"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มบรรเจิด เปิดบ้านถล่มเละ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ชนิดไม่ยอมไว้หน้า 5-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ขึ้นรังอันดับสามของตารางแทน เชลซี เรียบร้อย ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ 5-0 ซันเดอร์แลนด์

สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์


         โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า จัดทีมเน้นรุกเต็มเหนี่ยวด้วยการให้ คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่ และ อดัม จอห์นสัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงพร้อมกัน ส่วนแดนหลังให้ เดดรีค โบยาต้า แทน ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ที่เดี้ยง ขณะที่ แกเร็ธ แบร์รี่ ไม่มีชื่อ


         ด้าน สตีฟ บรูซ นายใหญ่ แมวดำ เปลี่ยนแปลงทีมสองจุดจากชุดที่แพ้ ลิเวอร์พูล โดยให้ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ กับ ลี แค็ตเตอร์โมล แทน ไตตัส บรัมเบิ้ล กับ คีแรน ริชาร์ดสัน ที่เดี้ยง


         แมนฯ ซิตี้ ลุยแหลกตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดแรก กระทั่งเข้าสู่นาทีที่ 9 สาวกเจ้าบ้านก็เฮกระหึ่มเมื่อ ยาย่า ตูเร่ ทำชิ่งกับ อดัม จอห์นสัน ทางกราบขวา ก่อนที่จะจบด้วย จอห์นสัน หลุดเข้าไปซัดยัดเสาแรกในกรอบเขตโทษด้านขวาให้ เรือใบสีฟ้า ทะยาน 1-0


         ซันเดอร์แลนด์ พยายามฮึด แต่เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 15 ก็ต้องเซ็งอีกเมื่อเสียจุดโทษจากจังหวะที่ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ ไปฟาวล์ คาร์ลอส เตเวซ ในกรอบเขตโทษด้วยการสอยจนลอยหลังจากโดนกระดกหลบ และ เตเวซ ลุกขึ้นมาสังหารเอง แม้จะติดปลายมือ ซิมง มินโยเล่ต์ แต่ลูกก็ยังปลิ้นชนเสาเข้าไป ทำให้ แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 แล้ว


         เจ้าบ้านมั่นใจสุดๆ อีกแค่สามนาทีต่อมา เตเวซ ได้สับไกเหน่งๆ ตรงเส้นกรอบเขตโทษ คราวนี้ บาร์ดสลี่ย์ เสี่ยงชีวิตทิ้งตัวบล็อกไว้ได้หวุดหวิด


         แมวดำ ได้ลุ้นจริงๆ จังๆ ครั้งแรกต้องรอถึงนาทีที่ 37 จากลูกวอลเล่ย์ระยะไกลราว 20 หลาของ อซาโมอาห์ กียาน ที่ลอยหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ที่เด็ดขาดกว่า เป็นฝ่ายนำอยู่สบายๆ 2-0 


         กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง บรูซ ปรับหมากเพื่อเน้นเกมรุกมากขึ้นด้วยการให้ อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ ลงสนามแทน บาร์ดสลี่ย์ แต่เป็นทางเจ้าบ้านที่สร้างโอกาสได้จะแจ้งกว่า นาทีที่ 55 บาโลเตลลี่ ใช้ความแข็งแกร่งลากเบียดกองหลังทีมเยือนเข้าไปหวดมุมแคบด้านขวา เดือดร้อน มินโยเล่ต์ ต้องทุบทิ้ง


         เกือบหนึ่งชั่วโมงของเกม บรูซ ขยับอีกครั้งโดยส่ง โบโล่ เซนเด้น แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่เมื่อถึงนาทีที่ 63 แมนฯ ซิตี้ ก็หนีห่างเป็น 3-0 จากการประสานงานเยี่ยมยอด ไนจล เด ยองก์ วางไปทางขวาให้ เตเวซ ควบไปเอาแล้วตบเข้ากลาง บาโลเตลลี่ ยิงติดบล็อกก่อนที่ ดาบิด ซิลบา จะตามซ้ำเข้าไปง่ายๆ 


         หลังทิ้งห่าง มันชินี่ เก็บ จอห์นสัน ไปพักแล้วปล่อยจอมเก๋าอย่าง ปาทริค วิเอร่า ลงแทน และแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา ปั๊ต ก็กลายเป็นผู้ทำประตูให้ทีมหนีเป็น 4-0 ในการสัมผัสลูกครั้งแรก จากจังหวะชุลมุนหน้าปากประตูลูกกระฉอกไปทางซ้าย อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ตวัดเรียดเลยไปเสาสอง วิเอร่า ทิ้งตัวสไลด์ แม้ มินโยเล่ต์ จะพยายามควักออกมา ทว่าไลน์แมนกับผู้ตัดสินก็มองว่า ลูกข้ามเส้นไปแล้ว 


         นาทีที่ 71 ไรอัน แม็คกีเวิร์น ดาวรุ่ง แมนฯ ซิตี้ ได้ลงประเดิมสนามพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ถูกส่งแทน เดดรีค โบยาต้า และอีกนาทีต่อมา เรือใบสีฟ้า ก็ทิ้งห่างสุดกู่ 5-0 จากความผิดพลาดของ แค็ตเตอร์โมล ที่จ่ายขวางสนามจากซ้ายไม่ดี ถูก ยาย่า ตูเร่ สอดขึ้นมาฉกแตะเข้ากรอบเขตโทษก่อนชิพข้ามตัว มินโยเล่ต์ เสียบเสาสอง


         แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าทุกอย่าง นาทีที่ 84 แม้แนวรับจะผิดพลาดปล่อยให้ เอลโมฮามาดี้ เทกตัวโขกลูกฟรีคิกที่โยนมาจากซ้ายโล่งๆ แต่ก็หลุดกรอบไปเอง จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บาโลเตลลี่ ได้ปั่นฟรีคิกโดนปัดข้ามคานนิดเดียว จบเกม เรือใบสีฟ้า ถล่มขาด 5-0 ขึ้นรังอันดับสามของตารางแทน เชลซี 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เดดรีค โบยาต้า (ไรอัน แม็คกีเวิร์น น.70), แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เด ยองก์, ดาบิด ซิลบา (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ น.78), อดัม จอห์นสัน ( ปาทริค วิเอร่า น.66), คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่
 สำรองไม่ได้ใช้ : สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้, แกเร็ธ แบร์รี่
 ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มินโยเล่ต์, ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ น.46), ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, จอห์น เมนซ่าห์, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ลี แค็ตเตอร์โมล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เบาเดอไวจ์น เซนเด้น น.58), ซุลลี่ย์ มุนตารี่ (แจ็ค โคลแบ็ค น.72) , สเตฟาน แซสเซอญง, อซาโมอาห์ กียาน, แดนนี่ เวลเบ็ค
 สำรองไม่ได้ใช้ : เคร็ก กอร์ดอน, สตี๊ด มาลบร็องก์, แบลร์ อดัม, เคร็ก ลินช์
 ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์