Mario Balotelli will get all the headlines, but James Milner played one of his best games for Manchester City to help the club to beat Spurs 3-2.

City lined up in a 4-4-2 with Samir Nasri and David Silva on the outside and Gareth Barry and Milner in the middle of midfield. This in some ways limits City as Nasri just doesn't combine as well with Silva, but given the desire to play two up front, and no Yaya Toure, the centre of midfield is where Milner should play.

Silva was given his normal free reign to roam although nominally being assigned to the right of midfield. This meant that Milner had to cover for Silva defensively when a play broke down. However, more than that, with Micah Richards playing right full back and occasionally moving forward, Milner would then drop back to cover for Richards all of this while also playing the central defensive midfield role with Barry.

Milner's value is emphasized by what happened in the game between Arsenal and United. Rafael, the United full back, went surging forward and was tackled in the Arsenal box. Arsenal counter attacked immediately and the ball was played into the left wing where United had not successfully rotated correctly allowing Alex Oxlade-Chamberlain to find Robin van Persie for the equalizer.

รูปของโอ้อาจจะอยู่น่าหนังสือข่าวทุกเล่ม แต่เกมส์ชนะสปอร์ 3-2 คนที่เล่นดีที่สุดในเกมส์คือ เจม มิลเนอร์

ซิตี้ใช้แผน 4-4-2 โดยนาสรี่ซิลบาเป็นปีก และแบรี่กับมิลเนอร์เล่นกลางคู่กัน โดยในเกมส์ไม่เพียงแต่นาสรี่ผสานงานกับซิลบาได้เป็นอย่างดี แต่ต้องชมมิลเนอรืด้วยที่คอยขับเคลื่อนเกมส์แดนกลางแทนยาย่าได้เป็นอย่างดี

ซิลบาคอยเล่นเป็นตัวฟรีมีอิสระในการสร้างสรรค์เกมส์แม้ว่าเขาจะถูกเล่นในตำแหน่งปีกขวา ส่วนน่าที่ของมิลเนอร์ก็คือคอยช่วยซิลบาในเกมส์รับเมื่อซิลบาเสียบอล อย่างไรก็ดีเกมส์รุกของซิตี้ยังมีไมก้าค่อยเติมสนับสนุนตลอดเกมส์ทำให้ต้องมีมิดฟิลประคองเกมส์รับในจังหวะที่ไมก้าเติมซึ่งผู้รับหน้าที่นั้นคือ แบรี่

โดยการเล่นของมิลเนอร์มีประโยชน์แก่ทีมอย่างมาก โดยลองดูตัวอย่างจาก เกมส์แมนยูเล่น กับอาร์เซนอล จังหวะนั้น ราฟาเอลพยายามเติมเกมส์รุกแล้วเขาทำพลาดโดนอาร์เซนอลตัดบอลได้ จากนั้นอาร์เซนอลรีบโต้กับอย่างรวดเร็ว และไม่มีผู้เล่นของยูไนเต็ทสลับตำแหน่งมาช่วยประคองเกมส์รับ ไม่เหมือนกับซิตี้ที่มีมิลเนอร์ ทำให้อ๊อกเหล็กจ่ายบอลให้เพอซี่ยิงตีเสมอได้สำเร็จ

Given the formations of Spurs and City with Harry Redknapp's club playing five in midfield the visitors really should have dominated, but Milner constantly made the correct decision to deny Modric and Bale the opportunities to cause trouble. I've written that Spurs have the best midfield in the Premier League. That wasn't the case on Sunday as Gareth Barry combined superbly with Milner to really prevent Spurs from hitting their stride.

And finally the controversies of the game. Lescott should have received a straight red for his elbow smash to Younes Kaboul. With Balotelli I'm not so sure. At full speed it looks like the striker is trying to regain his balance. In slow motion it looks like a clear stamp on Scott Parker. But when you are off balance you do stomp down to regain your footing. As it was Balotelli frankly I think most of us, including me, will tend towards a deliberate stamp.

ส่วนแผนการเล่นของสเปอร์นั้น เรดแนพได้จัดมิดฟิลถึง 5 คนด้วยจำนวนมิดฟิลที่มากกว่าน่าจะเอาชนะแดนกลางของซิตี้ได้ แต่สิ่งที่เรดแนพคิดนั้นผิดไป โดยมิลเนอร์เล่นได้ดีอย่างต่อเนื่องโดยคอยปิดโอกาสไม่ให้เบลและโมดริชทำเกมส์ได้อย่างสะดวก ผมเคยบอกไปแล้วว่าสเปอร์มีแดนกลางที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ แต่เกมส์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแบรี่ผนึกกำลังกับมิลเนอร์เล่นช่วยเกมส์รับและตัดจังหวะเกมส์บุกสเปอร์ได้เป็นอย่างดี

แม้หลังจบเกมส์จะมีการถกเถียงกันในจังหวะที่เลสคอตควรจะโดนใบแดงจากจังหวะชักศอกใส่กาบูล ส่วนกรณีของบาโลนั้นผมก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะดูจากภาพสปีดปกติเหมือนเขาจะพยายามจะทรงตัว ตอนดูจากภาพช้าดูเหมือนว่าบาโลจะย่ไปที่น่าปาร์คเกอร์ แต่อย่างว่าเมื่อคุณศูนย์เสียการทรงตัวคุณก็ต้องพยายามยันเท้าหลังเพื่อรักษาสมดุลไว้ ซึ่งจากภาพมันก็ดูกำกึ่ง แต่ความคิดส่วนตัวของผมคนเดียวนะ ผมคิดว่าเขาจงใจเหยียบน่าปาร์คเกอร์