ศึกฟุตบอลถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 30 พฤศจิกายน "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องยุติเส้นทางลุ้นแชมป์รายการนี้เอาไว้เพียงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ หลังเป็นฝ่ายแพ้ "อินทรีผงาด" คริสตัล พาเลซ ทีมดังจากลีกแชมเปี้ยนชิพ คาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของตัวเอง 1-2 โดยเกมนี้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือเจ้าถิ่นตัดสินใจดร็อปแข้งหลักแบบยกทีม เพื่อเปิดทางให้พวกตัวสำรองที่มีดีกรีถึงนักเตะระดับทีมชาติได้ลงสนามถึง 9 คนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น คริส สมอลลิง, หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน และ "เบิร์บ" ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ส่วนทีมเยือนจัดทัพใหญ่แบบเต็มอัตราศึก แต่ในช่วงครึ่งเวลาแรกไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 

          เข้าสู่ครึ่งหลัง "อินทรีผงาด" เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ดาร์เรน อัมโบรส นาที 65 ทว่าเจ้าถิ่นไล่ตามตีเสมอได้จากลูกจุดโทษของ เฟเดอริโก มาเคดา นาที 69 หลังจากนั้นไม่มีการซัลโวตาข่ายกันเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน เสมอ 1-1 ต้องเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที เพื่อตามหาผู้ชนะที่จะได้สิทธิผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ก่อนทีทีมเยือนจะได้ประตูชัยจากฝีเท้าของ เกลนน์ เมอร์เรย์ นาที 98 ส่งผลให้ คริสตัล พาเลซ ลอยลำผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้แบบพลิกความคาดหมาย

          หลังจบเกม เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" เอ่ยปากกล่าวคำขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ทำให้ต้องรู้สึกผิดหวัง หลังลูกทีมของเขาโชว์ฟอร์มได้ไม่เป็นที่น่าประทับใจเอาเสียเลย ก่อนที่จะเป็นฝ่ายพลาดท่าแพ้ คริสตัล พาเลซ คาถิ่นของตัวเอง แถมยังต้องกระเด็นตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแบบน่าเสียดายเป็นอย่างมากอีกต่างหาก  

          "ผมไม่คิดว่าเราจะทำผลงานได้ย่ำแย่แบบนี้ เพราะนี่ไม่ใช่ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก แม้เราจะมีโอกาสกดดันคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง แต่เรากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมต้องขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ทำให้ต้องรู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น" เฟอร์กูสัน กล่าว

          ส่วนผลการจับสลากประกบคู่เกมในรอบรองชนะเลิศที่ต้องลงเล่นแบบเหย้า-เยือน 2 นัด ปรากฎว่า "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เจอศึกหนักต้องปะทะแข้งกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมลีกเดียวกัน โดยเกมแรก "เรือใบสีฟ้า" จะได้สิทธิเป็นเจ้าบ้านก่อน แต่ยังไม่มีการกำหนดวันฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ ขณะที่ คริสตัล พาเลซ ต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมลีกเดียวกันอย่าง คาร์ดิฟฟ์ โดยนัดแรก "อินทรีผงาด" จะได้ลงเล่นในถิ่นของตัวเองก่อนเช่นกัน   

 นสพ.com