การ์เซียประเดิม!โขกเซฟเรือไล่เจ๊าหม้อ 1-1 

ฆาบี้ การ์เซียลงสนามมาเกมแรกก็ประเดิมประตูแรกได้แล้วด้วยการโขกตุงช่วยให้"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้มีไล่ตีเสมอ"ช่างปั้นหม้อ"สโต๊ค ซิตี้แบบไประทึกกันท้ายเกม 1-1 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 

สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม 

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555 

สโต๊ค ซิตี้ 1:1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ประตู : 1-0 เคราช์ น.15, 1-1 การ์เซีย น.35 
 
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก สโต๊ค ซิตี้ 1-1 แมนซิตี้ 

เกมนี้เจ้าบ้าน"ช่างปั้นหม้อ"ยังไม่ส่งโอเว่นลงประเดิมสนามโดยให้นั่งเป็นสำรองไปก่อน กลับกันฝั่ง"เรือใบ"ขนทัพนักเตะใหม่ลงสนามกันหนาตาทั้งไมค่อน, การ์เซียและซินแคลร์ 

ด้านสถิติถือว่าน่าจับตามองเพราะสโต๊คไม่เคยแพ้เกมในบ้านให้แมนฯ ซิตี้ตั้งแต่เป็นยุคพรีเมียร์ลีกมาเลยโดยชนะ 1 เสมอ 3 อีกทั้งสามเกมหลังในลีกที่ทั้งสองทีมเจอกันที่สนามนี้จบลงด้วยผล 1-1 ทั้งสามนัด 

ครึ่งแรก 

เตฟขอยิงทักทายก่อน 
เปิดฉากมาทางทีมเยือนเองก็เปิดฉากบุกเข้าใส่ได้มากกว่าและก็ออกลุ้นกันตั้งแต่นาทีที่ 5 เลยจากเตเบซที่พาบอลไถมาเองเบียดกับเอ็นซ็องซี่แต่ก็ผ่านมาได้แล้วลองยิงเลยแต่บอลไปแฉลบออกหลัง 

หม้อเฮก่อน!พี่เคราช์ได้ซัดจ่อๆ 
แต่แล้วนาที 15 "ช่างปั้นหม้อ"ก็เป็นฝ่ายได้เฮกันก่อนเลยในจังหวะเตะมุมเข้ามาบอลมันโดนสกัดแต่ไม่ได้ลอยไปไหน ก่อนวอลเตอร์จะเตะกลับไปถึงเคราช์กระโดดแย่งกับกอมปานีและเอาบอลลงมาได้ก่อนจะชุลมุนจนเหมือนบอลไปโดนแขนเจ้าตัวแต่ไม่มีเสียงนกหวีดสุดท้ายก็ได้ยิงจ่อๆไม่เหลือ สโต๊คนำแล้ว 1-0 

บาโลลองส่องบ้างยังข้ามคาน 
หลังจากนั้น"เรือใบ"พยายามบุกอย่างหนักแล้วก็มีโอกาสน่าประตูตีเสมอเหลือเกินจากเตเบซที่จ่ายเข้าในเขตโทษให้กับบาโลเตลลี่วิ่งมารับบอลก่อนจะม้วนหนีตัวประกบมาได้ตามด้วยสับไกแต่บอลยังข้ามคาน 

ยาย่าฟรีคิกไกลยังไม่แม่น 
โอกาสทั้งสองฝั่งมีไม่เยอะส่วนใหญ่ออกแนวสู้กันกลางสนามมากกว่าแม้ทางแมนฯ ซิตี้จะได้บุกมากกว่าก็ตาม ก่อนจะมาได้ลุ้นเล็กๆในจังหวะฟรีคิกระยะราว 30 หลายิงโดยยาย่าแต่ก็หลุดกรอบไปพอสมควร 

ได้ซักที!การ์เซียโขกประเดิมเรือไล่เจ๊า 
สุดท้ายนาที 35 "เรือใบสีฟ้า"ก็ตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะบาโลเตลลี่ไปโดนทำฟาวล์ใกล้ๆริมเขตโทษทางซ้าย ก่อนเป็นเตเบซรับหน้าที่เปิดฟรีคิกเข้าไปที่เสาแรกและเป็นการ์เซียแข้งใหม่ได้โขกส่งบอลนอนก้นตาข่ายเต็มๆ แมนฯ ซิตี้ไล่เจ๊า 1-1 

นี่ก็เกือบประเดิม!ไมค่อนยิงดีดๆติดเซฟ 
แล้วทีนี้เกือบได้ออกนำไวเลยจากเตเบซที่พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนวางบอลยาวเข้าเขตโทษทางขวาให้กับไมค่อนที่เติมขึ้นมาได้ยิงด้วยขวาแบบดีดๆเดือดร้อนเบโกวิชต้องปัดออกหลังไปก่อน 

มาหนัก!เตฟได้ยิงเสาแรกเจอเซฟ 
เข้าช่วงท้ายครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้มาอีกแล้วและได้จบจากบอลฝากไปให้กับบาโลเตลลี่หน้าเขตโทษก่อนจะตอกส้นกลับมาให้เตเบซเติมมาพาบอลเข้าเขตโทษแต่เจอเบียดเลยโดนบีบมุมให้ยิงเข้าเสาแรกเจอเบโกวิชยืนดักทางรับไว้สบาย 

ครึ่งหลัง 

เจ้าบ้านโหมหนักขอนำอีกหน 
กลับมาครึ่งหลังกลายเป็นเจ้าบ้านที่ได้บุกมากกว่าค่อนข้างชัดเจนแล้วก็เกือบได้โอกาสลองส่องจากบอลเร็วขึ้นมาก่อนเคราช์จะจ่ายออกไปทางซ้ายให้กับไนท์ลี่ย์ได้ส่องเน้นๆทางหน้าเขตโทษแต่ยังติดตัวบล็อกออกหลัง 

เคราช์โขกชงแต่ไม่ถึง 
รูปเกมยังเป็นฝั่งสโต๊คที่กดดันได้หนักกว่าทั้งเกมรุกและเกมรับโดยไปไล่บีบแล้วได้บอลกลับมาฝากไปที่ไนท์ลี่ย์ทางซ้ายได้โอกาสเปิดเข้าไปเสาไกลให้กับเคราช์แต่มุมมันไม่ค่อยมีเลยพยายามโขกชงมาหน้าประตูแต่เข้ามือฮาร์ท 

เรือเกือบนำ!ยาย่ายิงยังติดเบโกวิช 
แต่"เรือใบ"เองก็โต้กลับมาน่าได้ประตูขึ้นนำเช่นกันในนาที 62 จากบอลฝากมาที่ยาย่าก่อนจะหมุนหนีมาสวยพาบอลขึ้นมาแล้วจะจ่ายตามช่องให้กับเตเบซแต่เจอสกัด บอลยังมาเข้าทางยาย่าวิ่งเข้ามายิงแต่เบโกวิชออกมาไวปิดมุมเซฟไว้ได้ 

รูปเกมยังไม่กระเตื้อง-โอ้เจอศอก 
จะเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วแต่ทั้งสองฝั่งแทบจะหาจังหวะโอกาสลุ้นกันไม่ได้เลย บอลมักจะสู้กันกลางสนามๆเสียเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจู่ๆบาโลเตลลี่ก็จะลงไปนอนเอามือกุมหน้าโดยถภาพช้าจับมาอีกทีเป็นเพราะเจอศอกวิลกินสันเต็มๆแต่โอ้ไม่ออกอาการโวยวายดูเป็นเด็กดีไปเลย 

โอ้ส่องหน้าเขตโทษไม่ตรงกรอบ 
แมนฯ ซิตี้มาได้ลุ้นจากในจังหวะที่บาโลเตลลี่ได้รับบอลจากนาสรี่ตรงหน้าเขตโทษก่อนจะได้โอกาสลองยิงเลยแต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบอยู่ดี 

หม้อเหนียว!เรือหาช่องเจาะไม่เข้า 
เหลือ 10 นาทีสุดท้ายฝ่าย"เรือใบ"ยังพยายามตามหาประตูชัยอยู่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเจอเกมรับของสโต๊คที่เหนียวแน่นในวันนี้ดักช่องทางเข้าทำได้เกือบหมด 

ต้องส่องแล้ว!นาสรี่ยิงไกลยังเจอเซฟ 
ก่อนจะหมดเวลาแมนฯ ซิตี้อยู่ไม่สุขแล้วเลยต้องอาศัยจังหวะยิงไกลจากนาสรี่หน้าเขตโทษทางซ้ายบอลพุ่งมาทางเสาแรกแต่เบโกวิชยังล้มตัวเซฟเอสไว้ได้อยู่ 

เบโกวิชโชว์เหนียว!เซฟลูกโขกการ์เซียทดเจ็บ 
ทดเจ็บแมนฯ ซิตี้ยังโหมหนักแล้วน่าได้ประตูนำเสียจริงๆจากจังหวะเตะมุมอีกแล้วเปิดเข้าไปทางเสาแรก เข้าหัวของการ์เซียอีกแล้วได้โขกเต็มเหนี่ยว เบโกวิชล้มตัวเซฟไว้ได้ก่อนบอลจะกระดอนชนเสายังดีไม่ไปไหนกลับมาเข้าซองเบโกวิชอีกที 

ชอว์ครอสช่วยชีวิต!วิ่งไปเคลียร์ลูกกระดกเซโก้จากเส้น 
แต่มันยังไม่จบแมนฯ ซิตี้เกือบจะได้ประตูนำอีกแล้วเป็นบอลเปิดยาวจากแนวรับขึ้นมาข้างหน้า เซโก้สปีดออกมาก่อนจะกระดกบอลสวนตัวเบโกวิชที่ออกมาตัด บอลจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่ชอว์ครอสยิ่งกว่าฮีโร่วิ่งไปเคลียร์ออกจากเส้นเฉียดฉิว 

สุดท้ายจบเกมแมนฯ ซิตี้ก็ทำไม่สำเร็จแบ่งแต้มกับสโต๊ค ซิตี้ไป 1-1 ทำให้พวกเขายังอยู่อันดับ 4 ตามเดิม ก่อนจะไปเจอกับเรอัล มาดริดในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกลางสัปดาห์นี้ 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช 7.5, โรเบิร์ต ฮูธ 7.0, ไรอัน ชอว์ครอส 7.0, มาร์ก วิลสัน 7.0, แอนดี้ วิลกินสัน 6.0, เกล็นน์ วีแลน 6.0, ชาร์ลี อดัม 6.0 (คาเมร่อน น.85 -), ไมเคิ่ล ไนท์ลี่ย์ 6.0 (เอเธอริงตัน น.69 5.0), สตีเฟ่น เอ็นซ็องซี่ 8.0, ปีเตอร์ เคราช์ 7.0 (โอเว่น น.90 -), โจนาธาน วอลเตอร์ 5.0 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ดีน ไวท์เฮด, โทมัส โซเรนเซ่น, คาเมรอน เจโรม, แมตธิว อัพสัน 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6.0, โจลีออน เลสคอตต์ 7.0, แวร์นซองต์ กอมปานี 7.0, กาเอล กลิชี่ 7.0, ไมค่อน 7.0, ยาย่า ตูเร่ 7.0, ฆาบี้ การ์เซีย 8.0*, สกอตต์ ซินแคลร์ 6.0 (ซิลบา น.74 5.0), ซามีร์ นาสรี่ 6.0, มาริโอ บาโลเตลลี่ 6.0 (เซโก้ น.90+1 -), คาร์ลอส เตเบซ 6.0 (แบร์รี่ น.64 6.0) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โคโล่ ตูเร่, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟล, แจ๊ค รอดเวลล์, ริชาร์ด ไรท์ 



 
 
 
 
 
 
 
 
 
_________________