Members

กุนสำรองฮีโร่!เรือใบแซงดับเรือดำน้ำหวิว2-1

กุนสำรองฮีโร่!เรือใบแซงดับเรือดำน้ำหวิว2-1



        เซร์คิโอ อเกวโร่ รับบทตัวสำรองฮีโร่หลังซัดประตูช่วงทดเจ็บช่วย "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านแซงเก็บชัยเหนือ "เรือดำน้ำเหลือง" บียาร์เรอัล แบบเหลือเชื่อ 2-1 เก็บสามแต้มสุดสำคัญได้สำเร็จ ในศึก ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ. เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา

 


ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2554
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 2   -   1 บียาร์เรอัล (สเปน)


สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม, แมนเชสเตอร์ อังกฤษ


        โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปรับทัพหลายจุดจากเกมถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-1 และปรับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 วาง อดัม จอห์นสัน, ดาบิล ซิลบา และ ซามีร์ นาสรี่ ยืนทำกมรุกจากขวาไปซ้าย หน้าเป้าส่ง เอดิน เชโก้ ดาวยิงทีมชาติบอสเนียฯลงล่าตาข่าย ส่วนม้านั่งสำรองได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ ฟิตกลับมามีชื่อในทีม


        ฝั่ง ฆวน การ์ลอส การ์รีโด้ กุนซือ บียาร์เรอัล ที่สถานการณ์หลังพิงฝายังไม่มีสักแต้มจาก 2 นัด ได้ บอร์ฆา บาเลโร่ พ้นโทษแบนกลับมายืนมิดฟิลด์คู่กลางกับ บรูโน่ โซเรียโน่ ส่วนแนวรุกใช้ รูเบน การ์เซีย กานี่, โจนาธาน เด กุซมัน และ เอร์นาน เปเรซ ยืนทำเกมรุก ทิ้ง จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ดาวยิงทีมชาติอิตาลี อดีตเด็กเก่า แมนฯ ยูไนเต็ด ลงจบสกอร์


        เขี่ยบอลเริ้มเกมมาแค่ 4 นาทีแฟนบอล "เรือใบสีฟ้า" และ มันชินี่ ช็อกตาตั้งทันที จากความผิดพลาดถูกผู้เล่นทีมเยือนตัดบอลในแดนกลางไหลมาให้ รอสซี่ กระชากมาปั่นบอลด้วยซ้ายถูก โจ ฮาร์ท ปัดออกมาไม่พ้นอันตราย เปิดโอกาสให้ รูเบน การ์เซีย กานี่ ปรี่เข้าซ้ำดาบสองตุงตาข่าย บียาร์เรอัล บุกนำ 1-0


        จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พยายามตั้งเกมสู้ใหม่ นาที 19 เกือบตีเสมอได้จากฟรีคิกระยะหวังผล อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ แบ็กซ้ายเซิร์บปั่นบอลแรงข้ามกำแพงมากำลังจะหมุดเสียบใต้คาน ทว่า ดีเอโก้ โลเปซ ไม่พลาดสปริงข้อเท้าลอยตัวปัดบอลออกหลังไปได้สวย


        เรือใบสีฟ้า ครองบอลได้มากกว่าก็จริง แต่หาจังหวะเข้าไปสร้างความอันตรายในกรอบเขตโทษ เรือดำน้ำสีเหลือง ไม่ได้เลย ทำให้ ยาย่า ตูเร่ ลองใช้วิธีส่องไกล แต่ก็ไม่ผ่านบล็อกของกองหลังของทีมเยือน


        นาที 40 มันชินี่ ไม่รอช้าทำการปรับแท็กติกเปลี่ยนตัวทันที ถอด อดัม จอห์นสัน ออกมา และส่ง แกเร็ธ แบร์รี่ ลงไปบู๊แทน


        การแก้เกมของ มันชินี่ มาเห็นผลทันทีเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 43 ซามีร์ นาสรี่ ไหลบอลขึ้นมาให้ โคลารอฟ เติมขึ้นมาเปิดเรียดเข้ากลางหมายให้ เชโก้ เข้าปิดบัญชี ทว่า การ์ลอส มาร์เชน่า กลับมาสไลด์บอลตัดหน้าเขาประตูตัวเองไป


        เจ้าถิ่นคึกจัดทันทีและนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกน่าออกนำอย่างยิ่ง เชโก้ เก็บบอลพลิกตัวมาไหลให้ ดาบิด ซิลบา ยิงไปแฉลบแนวรับทีมเยือนเข้าซอง ดีเอโก้ โลเปซ ล้มตัวตะครุบรับบอลอยู่หมด จบ 45 นาทีแรก เรือใบสีฟ้า เสมอกับ เรือดำน้ำาเหลือง อยู่ 1-1


     เขี่ยบอลเริ่มครึ่งหลังมาไม่ถึงนาที บียาร์เรอัล ทักทายได้น่ากลัว รอสซี่ พลิกบอลมาเลี้ยงฝ่าแนวรับ เรือใบสีฟ้า สองสามคน ก่อนอัดด้วยซ้ายเต็มแรงหลุดเสาแรกออกไป

 

 


     โอกาสถัดมาเจ้าบ้านน่าได้สุดขีด ปาโบล ซาบาเลต้า ตักบอลหลุดทะลุกับดักล้ำหน้าให้ เชโก้ หลุดเดี่ยวมาแปฮาล์ฟวอลเลย์ไม่ผ่านมือ โลเปซ พุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ทัน

 

 


     นาที 55 เรือใบสีฟ้า สามารถส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ ยาย่า ตูเร่ ลากตะลุขมาแทงบอลให้ เชโก้ สับไกเต็มข้อชนใต้คานยัดเข้าประตูเสาแรก ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

 

 


     3 นาทีต่อมา เรือดำน้ำสีเหลือง ตอบโต้ได้หวาดเสียว บรูโน่ โซเรียโน่ เปิดบอลให้ บอร์ฆา บาเลโร่ ควบลากบอลมาซัดไกลหลุดออกหลังไปไม่เยอะ

 

 


     นาที 62 มันชินี่ เปลี่ยนตัวเสริมเกมรุกเต็มพิกัด ถอด ไนเจล เด ยองก์ กองกลางตัวรับออก และส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงมา

 

 


     เจ้าบ้ายครองบอลบุกใส่อยู่ตลอด แต่ยังหาโอกาสจบจังๆไม่ได้เลย นาที 73 มาได้เสียวอีกครั้งจากฟรีคิกระยะทำการของ โคลารอฟ ทว่าเจ้าตัวก็ซัดบอลผ่านกำแพงมาหลุดออกเสาแรกไป


     และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 94 เรือใบได้จังหวะผ่านบอลจากทางด้านข้างและบอลเลยไปถึง กุน ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ เจ้าบ้านแซงนำ 2-1 และก็เป็นจังหวะสุดท้ายจบเกม แมนฯ ซิตี้ พลิกยิงแซง บียาร์เรอัล 2-1 เก็บสามแต้มสุดสำคัญแบบเหลือเชื่อได้สำเร็จ

 


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


     แมนฯ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - ไนเจล เด ยองก์, ยาย่า ตูเร่ - อดัม จอห์นสัน, ดาบิล ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ - เอดิน เชโก้

     สำรอง :
คอสเตล ปันติลิมอน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, เจมส์ มิลเนอร์, สเตฟาน ซาวิช, กาแอล กลิชี่, แกเร็ธ แบร์รี่, เซร์คิโอ อเกวโร่

 


     บียาร์เรอัล :
ดีเอโก้ โลเปซ - คริสเตียน ซาปาต้า, การ์ลอส มาร์เชน่า, กอนซาโล่ โรดริเกซ, โฆเซ่ กาตาล่า - บอร์ฆา บาเลโร่ , บรูโน่ โซเรียโน่ - รูเบน การ์เซีย กานี่, โจนาธาน เด กุซมัน, เอร์นาน เปเรซ - จูเซ็ปเป้ รอสซี่

     สำรอง
: เซซ่าร์ ซานเชซ, มาเตโอ มูซัคชิโอ, มาริโอ กาสปาร์, วากาโซ่ มูบารัค, เคราร์ด บอร์ดาส, มาร์กอส กัลลอน, โฆเซลู

 


     ผู้ตัดสิน
: พาเวล คราโลเวช (สาธารณรัฐเช็ก)






Views: 411

Reply to This

Replies to This Discussion

เครดิต สยามสปอร์ต

 

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/111019_013.html

แมนซิตี้โกงความตาย สู้จนนาทีสุดท้าย จนได้ชัย เล่นเอาแฟนบอลหลายท่านบ่นไปนอนก่อนเฮ 555555

ลุ้นจนวินาที่สุดท้าย........อิอิ

เน้อะๆอาจ๋อมเนอะๆ อิๆๆๆๆๆ
สุดยอดดด
ทีมเริ่มมา กำลังใจเริ่มมี ตราบใดที่ยังไม่มีเสียงนกหวีดหมดเวลา อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ นี่ละนิยามของทีมที่จะยิ่งใหญ่
เล่นห่วยแต่ชนะ เริ่มจะเข้าใกล้แมนยูขึ้นมาทุกทีละ 55+
วันนี้ เล่น ผิด ฟร์อม เกือบทั้งทีม ยกเว้น โคราล๊อฟ ซึ่งดูแล้ว อึดอัดมาก

ใคร ที่บอกมันโช่ ไม่ได้เรื่องวันนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า มันโช่ มันสมองล้วนๆ

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.