ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2554
แมนฯ ซิตี้  1  -  0  สเปอร์ส

สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์

        กมคู่ตกค้างที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ แมนฯ ซิตี้จะคว้าโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้าด้วยการยึดอันดับสี่เป็นอย่างต่ำ ทันทีหากพิชิตสเปอร์สซึ่งตกลงสู่อันดับหกถูกลิเวอร์พูลแซงหน้าลงได้

        นัดนี้ทีมเรือใบได้คาร์ลอส เตเวซศูนย์หน้าหายเดี้ยงกลับมานั่งเป็นตัวสำรองร่วมกับมาริโอ บาโลเตลลี่โดยที่เอดิน เชโก้ได้ออกสตาร์ต

        ขณะเดียวกัน ไมกาห์ ริชาร์ดส์ก็หายเจ็บเอ็นหลังเข่าคืนสนามได้ แต่แกเร็ธ แบร์รี่มีปัญหาในแบบเดียวกัน ยังผลให้เจมส์ มิลเนอร์ได้ลงบู๊

        ด้านไก่เดือยทองซึ่งขาดแกเร็ธ เบลที่เจ็บข้อเท้าพักยาวทั้งซีซั่นสลับให้ปีเตอร์ เคราช์เล่นเป็นศูนย์หน้าตัวจริงก่อนโรมัน พาฟลิวเชนโก้ และไม่มีชื่อเอเรลโญ่ โกเมซผู้รักษาประตูที่ออกทะเลบ่อยครั้งโดยข่าวแจ้งว่าเจ็บแผ่นหลัง คาร์โล คูดิชินี่จึงได้เฝ้าตาข่าย

        เริ่มเกมขึ้นมา แมนฯ ซิตี้ก็บุกกดดันสเปอร์สทันที และนาทีที่ 8 ไมเคิ่ล ดอว์สันกัปตันไก่ก็เล่นพลาดผ่านบอลขวางสนามแย่ ไปเข้าทางให้ยาย่า ตูเร่ซัดจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายเฉี่ยวออกไป

        ถัดมาอีกสามนาที ดาบิด ซิลบารับลูกโขกชงของเชโก้หลุดเข้าไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายได้จึงตบคืนให้กอง หน้าบอสเนียตามไปซัดระยะ 12 หลา ทว่าคูดิชินี่ล้มตัวเซฟได้เหลือเชื่อ

        กระทั่งนาทีที่ 21 ทีมเยือนจึงได้ลุ้นจากโอกาสง้างไกระยะ 22 หลาของลูก้า โมดริช แต่ติดบล็อคกองหลังเจ้าบ้านหลุดออกนอกกรอบ

        นับจากนั้นเกมก็เป็นของสเปอร์สบ้าง และนาทีที่ 28 น่าจะได้เฮก่อนจากการเลื้อยขึ้นฝั่งขวาของอาร่อน เลนน่อนที่ป้ายบอลเข้ากลางให้โมดริชปรีเข้าแปโล่งๆระยะ 16 หลา แต่กองกลางตราไก่ส่งบอลเฉี่ยวเสาแรกออกไปแค่คืบเดียวเท่านั้น

        อย่างไรก็ดี นาทีที่ 30  แมนฯ ซิตี้ได้ลูกเตะมุมด้านขวา และมิลเนอร์เล่นสั้นก่อนจะรับลูกจ่ายคืนจากอดัม จอห์นสันป้ายยัดไปที่เสาแรกแล้วเคราช์แหย่ขาสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัว เองช่วยให้ทีมเงินถังนำ 1-0

        เท่านั้นไม่พอ วิลสัน ปาลาซิออสดาวเตะทีมเยือนเกิดมีอาการบาดเจ็บรบกวนต้องเดินเข้าอุโมงค์ให้สตี เว่น พีนาร์เปลี่ยนลงมาแทนในนาทีที่ 32

        ล่วงมาอีกห้านาที ซิลบามีพื้นที่ควบบอลไปตะบันจากหน้าเขตโทษเต็มแรง แต่บอลโด่งข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น

        ผ่านเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมตราไก่ไล่ต้อนแมนฯ ซิตี้อย่างหนัก แต่กองหลังเรือใบช่วยกันเคลียร์ลูกอันตรายได้สำเร็จ จวบจนช่วงทดเวลาเจ็บราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทลองซัลโวจากหน้าเขตโทษฝั่งขวา แต่โจ ฮาร์ทรับเข้าอกได้ ครบ 45 นาทีแมนฯ ซิตี้จึงรักษาสกอร์นำได้ 1-0

        เปิดฉากครึ่งหลัง สเปอร์สลุยทันที และน่าจะตีเสมอได้ในนาทีที่ 47 เมื่อเลนน่อนพาบอลบุกขึ้นกราบขวาไปตักเข้าเสาไกลให้พีนาร์โขกจาก 12 หลาย้อนศร แต่ฮาร์ทโชว์ความหนึบกระโจนปัดได้ก่อนบอลข้ามเส้นประตู

        ถัดมาในนาทีที่ 53 ปาโบล ซาบาเลต้ากองหลังเรือใบโดนเคราช์ศอกใส่เต็มๆจนดั้งจมูกแตกในจังหวะเล่นลูก โด่ง ทำให้ต้องออกไปทำแผลข้างสนาม

        กระนั้นแมนฯ ซิตี้ก็ตัดสินใจเปลี่ยนให้อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟลงบู๊แทนกองหลังอาร์เจนไตน์ในนาทีที่ 58 ก่อนที่สเปอร์สมีลุ้นอีกหนในสองนาทีให้หลัง ทว่าฟาน เดอร์ ฟาร์ทรับลูกผ่านจากทางซ้ายของพีนาร์กดจาก 18 หลาหน้าเขตโทษโด่งออกไป

        เกมยังตกอยู่กับทีมจากลอนดอนข้างเดียว กระทั่งนาทีที่ 67 แมนฯ ซิตี้ก็ถอดจอห์นสันออกส่งปาทริค วิเอร่าลงไปช่วยเกมในแดนกลาง

        จวบจนนาทีที่ 78 ไก่เดือยทองก็เปลี่ยนเคราช์ออกส่งเจอร์เมน เดโฟลงบู๊ และอีกสองนาทีต่อมามิลเนอร์ก็โดนจดชื่อข้อหาทำฟาวล์แดนนี่ โรส

        ช่วงทดเวลาบาดเจ็นนาทีสุดท้าย คาร์ลอส เตเวซ มีโอกาสทำประตูหลังหลบกองหลังเจ้าบ้านแล้วซัดด้วยขวา แต่ คูดิชินี่ โชว์เซฟไว้ได้และก็เป็นจังหวะสุดท้ายของเกมหมดเวลาทีมเรือใบจึงซิวชัยไป 1-0 ได้สิทธิ์เล่นถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกแน่นอนแล้ว ปล่อยให้ทีมตราไก่ต้องแย่งโควต้ายูโรปาลีกกับลิเวอร์พูลแทน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมก้าห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, ปาโบล ซาบาเลต้า, เจมส์ มิลเนอร์, ไนเจล เด ยองก์, ยาย่า ตูเร่, อดัม จอห์นสัน, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้

        สำรอง : เชย์ กิฟเว่น, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ,, ปาทริค วิเอร่า, คาร์ลอส เตเวซ, เดดรีค โบยาต้า, มาริโอ บาโลเตลลี่

        สเปอร์ส : คาร์โล คูดิชินี่, เวดราน ชอร์ลูก้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, วิลเลี่ยม กัลลาส, แดนนี่ โรส, อารอน เลนน่อน, วิลสัน ปาลาซิออส, ซานโดร, ลูก้า โมดริช, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ปีเตอร์ เคร้าช์

        สำรอง : สติเป้ เปลติโคซ่า, ยูเนส กาบูล, โรมัน พาฟลิวเชนโก้, เจอร์เมน เดโฟ, เซบาสเตียง บาสซง, นิโก้ ครานชาร์, สตีเว่น พีนาร์

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน