ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กองหลัง แมนฯ ซิตี้ เผย ตอนนี้ศึก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์" ที่ต้นสังกัดจะฟัดกับจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันจันทร์ที่ 30 เมษายนนี้ มีความสำคัญมากขึ้นแล้ว หลัง "เรือใบสีฟ้า" ร่วงมารั้งอันดับ 2 ของตาราง พร้อมรับ เกมพ่าย สวอนซี 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ทีมของตนเล่นได้ห่วยจริงๆ

     ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ปราการหลังคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระบุว่า ศึก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์" ที่ต้นสังกัดจะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมือง ในวันจันทร์ที่ 30 เมษายนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นแมตช์ตัดสินแชมป์ลีกซีซั่นนี้ ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" กับ "ปีศาจแดง" นั้น กลายเป็นเกมที่มีความสำคัญมากขึ้นแล้ว หลังจากที่ทีมของตนเพิ่งออกไปพ่าย สวอนซี ซิตี้ 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา

     การที่ แมนฯ ซิตี้ ปราชัยต่อ สวอนซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด แซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน ด้วยระยะห่าง 1 แต้ม จากการลงสนามเท่ากัน หลังจากที่ "ปีศาจแดง" เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เก็บ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-0 ในวันเดียวกัน

     จากเรื่องดังกล่าว ทำให้ถึงแม้ ริชาร์ดส์ จะยืนยันว่า การขับเคี่ยวแย่งแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเหลือระยะทางอีกเยอะกว่าที่จะได้ข้อสรุป แต่กองหลังวัย 23 ปี ก็ยอมรับว่า การถูกเขี่ยร่วงลงมารั้งรองจ่าฝูงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เจ็บปวดสุดๆ พร้อมบอกว่า การพ่ายแพ้ "หงส์ขาว" เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ศึก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์" ในวันสุดท้ายของเดือนเมษายนนี้ มีความสำคัญมากกว่าเดิม

     ริชาร์ดส์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "นั่น (การถูกเขี่ยร่วงจากบัลลังก์จ่าฝูง) เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดเลยล่ะ เพราะหลังจากเราเป็นผู้นำมานาน แต่ตอนนี้เราร่วงลงมาเป็นรองจ่าฝูงแล้ว จริงอยู่ที่การแข่งขันมันยังไม่จบ แต่มันเป็นเรื่องยากอยู่เสมอที่จะเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้ ซึ่งผลจากเกมนี้ทำให้ศึกที่บ้านของเรา ในวันที่ 30 เมษายนนี้ กลายเป็นเกมที่มีความสำคัญมากกว่าเดิมแล้ว"

     ทั้งนี้แข้งทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่า เกมที่ทีมของตนเสียท่าให้ สวอนซี นั้น พลพรรค "เรือใบสีฟ้า" ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานมาก พร้อมบอกว่า ต้นสังกัดไม่น่าที่จะต้องมาดิ้นรนอย่างหนักในช่วงท้ายเกม เพื่อพยายามแบ่งแต้มกลับไปให้ได้เลย หากเล่นกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้น "ผมไม่อยากพูดถึงเกมนั้นเท่าไหร่หรอกนะ เพราะผมคิดว่า เราทำได้แย่มาก เราทุกคนเล่นได้แย่จริงๆ"

     "เราไม่มีความกระตือรือร้นเลย และเราไม่ควรที่จะมาต้องการความพยายามเฮือกสุดท้าย เพียงเพื่อรักษาแต้มเอาไว้ให้ได้ด้วย เมื่อเทียบกับว่า เรามีนักเตะคุณภาพอยู่ในทีมตั้งหลายคน เราไร้ความกระตือรือร้น, ไม่ได้ทำงานอย่างหนัก และไม่ได้เล่นตามปกติที่เราเคยทำได้ มันไม่มีข้อแก้ตัวเลย มันเป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 2 ในรอบ 4 วัน และเราจำเป็นต้องกลับไปเริ่มวางแผนกันใหม่อีกครั้ง เพื่อดูว่า เราผิดพลาดไปตรงไหน เพราะมันยังไม่ดีพอ" ริชาร์ดส์ ระบุ