เซโก้ 4 เม็ด!เรือต้มโจ๊กไก่ 10 ตัวเละ 5-1
โชว์ฟอร์มสมราคาคุยเสียจริงสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่จัดการถล่มท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สเละเทะกลายเป็นโจ๊กไก่พิเศษไข่ 4-1จากการจบสกอร์สอันยอดเยี่ยมของเซโก้ที่เหมาไปคนเดียวถึง 4 ลูก รวมทั้งการประเดิมสนามสุดหรูของนาสรี่ที่จัดแอสซิสต์ไปสองในเกมนี้
พรีเมียร์ ลีก
วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2554
ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 1 : 5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ประตู : 0-1 เอดิน เซโก้ น.34,0-2 เอดิน เซโก้ น.41, 0-3 เอดิน เซโก้ น.55,0-4 เซร์คิโอ้ อเกวโร่ น.60,1-4 ยูเนส กาบูล น.68,1-5 เอดิน เซโก้ น.90+3
วันนี้เป็นที่จับตามองแน่นอนสำหรับเจ้าบ้านสเปอร์สที่ส่งตัวลูก้า โมดริชแข้งไร้ใจที่ต้องการย้ายไปเชลซีลงเล่นในเกมนี้เป็นเกมแรกของฤดูกาล ต้องดูกันว่าฟอร์มจะเป็นอย่างไรบ้าง
ทางด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้เกมนี้จัดซาเมียร์ นาสรี่ที่เพิ่งจะซิวตัวมาจากอาร์เซนอลลงประเดิมสนามทันทีเลย ซึ่งจะประสานงานกับดาวิด ซิลบา, เซร์คิโอ้ อเกวโร่และเอดิน เซโก้ในแนวรุกของทีม
ครึ่งแรก
ฟรีเดลเซฟ!เรือเกือบยิงได้
นาทีที่ 7 หลังจากโดนสเปอร์สกดดันไปในช่วงแรกเริ่ม แมนฯซิตี้ก็เกือบจะมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่นาสรี่ลากบอลไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแตะต่อให้ซิลบาวิ่งเข้ามาตะบันด้วยซ้าย ฟรีเดลล์ตบบอลเอาไว้ได้ บอลไปเข้าทางแบร์รี่ แต่มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษยิงแป้ก พอนาสรี่ซ้ำอีกทีก็ไปแฉลบผู้เล่นของสเปอร์สออกหลังไป ได้เสียวจริงๆช็อตนี้
เรือเริ่มน่ากลัวแล้ว
ผ่านช่วง 15 นาที แมนฯซิตี้เล่นได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ครองบอลในแดนกลางและบุกกดดันใส่เจ้าบ้านได้ไม่หยุด โดยเฉพาะซิลบาและนาสรี่ที่ขับเคลื่อนพาบอลไปได้ดีและแทบจะไม่เสียบอลเลย
ผิดกับทางเลนน่อนและเบลที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก โดยเฉพาะปีกหน้าลิงที่หายไปจากเกมแบบเบ็ดเสร็จ
ปลายมือ!ฟรีเดลเซฟชีวิตไก่
อีก 2 นาทีต่อมา แมนฯซิตี้สมควรจะได้ประตูขึ้นนำโดยแท้ ถ้าไม่ได้ความยอดเยี่ยมของฟรีเดล ในจังหวะที่ซิลบาใช้ความสามารถเฉพาะตัวฉีกหนีกองหลังของสเปอร์สก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายทะแยงไปเสาไกล ลูกอาจจะไม่แรงมาก แต่ทิศทางเฉียบคมสุดๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ผ่านฟรีเดลที่ล้มตัวปัดเอาไว้ได้ปลายมือ ยอดเยี่ยมทั้งคนยิงคนเซฟไปเลย
ฮาร์ทโชว์บ้าง!บินปัดลูกยิงฟาร์ต
นาทีที่ 21 คราวนี้เป็นฮาร์ทที่ขอโชว์จังหวะซูเปอร์เซฟบ้าง จากลูกยิงฟรีคิกของฟาน เดอร์ ฟาร์ตที่จัดการปั่นด้วยซ้าย บอลโค้งผ่านกำแพงเหมือนจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ฮาร์ทก็บินไปทุบทิ้งออกหลังได้ทัน
ใบเหลืองอย่างเยอะ
เพิ่งจะผ่านไปแค่ 25 นาทีเท่านั้น แต่ตอนนี้ในสนามมีใบเหลืองไปแล้วถึง 4 ใบ เป็นของสเปอร์ส 1 ส่วนแมนฯซิตี้รับไป 3 ใบเหนาะๆแล้ว
หน้าลิง .... ยิงน่าผิดหวัง
อีก 1 นาทีต่อมา สเปอร์สน่าจะได้ประตูขึ้นนำจริงๆ แต่จังหวะยิงของเบลมันน่าผิดหวังสุดๆ จากลูกเปิดของเลนน่อนที่ตักเข้ากลาง เคร้าซ์โหม่งจังหวะแรกโดนแค่ถากๆ ทำให้บอลหลุดไปเสาสอง เบลกางมุ้งรออยู่คนเดียว แต่เจ้าตัวหวดบอลข้ามคานไปหน้าตาเฉย น่าเสียดายแท้
นาสรี่แผลงฤทธิ์!เซโก้เข้าฮอสไม่เหลือ
นาทีที่ 34 เพิ่งจะลงเล่นนัดแรกก็โชว์ฟอร์มช่วยให้เพื่อนทำประตูได้เลย สำหรับนาสรี่ที่รับบอลมาจากเพื่อนทางริมเส้น ก่อนที่จะเปิดด้วยซ้าย น้ำหนักและทิศทางแม่นสุดๆ เซโก้วิ่งเข้าจุดนัดพบแหย่สตั๊ดเข้าชาร์จผ่านตัวของฟรีเดลที่เซฟจังหวะนี้ยังไงก็ไม่ไหว "เรือใบ" ขึ้นนำไปก่อน 1-0
มุมกล้องหลอกตา!เคร้าซ์โหม่งหลุดกรอบ
นาทีที่ 39 มุมกล้องหลอกตาจนเฮียสาธิตนึกว่าเข้าไปแล้ว ในจังหวะที่เบลโยนบอลพุ่งโค้งจากริมเส้นไปให้กับเคร้าซ์พุ่งตัวตอร์ปิโด้โหม่งบอลเต็มกบาล บอลพุ่งโคตรแรง สุดปัญญาที่ฮาร์ทจะบินไปรับได้ทัน แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น นึกว่าหายแล้วซะอีก
เซโก้สุดยอด!โขกย้อนศรงามหยด
อีก 2 นาทีต่อมา สเปอร์สจากที่มีลุ้นตีเสมอ กลับมาโดนบวกเพิ่มไปอีกลูก ในจังหวะที่นาสรี่เจ้าเก่าคนเดิมได้บอลทางริมเส้น ก่อนที่จะบรรจงโยนบอลเข้ากลางและแม้ว่าบอลจะย้อนหลังไปนิดหน่อย แต่เซโก้โชว์ความยอดเยี่ยมด้วยการเอี่ยวตัวโหม่งบอลย้อนศรไปเสาไกล ฟรีเดลได้แต่ยืนปลงมองบอลกลิ้งซุกก้นตาข่าย แมนฯซิตี้นำห่าง 2-0
จบ 45 นาทีแรกลงพร้อมกับความยอดเยี่ยมของนาสรี่และเซโก้ที่ประสานงานกันช่วยให้แมนฯซิตี้บุกมานำสเปอร์สไปก่อนถึง 2-0
ครึ่งหลัง
สเปอร์สเปลี่ยนเอาครันชาร์ซึ่งมีอาการบาดเจ็บออกไปและส่งฮัดเดิลสตั้นลงไปเล่นในแผงมิดฟิลด์แทน
ไก่ซึม!เลนน่อนเจ็บต้องออก
นาทีที่ 52 เซงสุดๆไปเลยสำหรับเจ้าบ้าน เพราะจำต้องเปลี่ยนเอาเลนน่อนปีกตัวจี๊ดออกจากสนาม เพราะเจ็บที่ขาหนีบและส่งตัวเดโฟลงไปเล่นแทน ทำให้ตอนนี้พวกเขาใช้โควต้าเปลี่ยนตัวไป 2 คนเพราะอาการบาดเจ็บล้วนๆ
สุดตีน!เซโก้ระเบิดแฮทริก
อีก 3 นาทีต่อมา เซโก้ก็มาทำแฮทริกประเดิมครั้งแรกของพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลใหม่ จากจังหวะที่ยาย่า ตูเร่เติมขึ้นไปจนเกือบสุดเส้นหลัง แล้วเปิดยัดกลับไปหน้าประตู ให้เซโก้พุ่งเข้าชาร์จแปด้วยซ้ายตุงตาข่ายไม่มีเหลือ แมนฯซิตี้ถล่ม 3-0 และยังเหลือเวลาอีกอื้อซ่า
โคตรโหด!กุนกระชากซัดหาย
นาทีที่ 60 ของเกม งานนี้สเปอร์สเละเป็นโจ๊กไก่ เมื่อโดนถลุงยับ จากฝีตีนของอเกวโร่ที่กระชากพาบอลผ่านดอว์สันไปดื้อๆ ก่อนที่จะยิงด้วยซ้ายสวนตัวฟรีเดลเข้าไปเสียบตาข่ายแบบสวยงามสุดๆ "เรือใบ" ถล่มแหลก 4-0 และเป็นได้ว่าอาจจะไม่หยุดแค่นี้
ไก่หาบอลไม่เจอแล้ว
โดนเล่นเข้าไปขนาดนี้ ตอนนี้สเปอร์สชักจะย่ำแย่ขึ้นไปทุกขณะ หาบอลแทบจะไม่เจอ มีแต่ต้องพยายามวิ่งไล่กวดเอาบอลคืนมาจากทางฝั่งแมนฯซิตี้เท่านั้น
โมดริชถูกเปลี่ยนพร้อมเสียงโห่
นาทีที่ 66 มีเสียงโห่เล็ดลอดออกมาพอสมควรจากแฟนบอลของสเปอร์ส เมื่อโมดริชถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและเป็นลิเวอมอร์ลงไปเล่นแทน
เอาเว้ย!ไก่ได้คืนมาหนึ่งตุง
อีก 2 นาทีต่อมา ใช่ว่าจะกินไข่อย่างเดียว เมื่อสเปอร์สมาทะลวงไข่แตกได้ จากจังหวะเตะมุมที่กาบูลขึ้นโขกคนเดียวแบบเน้นๆเหน่งๆ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมขวัญและกำลังใจของทีมที่ดูจะสดชื่นขึ้นมาหน่อย
ซาไกยิงคมโคตร
นาทีที่ 70 สเปอร์สคึกคักกันเต็มที่และมาได้ลุ้นจากจังหวะของเดโฟที่แตะบอลหนีผู้เล่นของแมนฯซิตี้ ก่อนที่จะซัดเต็มตีนนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเลี้ยวหนีตัวของฮาร์ท แต่ก็ยังยื่นมือไปปัดเอาไว้ได้ แม้ว่าเคร้าซ์พยายามจะเข้าซ้ำ แต่ก็ไม่ทัน
มีกรรม?ไก่เหลือ 10 คนเพราะเจ็บอีก
ต้องพาลูกทีมไปทำบุญหน่อยแล้วสำหรับแฮร์รี่ เรดแนปป์เพราะเกมอุตส่ามีฮึดขึ้นมาได้ แต่ต้องมาเสียฟาน เดอร์ ฟาร์ตไปด้วยอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบ เล่นต่อไม่ไหวต้องไปพักเลย ทำให้สุดท้ายสเปอร์สต้องเล่น 10 คนในสนาม เพราะใช้โควต้าเปลี่ยนตัวไปครบแล้ว
เรือผ่อนเกมแล้ว
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้แมนฯซิตี้ผ่อนเกมลงมาค่อนข้างเยอะแล้ว ด้วยสกอร์ที่นำห่างและการที่สเปอร์สเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทำให้พวกเขาไม่ต้องเร่งต้องรีบอะไร
งามหยด!เซโก้โคตรเทพเหมา 4 เม็ด
ช่วงทดเวลานาทีที่ 3 เซโก้มาจัดลูกยิงสุดสวยปิดท้ายวันอันสุดยอดของเขาและแมนฯซิตี้ จัดการยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งผ่านมือฟรีเดลเข้าไปเสียบสามเหลี่ยมงามหยดย้อย พร้อมกับเสียงนกหวีดของกรรมการที่เป่าจบเกม แมนฯซิตี้ถล่มสเปอร์สไปด้วยสกอร์ 5-1
ซึ่งนั่นทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงไปอย่างหมดจด ด้วยชัยชนะ 3 เกมรวด พร้อมกับประตูได้เสีย +9 ลูก
ขณะที่สเปอร์สสวนทางกันสิ้นเชิงลงไปอมบ๊วยอยู่ท้ายตารางแข่งสองนัดยังไม่ชนะใคร
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอสตัน วิลล่า : เชย์ กิฟเว่น, ริชาร์ด ดันน์,เจมส์ คอลลินส์,สตีเฟ่น วอร์น็อค,คริส เฮิร์ด,ฟาเบียง เดลฟ์,สติลิยาน เปตรอฟ,กาเบรียล อักบอนลาฮอร์,ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย,ดาร์เรน เบนท์,เอมิล เฮสกีย์
วูล์ฟส์ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์,คริสตอฟห์ แบร์ร่า,โรเจอร์ จอห์นสัน,สตีเฟ่น วอร์ด,ริชาร์ด สเตียร์แมน,เจมี่ โอฮาร่า,คาร์ล เฮนรี่,สตีเฟ่น ฮันท์,แมทธิว จาร์วิส,เควิน ดอยล์,สตีเว่น เฟล็ทเชอร์
http://www.soccersuck.com/ss/
Tags:
-
▶ Reply to This