ผู้ตัดสิน; มาร์ติน แอตกินสัน 12 นัด 47 ใบเหลือง 1 ใบแดง

** ดาร์บี้แมตช์ของแมนเชสเตอร์เฉพาะในลีกปรากฏว่า ซิตี้ชนะ 39 เสมอ 49 แมนฯยูฯ ชนะ 58
** 6 ปีหลังสุดเฉพาะที่บ้านเรือใบสีฟ้านั้นสกอร์ออกมา 1-0 ทั้งสองฝั่ง
** ปีที่แล้วแมนฯซิตี้ชนะในบ้าน 1-0 ชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 6-1
** แมนฯยูฯ ยังไม่เสมอในการเป็นทีมเยือนมาตั้งแต่ 5 ก.พ. เช่นเดียวกันกับปีนี้แมนฯยูฯ ยังไม่เสมอใครเลยใน 15 นัด
** ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน แจกใบแดง ติโอเต จากการทำฟาวล์นอกเกมครั้งเดียวในนัดดาร์บี้แมตช์แถบนอร์ธอีสต์ระหว่าง ซันเดอร์แลนด์กับนิวคาสเซิล

แมนฯซิตี้

สภาพ ทีม – 4-5 คนสำหรับชุดใหญ่ที่ใช้ในเกมแพ้ดอร์ทมุนด์สำหรับฟุตบอลยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก มีการเปลี่ยนตัวเอา เอล กุน , บาโลเตลลี ลงไปในครึ่งหลัง แมนฯซิตี้ต้องการชนะเพื่อลุ้นไปเตะยูโรปา ลีกเหมือนกันแต่สุดท้ายพวกเขาไม่ได้แข่งขันอะไรเลย กลายเป็นว่าต้องลุ้นป้องกันแชมป์อย่างเดียว อย่างไรก็ตามพวกเขาจะไม่มีตัวรุกอย่าง ดาบิด ซิลบา ลงสนามเพราะไม่น่าจะหายทันจากการบาดเจ็บ

ฟอร์ม- ผลเสมอเอฟเวอร์ตันล่าสุดในพรีเมียร์ลีกทำให้พวกเขาทำแต้มหายไป 2 แต้ม ยังตามหลังแมนฯยูฯอยู่ กระนั้นก็ตามเรือใบสีฟ้าเป็นทีมที่ยังไม่แพ้ใครในลีก นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องระวังเช่นกันเพราะการแพ้ครั้งแรกต่อแมนฯยูฯ จะทำให้พวกเขาเสียจังหวะในการไล่ล่าจ่าฝูงเพราะแต้มจะห่างเป็น 6 แต้ม

แมนฯยูฯ

สภาพ ทีม – สมบูรณ์กว่าแมนฯซิตี้แน่นอนเพราะไม่ใช้นักเตะชุดใหญ่ลงสนามเลย เนื่องจากพวกเขาเข้ารอบไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคงต้องตามเชคสภาพร่างกายของตัวหลักหลายคนที่ ไม่ค่อยสมบูรณ์มากเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่เจ็บแบบน่ากวนใจ 2-3 สัปดาห์แล้วกลับมาเล่น แล้วก็เจ็บใหม่ แต่ดูแล้วแกนหลัก 15 คนโอเคสำหรับเกมนี้

ฟอร์ม - ผีแดงมีปัญหาเรื่องเกมรับ...เสียประตูง่าย ทำให้เกมรุกต้องทำงานหนักและไล่ยิงประตูคืนตลอดเวลา ตอนนี้เป็นปัญหาที่ทำให้การกำหนดแผนการเล่นนัดนี้ต้องระบุเป็นพิเศษว่าจะออก มาแบบไหนเพื่อไม่ให้โดนทีมที่มีเกมรุกดีอย่างแมนฯซิตี้ ทะลวงตาข่ายได้
กลยุทธ์และผล

มาน ชินี – การขาดหายไปของ ซิลบา ทำให้ต้องปรับแนวรุกใหม่ เอล กุน ลงตัวจริง เช่นเดียวกันกับ บาโลเตลลี ที่ชอบยิงแมนฯยูฯ น่าจะได้โอกาสลงเล่นเกมนี้เพื่อให้ เอล กุน มีโอกาสมากขึ้น โดยแดนกลางนั้น นาสรี, ยายา ตูเร และคาดว่า มิลเนอร์ น่าจะลงสนามได้ มาช่วยกันคุมแกม ส่วนกองหลังนั้นแน่นปึ้กกว่าแมนฯยูฯ

เซอร์ อเล็กซ์ – ปัญหาใหญ่ที่น่าปวดหัวคือเกมรับเสียไป 21 ลูกแล้วสำหรับผีแดง ตรงนี้สอดคล้องกับแผนการเล่นนัดนี้คือผีแดงสามารถเสมอได้ ไม่เสียหาย ถือว่าตัดแต้มแมนฯซิตี้ไปด้วย ดังนั้นเกมนี้เน้นรัดกุมรอจังหวะสวนและเน้นลูกเซตพีซ หรือหาโอกาสโป้งปิดบัญชีซึ่งกองหน้าผีแดงคมกริบอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจัดใครเล่นแผนคือเพลย์เซฟไว้ก่อนสำหรับแมนฯยูฯ

คู่นี้ โอกาสเสมอเปิดกว้าง....แม้แมนฯยูฯ มีปัญหากับเกมรับแต่เชื่อว่านัดนี้จะแก้ไขได้และไม่เสียประตูง่ายๆให้แมนฯซิ ตี้ เพราะต้องระวังเพิ่มเป็นสองเท่า มีโอกาสที่พวกเขาจะชนะเรือใบได้ แต่โอกาสแบ่งแต้มมีมากสุด

คู่อื่นๆ

วันเสาร์ที่ 8 ธ.ค.

อา ร์เซนอล VS เวสต์บรอม ; ปืนใหญ่มีปัญหาสองส่วนมาพบกันคือรุกไม่ดีรับแย่ มาเจอกับเวสต์บรอมที่แพ้สองนัดติด ต้องการเบรกผลแข่งที่แย่ลง นัดนี้ยิ่งเล่นโต้กลับและรับรัดกุมมากขึ้น ดูแล้วโอกาสเสมอมีค่อนข้างสูง

วิลล่า VS สโตค ; เจ้าบ้านยังพอไว้ใจได้ในบ้านตัวเอง ขณะที่สโตค ซิตี เล่นนอกบ้านไม่ดีเท่าไหร่ นัดนี้แฟนวิลล่ามีลุ้นเบียดชนะได้

เซา แฮมป์ตัน VS เรดดิ้ง ; กลุ่มตกชั้นเจอกันเป็นเกมแบบ 6 แต้มใครพลาดเท่ากับโยนแต้มบวกให้คู่แข่ง นัดนี้เซาแฮมป์ตันได้โอกาสเก็บสามคะแนน เพราะเรดดิ้งเล่นนอกบ้านไม่ดี แถมกองหลังเสียง่ายอีกต่างหาก เกมนี้นักบุญน่าได้เฮ

ซันเดอร์แลนด์ VS เชลซี ; แมวดำจะเป็นบทสอบความมั่นใจของ ราฟา เบนิเตซ ที่ยังไม่ชนะในลีกแต่ชนะในบอลถ้วยแล้ว น่าจะมีความมั่นใจมากขึ้น เกมนี้ดูแล้วเชลซีน่าจะเก็บชัยชนะนอกบ้าน

สวอนซี VS นอริช ; บอลสไตล์เดียวกันสองทีมนี้ แต่สวอนซีได้ทีเด็ดเกมรุกคมกว่าน่าปิดบัญชีได้ มิชู กำลังร้อนแรงเลยทีเดียว

วี แกน VS คิวพีอาร์ ; วีแกนผีเข้าผีออกไม่แน่นอน ขณะที่คิวพีอาร์ได้ แฮร์รี เรดแนปป์ มาดูดีขึ้น นัดนี้ชื่อว่าคิวพีอาร์บุกมาเก็บสามแต้มได้

วันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค.

เอ ฟเวอร์ตัน VS สเปอร์ส : ทอฟฟี่ปีนี้เจอทีมใหญ่ไม่พลาดในบ้าน ชนะแมนฯยูฯ เสมอกับแมนฯซิตี้ เกมนี้เชื่อว่าพวกเขาน่าจะจัดการสเปอร์สได้ไม่ยาก ทีมเดวิด มอยส์ เล่นด้วยสปิริตลงตัว น่าเก็บสามแต้มไม่ยาก

เวสต์แฮม VS ลิเวอร์พูล : บอลโยนยาวของ แซม อัลลาไดซ์ น่าสร้างปัญหาให้หงส์แดงค่อนข้างมาก ยิ่งหงส์แดงไม่มี หลุยส์ ซัวเรส น่าจะหมดสิทธิ์ยิงประตูขุนค้อน นัดนี้ เวสต์แฮม ชนะ ลิเวอร์พูล ไม่ยาก

บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา

เครดิต sports.th.msn.com