเลต้าฉกบอลไปจ่ายให้กับบาโลเตลลี่ได้วางเท้ายิงเหน่งๆ แต่กลับยิงแป๊กไปซะอย่างนั้น
นาทีที่ 60 แมนฯซิตี้เปลี่ยนเอาเซโก้ที่วันนี้ไม่ค่อยมีบทบาทมากนักออกไปแล้วส่งปาทริค วิเอร่าลงมาเพิ่มความเนียนตรงมิดฟิลด์ให้เพิ่มมากขึ้น
อีก 2 นาทีต่อมา แฟนๆซี๊ดกันทั้งสนาม เพราะเตเบซวิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปมีโอกาสได้ยิงหักข้อเปลี่ยนทาง ชวาร์เซอร์เหมือนว่าจะเอนตัวไปผิดแล้ว แต่ก็จะเอี้ยวกลับไปกระโดดปัดบอลด้วยปลายมือออกไปได้ทัน
นาทีที่ 67 โคลารอฟเกือบจะทำประตูสุดสวยได้ จากจังหวะที่เขายิงแบบลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโด่งแต่ฮุคปลายกำลังจะเสียบใต้คานแล้ว แต่ชวาร์เซอร์ไม่พลาดปัดบอลเสยออกหลังไปได้
นาทีที่ 77 แมนฯซิตี้ต้องเปลี่ยนเอาเจมส์ มิลเนอร์ลงไปเล่นแทนโคลารอฟเพราะดูแล้วเกมชักจะตื้นๆไป พยายามทำเกมบุกยังไงก็ดูเหมือนจะตันไปเสียหมด ถ้ายังไม่ดีขึ้นแบบนี้มีหวังทำแต้มหลุดมือคาบ้านแน่ๆ
เข้าช่วงท้ายเกมแล้ว ความกดดันของแมนฯซิตี้เองก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะได้ครองบอลบุกค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่สามารถทะลวงเข้าไปหาโอกาสเน้นๆได้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท,โจเลี่ยน เลสค็อตต์,โคโล่ ตูเร่,อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ,เจอโรม บัวเต็ง,ยาย่า ตูเร่,แกเร็ธ แบร์รี่,ปาโบล ซาบาเลต้า,มาริโอ บาโลเตลลี่,เอดิน เซโก้,คาร์ลอส เตเบซ
ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์,เบรเด้ ฮังเกลันด์,แอร่อน ฮิวจ์ส,คาร์ลอส ซัลซิโด้,คริส แบร์ด,แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์,ดิคสัน เอตูฮู,คลิ้นท์ เด็มป์ซี่ย์,เดเมี่ยน ดัฟฟ์,แอนดรูว์ จอห์นสัน,มุสซ่า เด็มเบเล่
www.soccersuck.com
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 : 1 ฟูแล่ม
ประตู : 1-0 มาริโอ บาโลเตลลี่ น.26,1-1 เดเมี่ยน ดัฟฟ์ น.48
มาร์ค ฮิวจ์สพาลูกทีมฟูแล่มกลับมาบุกถิ่นเก่าที่เคยทำทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาก่อน โดยต้องดูว่าเขาจะพิสูจน์ฝีมือของตัวเองได้อีกหรือไม่
แม้ว่าโรแบร์โต้ มันชินี่จะบอกว่าไม่อยากส่ง 3 ประสานหัวเรือรบของทีมลงพร้อมกันบ่อยนัก แต่เกมนี้ก็จัดเตเบซ, บาโลเตลลี่และเซโก้ลงพร้อมกันในเกมนี้
ครึ่งแรก
เริ่มเกมขึ้นมาได้ 8 นาทีก็เป็นทางบาโลเตลลี่ที่ได้ทักทายทีมเยือนก่อนใครเพื่อน จากจังหวะที่เขาได้โขกในกรอบเขตโทษ แต่บอลก็หลุดกรอบออกไป ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนเบาๆจากทางเจ้าบ้านก่อน
อีก 2 นาทีต่อมา คราวนี้เป็นโคลารอฟที่ได้ลองส่องไกลจากระยะ 35 หลาบอลพุ่งฉิวแต่ก็หลุดกรอบออกไปอีก
นาทีที่ 14 คราวนี้เป็นเดมป์ซี่ย์ของทางฟูแล่มที่ได้โอกาสซัดบ้าง แต่เหมือนจะอินเทรนด์กันเหลือเกินเพราะยิงหลุดกรอบออกไป
และแล้วนาทีที่ 26 หลังจากสวนกันไปมาได้สักพัก บาโลเตลลี่ก็มาเบิกร่องยิงประตูขึ้นนำให้กับ "เรือใบ" ไปก่อน จากจังหวะโยนยาวที่เขาเอาบอลลงหน้ากรอบเขตโทษ ต่อบอลกับเตเบซก่อนที่จะแตะหลบกองหลังแล้วซัดแบบสุดเฉียบคมจากนอกกรอบ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามสุดๆ แมนฯซิตี้นำ 1-0
นาทีที่ 34 เห็นเพื่อนร่วมทีมซัดไปแล้ว ทางเซโก้ก็อยากที่จะมีสกอร์กับเขาบ้าง แต่ลูกยิงของเขาก็ไปติดเซฟของทางชวาร์เซอร์
หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสกันไปอีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีทีมใดทำประตูได้ แมนฯซิตี้ยังคงนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที แมนฯซิตี้ก็ต้องเซ็งเลย เมื่อเจอทีเด็ดของฟูแล่มในการทำเกมกันอย่างสวยงามเริ่มจากเปิดออกข้างให้กับจอห์นสันวิ่งควบไปเปิดจังหวะแรกเข้ากลางกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเป็นดัฟฟ์พุ่งเข้าไปแปเน้นๆเต็มๆไม่มีเหลือ เจ๊ากันแล้ว 1-1
นาทีที่ 55 แมนฯซิตี้พลาดโอกาสที่จะลุ้นประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะความผิดพลาดของฮังเกลันด์ที่วิ่งไปดักบอลได้แล้ว แต่ดันไป(หล่อ)ลื่นจนถูกซาบาเลต้าฉกบอลไปจ่ายให้กับบาโลเตลลี่ได้วางเท้ายิงเหน่งๆ แต่กลับยิงแป๊กไปซะอย่างนั้น
นาทีที่ 60 แมนฯซิตี้เปลี่ยนเอาเซโก้ที่วันนี้ไม่ค่อยมีบทบาทมากนักออกไปแล้วส่งปาทริค วิเอร่าลงมาเพิ่มความเนียนตรงมิดฟิลด์ให้เพิ่มมากขึ้น
อีก 2 นาทีต่อมา แฟนๆซี๊ดกันทั้งสนาม เพราะเตเบซวิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปมีโอกาสได้ยิงหักข้อเปลี่ยนทาง ชวาร์เซอร์เหมือนว่าจะเอนตัวไปผิดแล้ว แต่ก็จะเอี้ยวกลับไปกระโดดปัดบอลด้วยปลายมือออกไปได้ทัน
นาทีที่ 67 โคลารอฟเกือบจะทำประตูสุดสวยได้ จากจังหวะที่เขายิงแบบลูกใบไม้ร่วงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโด่งแต่ฮุคปลายกำลังจะเสียบใต้คานแล้ว แต่ชวาร์เซอร์ไม่พลาดปัดบอลเสยออกหลังไปได้
นาทีที่ 77 แมนฯซิตี้ต้องเปลี่ยนเอาเจมส์ มิลเนอร์ลงไปเล่นแทนโคลารอฟเพราะดูแล้วเกมชักจะตื้นๆไป พยายามทำเกมบุกยังไงก็ดูเหมือนจะตันไปเสียหมด ถ้ายังไม่ดีขึ้นแบบนี้มีหวังทำแต้มหลุดมือคาบ้านแน่ๆ
เข้าช่วงท้ายเกมแล้ว ความกดดันของแมนฯซิตี้เองก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะได้ครองบอลบุกค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่สามารถทะลวงเข้าไปหาโอกาสเน้นๆได้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท,โจเลี่ยน เลสค็อตต์,โคโล่ ตูเร่,อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ,เจอโรม บัวเต็ง,ยาย่า ตูเร่,แกเร็ธ แบร์รี่,ปาโบล ซาบาเลต้า,มาริโอ บาโลเตลลี่,เอดิน เซโก้,คาร์ลอส เตเบซ
ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์,เบรเด้ ฮังเกลันด์,แอร่อน ฮิวจ์ส,คาร์ลอส ซัลซิโด้,คริส แบร์ด,แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์,ดิคสัน เอตูฮู,คลิ้นท์ เด็มป์ซี่ย์,เดเมี่ยน ดัฟฟ์,แอนดรูว์ จอห์นสัน,มุสซ่า เด็มเบเล่
www.soccersuck.com
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by Olarncherry on
-
เชียร์บอลก็ส่วนเชียร์บอลครับ เเต่ที่ไปวิจารย์มันชินี่อะ ผมอยากถามว่าคุณแตะบอลกันเป็นเหรอ ดูบอลกันเป็นเหรอ จบศาสตร์ฟุตบอลกันมาเหรอ ทำไมเก่งกันจังครับ ผู้บรรยายที่อังกิจเค้ายังไม่โชว์เท่านี้เลย อย่าไปเอานิสัยแมนยู น่อล เชลซี ลิเวอร์พูลมาสิ ประเภททีมสะดุดก็ไล่โค้ช เปลี่ยนโค้ชไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ ถ้าเก่งจีงก็เข้าไปเว็บเเมนซิตี้ ไปสมัครเป็นเด็กเก็บบอลก่อน เผื่อเค้าเห็นแววคุณ จะได้เอาคุณไปเป็นโค้ช
-
Permalink Reply by The Devil Wears Prada on
-
บอกได้คำเดียวว่า เศร้า
-
Permalink Reply by ManCityEagle on
-
"เดเมี่ยน ดัฟฟ์" ตัวแสบสำหรับ "เรือใบ" มาตลอด...
ท้ายฤดูกาลทำหวาดเสียว...จะต้องให้ลุ้นอันดับสี่จนแม็ตช์สุดท้ายหรืองัย...เฮ้อ!!!...
-
Permalink Reply by บอล on
-
ฟอร์มโคตรห่วย นั่งดู เสียอารมณ์จริงๆ
หวังลึกๆ ว่าน่าจะมีโอกาสได้แชมป์ ตอนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ
-
Permalink Reply by oum on
-
เราทำดีที่สุดแล้วครับ ไม่แพ้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้วเพราะโอกาสยิงเขามากกว่าเรานะ เขามีปีกธรรมชาติอย่างดัฟฟ์ แต่เราไม่มีเหมือนเขาแต่เราสามารถสู้กับฟูแล่มได้สูสีอย่างนี้ สกอร์1-1ไม่เสียหายหรอก และสุดท้ายต้องชมเกมส์รับของเราด้วยว่าเล่นดีมากเข้ามาบ๊อคลูกยิงฟูแล่มได้ทันตลอด ไม่งั้นแพ้คาบ้านแน่ๆ
-
Permalink Reply by ดอกคูณ on
-
ใจเย็นครับผม...ขาด 3 ตัวก็เป็นปัญหาได้ เดยอง แวงชอง ซิลบา (ริชาดและจอนสัน) สำคัญกองหลังต้องคุมบอลและนิ่งมากกว่านี้
-
Permalink Reply by staporn on
-
ลือกันในแมนเชสเตอร์ดังนี้
1.คาลอส ไม่อยากเล่น
2.มาริโอ เข้ากับใครไม่ได้ ไม่มีใครอยากส่งลูกให้
3.มาริโอ ไม่ถูกกับ โคโรลอฟ และ โบแตง(เคยลงมือกันในสนามซ้อม)
4.มาริโอ เล่นแค่ 10 %
แต่ก่อนแข่ง โรแบโต้ เคยออกมาบ่นว่า นักเตะกรอบ ความฟิตไม่พอ
- ‹ Previous
- 1
- 2
- 3
- Next ›
© 2024 Created by thaiMCFC.
Powered by
