Members

เรือเซ็งกุนซัดเบิ้ลแต่ไม่ได้เฮ!โดนเจ้าสัวตีเจ๊า2-2

เรือเซ็งกุนซัดเบิ้ลแต่ไม่ได้เฮ!โดนเจ้าสัวตีเจ๊า2-2
18/09/2011 23:19:25



        "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ สุดเซ็ง นำก่อน 2-0 จาก เซร์คิโอ อเกวโร่ แต่สุดท้ายโดนเจ้า "เจ้าสัว" ฟูแล่ม ตามเจ๊า 2-2 ทำสามคะแนนหลุดมือ เก็บได้เพียงแต้มเดียวเฉย ขณะที่ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ สุดฮอต เปิดบ้านถล่ม สโต๊ค เละเทะ 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา

 

 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2554
ฟูแล่ม 2-2 แมนฯ ซิตี้


สนาม : คราเวน ค็อตเทจ 


         ฟู แล่ม เปิดสนามคราเวน ค็อตเทจ รับแข้งแมนฯ ซิตี้ เกมนี้เจ้าบ้านไม่มีอารอน ฮิวจ์ส แบ๊กขวาที่บาดเจ็บ ต้องส่งสตีเฟ่น เคลลี่ลงทำหน้าที่แทน ส่วนแนวรุกดร็อปไบรอัน รูอิซ กองหน้าตัวใหม่เป็นแค่สำรอง โดยเป็นโอกาสของมุสซ่า เดมเบเล่ที่ได้ล่าตาข่ายคู่กับบ็อบบี้ ซาโมร่า ขณะที่ซิตี้ก็นำทัพมาโดยเซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอดิน เชโก้ 2 หัวหอกตัวเก่งตามปกติ โดยที่คาร์ลอส เตเวซยังเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม


          ออก สตาร์ทเกมขึ้นมา ซิตี้เดินหน้าบุกใส่ก่อนทันที และได้ลุ้นในนาทีที่ 10 จากจังหวะโต้กลับดาบิด ซิลบาไหลบอลให้ซามีร์ นาสรี่ยิง แต่เบาไปทำอะไรมาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารฟูแล่มไม่ได้ 


          ถัดมา 8 นาที ทีมเยือนก็ออกนำจนได้ โดยเป็นซิลบาคนเดิมที่ไหลบอลมาให้เซร์คิโอ อเกวโร่ อัดด้วยขวาเสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด ซิตี้ออกนำ 1-0 


          พอ ขึ้นนำ เกมส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของซิตี้ นาที 25 กาแอล กลิชี่ แบ๊กซ้ายทีมเยือน ลองยิงไกลจากระยะ 25 หลา แต่คราวนี้ชวาร์เซอร์ไม่ยอมพลาด 


          จากนั้นนาที 28 ชวาร์เซอร์ก็ต้องออกแรงเซฟอีก จากจังหวะที่ซิลบาไหลมาให้เอดิน เชโก้ กระหน่ำตรงกรอบโทษ


           ท้าย ครึ่งแรก ซิตี้ได้ลุ้นอีกครั้ง จากเตะมุมที่นาสรี่เปิดมาให้ไมกาห์ ริชาร์ดส์ เทกตัวโขก แต่ก็ข้ามคานไปไกล ซิตี้บีบจนฟูแล่มแทบไม่มีโอกาสสร้างความหนักใจให้พวกเขาได้เลย หมดครึ่งแรกเรือใบบุกนำ 1-0


          เริ่มครึ่งหลังได้ไม่ถึง นาที ซิตี้ก็หนีไปเป็น 2-0 กาแอล กลิชี่วางบอลยาวจากแดนหลัง เอดิน เซโก้โหม่งตั้งมาให้อเกวโร่ล้มตัวยิงด้วยขวา ส่งบอลเสียบโคนเสาอย่างเด็ดขาด ซิตี้หนีไปเป็น 2-0 และเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวด้วย 


          อย่าง ไรก็ตามนาที 55 ฟูแล่มตามตีไข่แตกได้สำเร็จ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ไหลบอลให้บ็อบบี้ ซาโมร่า จับก่อนอัดด้วยขวา ส่งบอลโค้งหนีมือโจ ฮาร์ทเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม 


          นาที 64 ฟูแล่มน่าตีเสมอได้ เมื่อเดมพ์ซี่ย์เทกตัวโขกลูกเตะมุมของปาจ์ติม คาซามี่ บอลพุ่งเข้ากรอบจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ฮาร์ทโชว์ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้หวุดหวิด 


          ความพยายาม ของฟูแล่มมาสำเร็จในนาที 75 แบบเฮงๆ เมื่อซาโมร่าไหลคืนหลังมาให้แดนนี่ เมอร์ฟี่ แปเน้นๆจากนอกกรอบ บอลพุ่งไปแฉลบขาแว็งซ็องต์ ก็องปานีเปลี่ยนทางเสียบโคนเสาสองเข้าไป ฟูแล่มตีเสมอเป็น 2-2 จากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ซิตี้บุกมาเสมอฟูแล่มอย่างสนุก 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

 ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, คริส แบร์ด, เบรเด้ ฮันเกลันด์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ (ปาจ์ติม คาซามี่ น.61), แดนนี่ เมอร์ฟี่, สตีฟ ซิดเวลล์, คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์, บ็อบบี้ ซาโมร่า, มุสซ่า เดมเบเล่ (ไบรอัน รูอิซ น.88)

 สำรองไม่ได้ใช้ : นีล เอเธอริดจ์, ออร์ลันโด้ ซา, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, มาร์เซล เกซอฟ, ซดีเน็ก กรีเกร่า 

 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็อง ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่, ซามีร์ นาสรี่ (อดัม จอห์นสัน น.81), เซร์คิโอ อเกวโร่ (คาร์ลอส เตเวซ น.82), ดาบิด ซิลบา (ปาโบล ซาบาเลต้า น.69), เอดิน เชโก้  

 สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเตล ปันติลิมอน, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, โคโล ตูเร่, มาริโอ บาโลเตลลี่ 

 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก

ซันเดอร์แลนด์ 4-0 สโต๊ค


สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์


         สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ ที่กำลังไล่ล่าชัยชนะนัดแรก กลับดร็อปกัปตันทีม ลี แค็ตเตอร์โมล พร้อมกับส่ง จอห์น โอเช ที่เพิ่งฟิตลงสนาม เช่นเดียวกับ อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้ กับ เดวิด วอห์น แทน แจ็ค โคลแบ็ค กับ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ ที่ถูกแบน 


         ส่วน ช่างปั้นหม้อ ปรับยกชุดจากเกมยุโรปกับ ดินาโม เคียฟ โดยเรียกใช้บริการ อัสเมียร์ เบโกวิช, มาร์ก วิลสัน, โจนาธาน วู้ดเกต, ดีน ไวท์เฮด, รอรี่ ดีแล็ป, แม็ตธิว เอเธอริงตัน, จอน วอลเตอร์ส และ ปีเตอร์ เคร้าช์ อีกครั้ง  


         เปิด ฉากได้แค่ห้านาที แฟนๆ เจ้าบ้านได้เฮกระหึ่มเมื่อทีมรักทะยานนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะเตะมุม เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดเข้ามา ไตตัส บรัมเบิ้ล ได้โอกาสสับไกเต็มๆ แม้ เบโกวิช จะพยายามป้องกันไม่ให้ข้ามเส้น ทว่าก็ไม่สำเร็จ


         แมวดำ ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ อีกแค่หกนาทีต่อมาก็หนีเป็น 2-0 คราวนี้ เริ่มจาก ลาร์สสัน เช่นเดิมที่เปิดจากกราบซ้าย โจนาธาน วู้ดเกต พยายามจะโหม่งสกัดไม่ให้บอลถึง นิคลาส เบนท์เนอร์ แต่กลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ "วู้ดดี้" ชนิดสะใจแฟนๆ เจ้าถิ่น โทษฐานที่เคยเป็นผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล และ มิดเดิ้ลสโบรช์ อริร่วมแดนอีสาน


         สโต๊ค เจอกับฝันร้ายชัดๆ นาทีที่ 27 ก็สังเวยอีกเม็ดเมื่อ เบนท์เนอร์ จ่ายให้ เคร็ก การ์ดเนอร์ ตะบันจากหน้ากรอบเขตโทษลูกแฉลบขา ไรอัน ชอว์ครอส กองหลังทีมเยือนที่พยายามบล็อกก่อนย้อยข้ามหัว เบโกวิช เข้าไปให้ ซันเดอร์แลนด์ หนีห่าง 3-0 ปิดฉากครึ่งแรก 


         ครึ่งหลัง แมวดำ เน้นความแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 53 ลาร์สสัน กลายเป็นคนแรกของเกมที่โดนใบเหลือง แต่อีกห้านาทีต่อมา ดาวเตะสวีดิชก็ใส่ชื่อเป็นผู้ทำสกอร์ให้เจ้าบ้านหนีเป็น 4-0 จากฟรีคิกเยื้องมาทางซ้าย และ ลาร์สสัน วิ่งเข้าปั่นเสียบเสาสองสวยงาม


         โท นี่ พูลิส กุนซือ สโต๊ค พยายามแก้เกมเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมง โดยส่ง เคนวีน โจนส์ เด็กเก่า ซันเดอร์แลนด์ ลงเล่นแทน คาเมรอน เจอโรม  ถัดมานาทีที่ 64 บรูซ ขยับเปลี่ยนตัวบ้างโดยส่ง โคลแบ็ค แทน ลาร์สสัน ก่อนที่ พูลิส จะให้ เจอร์เมน เพนแนนท์ แทน แม็ตธิว เอเธอริงตัน


         เหลือราว 20 นาที พูลิส ถอด รอรี่ ดีแล็ป ออกแล้วส่ง วิลสัน ปาลาซิออส แทน จากนั้น นาทีที่ 82 บรูซ ส่ง ชี ดอง วอน กองหน้าเกาหลีใต้แทน สเตฟาน แซสเซอญง 


         ถัด มาอีกแค่นาทีเดียว ช่างปั้นหม้อ มีลุ้นตีไข่แตกเมื่อขึ้นเกมทางซ้ายเปิดไปเสาสองเลยถึง ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่ยืนคนเดียวโล่งๆ แต่กลับยิงวืดอย่างน่าเสียดาย จากนั้น บรูซ เปลี่ยนคนสุดท้ายโดยส่ง คอเนอร์ วิคแฮม แทน เบนท์เนอร์ ที่ถูกถอดไปพัก ก่อน ซันเดอร์แลนด์ รักษาสกอร์นำจนเอาชนะไปสบายๆ 4-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

 ซันเดอร์แลนด์ :
ซิมง มินโยเล่ต์, จอห์น โอเช, ไตตัส บรัมเบิ้ล, เวส บราวน์, คีแรน ริชาร์ดสัน, อาเหม็ด เอลโมฮามาดี้, เคร็ก การ์ดเนอร์, เดวิด วอห์น, เซบาสเตียน ลาร์สสัน (แจ็ค โคลแบ็ค น.83), สเตฟาน แซสเซอญง (ชี ดอง วอน น.81), นิคลาส เบนท์เนอร์ (คอเนอร์ วิคแฮม น.85)

 สำรองไม่ได้ใช้ : คีเร็น เวสต์วู้ด, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ลี แค็ตเตอร์โมล, เจมส์ แม็คคลีน 

 สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอส, โจนาธาน วู้ดเกต, มาร์ก วิลสัน, คาเมรอน เจอโรม (เคนวีน โจนส์ น.61), รอรี่ ดีแล็ป (วิลสัน ปาลาซิออส น.71), ดีน ไวท์เฮด, แม็ตธิว เอเธอริงตัน (เจอร์เมน เพนแนนท์ น.65), จอน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์

 สำรองไม่ได้ใช้ : โธมัส โซเรนเซ่น, เกล็น วีแลน, แม็ตธิว อัพสัน, แอนดี้ วิลกินสัน

 ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์

สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

 

สเปอร์ส ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0
ฟูแล่ม เสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ สโต๊ค 4-0

Views: 193

Reply to This

Replies to This Discussion

เครดิต สยามสปอร์ต

 

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110918_332.html

สู้...ว้อยยยย....ตามกัดเด็กผีห้ายทานเร็วๆ เน้อ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.