อักบอนฯเบิ้ล!เรือนำสองหนเอาไม่อยู่วิลล่าสอยต่อเวลา 4-2

เกเบรียล อักบอนลาฮอร์กลายเป็นตัวแสบของ"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้เลยหลังพวกเขาอุตส่าห์ออกนำได้ก่อนถึงสองครั้งสองคราแต่ดันมาเจอ"สิงห์ ผงาด"แอสตัน วิลล่าไล่ตามตีเสมอได้หมดก่อนจะมาพลิกแซงในช่วงทดเจ็บเอาชนะ 4-2 คว้าตั๋วแคปิตอล วัน คัพเข้ารอบไปแทน

ฟุตบอลแคปิตอล วัน คัพรอบสาม

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

วันอังคารที่ 25 กันยายน 2555

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2:4 แอสตัน วิลล่า

ประตู : 1-0 บาโตลลี่ น.27, 1-1 แบร์รี่(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.59, 2-1 โคลารอฟ น.64, 2-2 อักบอนลาฮอร์ น.70, 2-3 เอ็นซอกเบีย น.96, 2-4 อักบอนลาฮอร์ น.113

คลิปไฮไลท์ แคปิตอล วัน คัพ แมนซิตี้ 2-4 แอสตัน วิลล่า

เกมนี้แมนฯ ซิตี้ส่งสำรองลงเพียบแถมพ่วงด้วยเด็กอย่างราซัคและซัวเรซที่ให้ลงมาสัมผัส เกมเก็บประสบการณ์ แต่พวกเขาต้องตามเรื่องต่อนิดนึงหลังรอดเวลล์ที่วันนี้ได้ลงเป็นตัวจริงแล้ว แต่ไปเจ็บตอนวอร์มทำให้เลสคอตต์ต้องลงมาแทน

ครึ่งแรก

เปิดฉากมาทีมเยือน"สิงห์ผงาด"มาหนักเลยได้โอกาสลุ้นไปก่อนหลายทีเหมือนกัน เริ่มจากไวมันน์ได้ลองยิงดูแต่หลุดเสาออกไป ตามมาด้วยโอกาสของอักบอนลาฮอร์ได้ลองยิงจากหน้าเขตโทษแต่ก็ไม่ผ่านมือพานทิ ลิมอน

โอกาสของ"สิงห์ผงาด"มาหนักเลยเกือบได้อีกแล้วจากจังหวะชิ่งเข้ามาในเขตโทษ แล้วจบลงด้วยการยิงของเบนเทเก้ทางขวาแต่ก็ยังข้ามคานออกหลังไป

หลังจากเจอวิลล่ากดดันอย่างหนักมาจนหาโอกาสไม่ได้ นาที 27 "เรือใบสีฟ้า"ก็มาได้ลุ้นและก็ทำประตูออกนำไปเลยจากบาโลเตลลี่ที่วิ่งเข้ามา จับบอลลูกเปิดของมิลเนอร์ริมเส้นขวาก่อนจะซัดมันเน้นๆระยะ 6 หลา แมนฯ ซิตี้ออกนำไปแล้ว 1-0

ผ่านครึ่งชั่วโมงมาแล้วโอกาสของแมนฯ ซิตี้แบบจังๆมีเพียงแค่หนเดียวจริงๆ กลับกันวิลล่าที่บุกแทบตายก็ยังไม่ได้ประตูแต่พวกเขาก็ยังไม่ย่อท้อกดดันทีม แชมป์ลีกต่อไป

ช่วงท้ายครึ่งแรกรูปเกมก็ยังไม่แตกต่างจากก่อนหน้านี้มากนักวิลล่ายังกดดัน เรื่อยแต่ก็ไม่ได้โอกาสส่องให้แมนฯ ซิตี้ได้ขนหัวลุกเลยทำให้จบไปที่เจ้าบ้านยังนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

กลับมาเริ่มครึ่งหลัง"เรือใบสีฟ้า"ก็โดนเข้าให้แล้วในจังหวะที่อักบอนลาฮอร์ ผ่านเลสคอตต์มาได้ นาสตาซิสเข้ามาสกัดไว้แต่บอลก็หลุดไปเข้าทางของไวมันน์เปิดเรียดเข้ามา พานทิลิมอนพยายามจะเคลียร์แต่กลายเป็นไปโดนเข่าแบร์รี่เข้าประตูไปซะงั้น วิลล่าตีเสมอเป็น 1-1

แต่อีก 5 นาทีให้หลังเจ้าบ้านก็มากลับขึ้นนำอีกครั้งอย่างรวดเร็วด้วยฝีตีนของโคลารอ ฟที่ได้โอกาสรับหน้าที่สังหารฟรีคิกจากแถวหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวาและก็กด เข้าไปแบบไม่มีเหลือ แมนฯ ซิตี้กลับมานำอีกครั้ง 2-1

นาที 70 "สิงห์ผงาด"ก็ทำให้แมนฯ ซิตี้ต้องเซ็งหลังพวกเขากลับมาได้อีกแล้วจากเบนเทเก้จ่ายให้กับอักบอนลาฮอร์ ที่คืนนี้ป่วนด้วยความจี๊ดทั้งคืนได้หลุดไปยิงจากระยะ 18 หลาส่งบอลนอนก้นตาข่ายได้สำเร็จ วิลล่ากลับมาตามตีเสมอได้อีก 2-2

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้ายเกมแล้วกลายเป็นเจ้าบ้านที่ต้องทำเกมบุกกะฝังให้ได้และก็เกือบจะได้ ประตูออกนำอีกครั้งจากจังหวะโถมเข้ามาโหม่งของบาโลเตลลี่แต่ต้องยกนิ้วให้ กิฟเว่นที่ปัดมือเดียวออกหลังไปได้

ช่วงนาทีสุดท้ายแมนฯ ซิตี้เกือบจะฝังได้จริงๆแล้วจากฝีมือของเตเบซที่ขอส่องเองเลยแต่น่าเสียดาย ดันไปชนคานเข้าซะได้ ทำให้เกมนี้ต้องยืดไปเล่นต่อเวลาจนได้

ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก

ออกสตาร์ทช่วงต่อเวลาได้ไม่เท่าไหร่"สิงห์ผงาด"กลายเป็นกลับมาพลิกขึ้นนำ แล้วจากการขึ้นเกมทางขวาที่ทำอันตรายได้บ่อยตลอดเกมนี้ก่อนบอลจะมาถึงเท้า ของอักบอนลาฮอร์ได้ยิง พานทิลิมอนเซฟไว้ได้แล้วแต่ก็ยังมาเข้าทางเอ็นซอกเบียซ้ำไม่มีเหลือ วิลล่าพลิกนำเป็น 3-2

นาที 105 โอกาสของแมนฯ ซิตี้มาอีกทีแล้วก็เกือบตีเสมออีกครั้งของบาโลเตลลี่คนเดิมที่ได้ยิงแต่หลุด กรอบออกไปไม่เท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องจบครึ่งแรกของการต่อเวลาที่พวกเขาตามอยู่

ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก

อีก 15 นาทีสุดท้ายออกสตาร์ทแล้วและเกมก็เปิดเต็มที่ "เรือใบ"อยู่ไม่เฉยแล้วและก็ได้โอกาสจากเตเบซที่จ่ายให้กับโคลารอฟได้ยิงไกล ดูแต่ก็หลุดไปไหนไม่รู้

สุดท้าย"สิงห๋ผงาด"ก็มาได้ประตูส่งแมนฯ ซิตี้ลงโทษแบบค่อนข้างจะร้อยเปอร์เซนต์จนได้จากจังหวะโต้กลับขึ้นมาและเป็น อักบอนลาฮอร์คนเดิมที่เป็นคนจบสกอร์ ลูกยิงมีแฉลบแต่ก็ยังดีพอที่จะผ่านพานทิลิมอนเข้าประตูไป วิลล่านำห่าง 4-2

จบเกมแมนฯ ซิตี้ก็ต้องตีตั๋วตกรอบไวกว่าเขาเพื่อนหลังพ่ายให้กับแอสตัน วิลล่าช่วงต่อเวลา 4-2 จอดป้ายไว้เพียงแค่ลีกคัพรอบสามในฤดูกาลนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : คอสเทล พานทิลิมอน, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, โคโล่ ตูเร่, มัทย่า นาสตาซิช, โจลีออน เลสคอตต์ (เซโก้ น.74), เจมส์ มิลเนอร์, แกเร็ธ แบร์รี่, อับดุล ราซัค (เฮเลน น.105), คาร์ลอส เตเบซ, เดนิส ซัวเรซ (ซินแคลร์ น.62), มาริโอ บาโลเตลลี่

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ริชาร์ด ไรท์, จอร์จ อีแวนส์, ลูก้า สกาปุซซี่

แอสตัน วิลล่า : เชย์ กิฟเว่น, รอน ฟลาร์, คีแรน คลาร์ก, โจเซปห์ เบนเนตต์ (ไลชาจ น.86), แมตธิว โลว์ตัน, คาริม เอล อาห์มาดี้ (เฮิร์ด น.72), ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย, ฟาเบียน เดลป์, เกเบรียล อักบอนลาฮอร์, คริสเตียน เบนเทเก้, อันเดรส ไวมันน์ (อัลไบรจ์ตัน น.66)

สำรองไม่ได้ลงสนาม : แบรด กูซาน, นาธาน เบเกอร์, แบร์รี่ แบนแน่น, ดาร์เรน เบนท์














_________________