เรน่ากาก!กุนส้มหล่นยิงมุมแคบเรือเฮงเจ๊าหงส์ 2-2

วันเวลาของโฆเซ่ เรน่าในถิ่นแอนฟิลด์เหลือน้อยเข้าไปทุกทีหลังโชว์เหวอวิ่งจับกบท้ายเกมปล่อย ให้แซร์จิโอ อาเกวโร่ยิงมุมแคบเหลือเชื่อช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตามตีเสมอลิเวอร์พูล 2-2 สปอยลูกยิงไกลสุดงามของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดอย่างน่าเจ็บแสบ

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ประตู : 1-0 เอดิน เชโก้ น. 24, 1-1 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น. 29, 1-2 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น. 73, 2-2 เซร์คิโอ อเกวโร่ น. 79

"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้เพิ่งสะดุดเสมอควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์สนัดก่อนทำให้เกมนี้ต้องคว้า 3 แต้มให้ได้สถานเดียวเพราะโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทิ้งห่างไปถึง 10 แต้มแล้ว

โรแบร์โต้ มันชินี่มีปัญหาให้ต้องปวดหัวนิดหน่อยในเกมรับเมื่อแวงซ็องต์ กอมปานีมีอาการเดี้ยงทำให้ต้องส่งเลสค็อตต์ลงมาจับคู่กับนาสตาซิชส่วน ตำแหน่งแบ็คเป็นของซาบาเลต้าและกลีชี่

กองกลาง 4 คนเป็นหน้าที่ของการ์เซียกับแบร์รี่ที่ปักหลักคุมเกมกลางสนามส่วนเกมรุกกราบ ข้างปล่อยให้ซิลบากับมิลเนอร์กระชากลากเลื้อยกันไปและคู่กองหน้าเป็นหน้าที่ ของกุนกับเชโก้

ด้านทีมเยือนฟอร์ม 2 เกมล่าสุดไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดนโอลด์แฮมเขี่ยตกรอบเอฟเอ คัพและบุกไปโดนอาร์เซน่อลยิงตีเสมอทั้งที่นำไปก่อน 2 ลูกช่วงกลางสัปดาห์โดยในเกมนี้ยังไม่มีชื่อของฟิลิปเป้ คูคินโญ่กองกลางตัวใหม่ที่กลับไปเคลียร์เอกสารกับอินเตอร์ มิลานก่อนกลับมาซ้อมในสัปดาห์หน้า

เปเป้ เรน่าได้เฝ้าเสาอีกครั้งหลังหายจากอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่นัดก่อนส่วนกองหลัง เอ็นริเก้กลับมาเป็นตัวจริงนัดแรกในรอบเดือนกว่าโดยยืนเป็นแบ็คซ้ายให้จอห์น สันกลับไปประจำการในตำแหน่งแบ็คขวา

คู่เซ็นเตอร์สเคอร์เทลที่ฟอร์มห่วยในเกมแพ้โอลด์แฮมและมีข่าวว่าไปทะเลาะกับ ร็อดเจอร์สโดนดองนั่งข้างสนามต่อทำให้คาร์ราเกอร์จับคู่กับแอ็กเกอร์อีกนัด

กองกลางยังใช้ 3 คนเหมือนเดิมโดยเจอร์ราร์ดกับลูคัสนำทัพและเฮนเดอร์สันก็ได้ลงปั้นเกมต่อหลังทำผลงานได้ดีและยิงประตูได้ในเกมก่อน

แนวรุกเป็นหน้าที่ของสจ๊วร์ต ดาวนิ่งตรงริมเส้นด้านขวาส่วนซัวเรซกับสเตอร์ริดจ์คอยสลับตำแหน่งปั่นป่วน แนวรับของ"เรือใบสีฟ้า"เหมือนเดิม

ครึ่งแรก

ไม่ถึงนาทีเรน่าต้องเซฟ
เพียงแค่ 45 วินาทีแรกเจ้าถิ่นก็ได้ลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่ซิลบาบอลยิงไกลจากระยะเกือบ 30 หลากลางประตูบอลโค้งแล้งตกมาจะเสียบใต้คานอยู่แล้วทว่าเรน่ายังไม่พลาดบิน ปัดออกหลังไปได้

โปรเลี้ยงดูดบอลสวยเกือบได้ยิง
นาทีที่ 14 ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นครั้งแรกบ้างจากจังหวะที่จอห์นสันรับบอลมาจากดาวนิ่ง ตรงริมเส้นด้านขวาก่อนโยนข้ามฟากมาให้สเตอร์ริดจ์จับบอลลงอย่างสวยหลบฮาร์ ทที่ออกมาพลาดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่จังหวะยิงกลับโดนซาบาเลต้าที่ลงมาซ้อน เตะออกหลังไป

เหยินโชว์สเต็ปหลบสอง
ถัดมาอีก 2 นาทีซัวเรซโชว์สเต็ปลากบอลหลบกลีชี่กับแบร์รี่ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่จังหวะเปิดสุดท้ายโดนเลสค็อตต์ตามมาเตะทิ้งไปได้

จากจังหวะเตะมุมเจอร์ราร์ดเปิดมาตรงเสาสองให้แอ็กเกอร์ได้โขกตกลงพื้นแต่บอล ไปติดคาร์ราเกอร์ที่พยายามวิ่งมาป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูกลายเป็นบล็อคบอลให้ แมนฯ ซิตี้ไปเสียอย่างนั้น

หงส์ติดเครื่องได้บุกเป็นชุด
มาถึงนาทีที่ 20 "โปรเลี้ยง"ได้ลากบอลยาวๆทิ้งหนีนาสตาซิชแบบไม่เห็นฝุ่นตรงริมเส้นด้านซ้าย ก่อนมาถึงเส้นหลังแล้วเปิดหักข้อกลับไปให้ซัวเรซแปบอลโดนไม่ดีหายไปไหนไม่ รู้

ถัดมาอีกนิดเดียวเลสค็อตต์เปิดบอลพลาดไปโดนสเตอร์ริดจ์บอลกระเด้งมาเข้าทาง ของ"หม่อมเหยิน"ได้ลองยิงจากในหน้ากรอบเขตโทษแต่ปั่นไม่ดีบอลพุ่งออกเสาด้าน ซ้ายมือออกไป

เรือใบเด็ดขาด!เชโก้เข้าฮอร์สไม่เหลือ
เมื่อ"หงส์แดง"บุกแล้วยิงไม่ได้ก็ต้องโดนตามสไตล์ในนาทีที่ 24 เมื่อเจ้าบ้านได้เล่นลูกทุ่มบอลมาถึงซิลบาแทงจังหวะเดียวทะลุไปให้มิลเนอร์ ได้เปิดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็บรรจงเปิดบอลเข้า มาตรงกลางผ่านแอ็กเกอร์ที่พยายามสกัดไม่โดนบอลไปถึงเซโก้ยิงจ่อๆไม่เหลือซาก

โห่กันเกลียว..หงส์ไม่เตะทิ้งสเตอร์ริดจ์ยิงเปรี้ยงเข้าไปเลย
มาถึงนาทีที่ 29 "หงส์แดง"ได้ประตูปัญหาจากจังหวะที่เชโก้โดนแอ็กเกอร์เตะล้มลงไปนอนในแดนของ ลิเวอร์พูลซึ่งทีมเยือนก็ไม่ยอมเตะบอลทิ้งพยายามไปเคาะบอลรอจังหวะอยู่ริม เส้นด้านขวาอยู่นานก่อนที่เจอร์ราร์ดจะไหลบอลมาให้สเตอร์ริดจ์ได้ยิงเปรี้ยง ด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งเป็นจรวดผ่านแผงกองหลัง"เรือใบสีฟ้า"รวมถึงฮาร์ทเข้า ไปตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด โดย"โปรเลี้ยง"ก็ไม่ได้ทำท่าดีใจเพราะเป็นการยิงทีมเก่าของตัวเองและยังเป็น การเสียประตูแรกของเจ้าถิ่นในปี 2013 อีกต่างหาก

เกมเริ่มผ่อนเน้นครองบอลกลางสนาม
หลังจาก"หงส์แดง"ได้ประตูตีเสมอดูเหมือนว่าทั้ง 2 ทีมจะผ่อนเกมลงมาเน้นเอาความแน่นอนและแย่งพื้นที่กลางสนามเป็นหลักทำให้ยัง ไม่มีใครได้โอกาสยิงประตูเลยเมื่อเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย

เกือบไป!ซาบาเลต้าคืนหลังพลาดหวิดเข้าประตูตัวเอง
นาทีสุดท้ายของเกมซาบาเลต้าเกือบแจกของขวัญให้"หงส์แดง"เมื่อคืนหลังพลาด เพราะฮาร์ทออกมาจะรับบอลอยู่แล้วบอลค่อยๆกลิ้งไปหาประตูแต่โชคยังดีเพราะมัน ออกไปตรงโคนเสาพอดิบพอดี

จากจังหวะเตะมุมกองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์บอลออกมาได้แต่เอ็นริเก้ตามมาเก็บตก ตรงริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดไปที่เสาสองให้"หม่อมเหยิน"วิ่งเข้ามายิงแบบไม่ จับแต่ฮาร์ทยังล้มตัวรับไว้ได้สวย

ครึ่งหลัง

เรือใบโจมตีก่อนได้ลุ้น 2 ที
เริ่มเกมมาแป๊ปเดียว"เรือใบสีฟ้า"ได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อมิลเนอร์ได้บอลตรงริม เส้นด้านขวาก่อนล็อคบอลมาเข้าเท้าซ้ายแล้วแล้วบรรจงเปิดมาตรงเสาไกลแม้ไม่มี ใครเข้าชาร์จแต่บอลโค้งหลุดเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้น

ถัดมาไม่นานจากจังหวะเตะมุมมาร์ติเนซได้ขึ้นโขกคนเดียวแต่บอลไปโดนบริเวณด้านข้างหัวทำให้คุมบอลไม่ได้เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

หงส์มาดีขึงเกมฝ่ายเดียว-โปรเลี้ยงพุ่งโดนเหลือง
นาทีที่ 51 จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมดาวนิ่งเปิดยาวจากนอกกรอบเขตโทษด้านขวาไปให้ซัว เรซได้เปิดยัดเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่นาสตาซิชยังเคลียร์บอลออกไปได้ ก่อนที่จะมาถึงคาร์ราเกอร์

หลังจากนั้นไม่นานสเตอร์ริดจ์โดนใบเหลืองเข้าหาพุ่งเล้มเมื่อเขาได้บอลจาก ซัวเรซก่อนกระชากหนีเลสค็อตต์ไปได้แต่จังหวะสุดท้ายเขากลับตัดสินใจทิ้งตัว ล้มลงหมายเอาจุดโทษแต่กลับโดนแจกเหลืองท่ามกลางเสียโห่ไปแทนซึ่งจากภาพช้าขา ของเลสค็อตต์ก็ไปโดนขาหลังของ"โปรเลี้ยง"นิดเดียวจริงๆ

หงส์มาอีกซัวเรซยิงออก
นาทีที่ 62 ดาวนิ่งลากขึ้นมาก่อนเปิดบอลไปให้ซัวเรซในกรอบเขตโทษด้านซ้ายโดยหัวหอก อุรุกวัยจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตัดสินใจยิงไปตรงเสาไกลทว่าบอลออกหลังไป

ขยับมาอีกนาทีเดียวมิลเนอร์เดินเกมมาริมเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ามากลางประตูให้แบร์รี่ได้โขกย้อยๆแต่บอลไปตกหลังคานประตูนิดเดียว

เต็มตีนเตี่ย...หัวขิงตะบันไกลสุดสวยหงส์แซงนำ
ผ่านเข้าถึงนาทีที่ 73 เจอร์ราร์ดตะบันประตูที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาได้อีกครั้งเมื่อเอ็นริ เก้เปิดบอลเข้ามาตรงกลางกลีชี่เตะเคลียร์ทิ้งออกไปได้แต่อนิจจาบอลไปเข้าตีน ของ"หัวขิง"ได้ซัดเต็มเท้าจากระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งแรงเข้าไปตุงตาข่ายสุดปัญญาที่ฮาร์ทจะบินไปถึง

เรน่าพลาดน่าตบ...ออกไปไกลกุนยิงสวนเลย
"หงส์แดง"เสียประตูแบบไม่คาดคิดในจังหวะที่เรน่าพยายามออกไปปิดมุมในจังหวะ ที่กุนได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ปล่อยให้ ดาวยิงอาร์เจนไตน์ได้กลับตัวพลิกมายิงบอลลอยโด่งแล้วไปตกที่โคนเสาไกลเข้าไป

หัวขิงยิงอีกแต่ติดบล็อค
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายซัวเรซพยายามลากไถเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนผ่านบอลมาตรงก ลางแต่เลสค็อตต์เตะทิ้งไปได้เจอร์ราร์ดตามมาเก็บตกบอลได้อีกเหมือนเดิมก่อน ตะบันเต็มข้อแต่คราวนี้ไปติดบล็อคกองหลัง

จบเกมแบ่งแต้มสนุก
นาทีสุดท้าย"หงส์แดง"ได้บุกมาอีกครั้งเมื่อดาวนิ่งลากบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ด้านซ้ายก่อนป้ายกลับหลังมาให้สเตอร์ริดจ์ยิงแบบฉีดยาหน้าปากประตูแต่คราว นี้ฮาร์ทบินไปปัดไว้ได้

จนสุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มกันได้ทำให้ต้องแบ่งกันไปคนละ 1 คะแนนโดย"เรือใบสีฟ้า"ยังรั้งรองจ่าฝูงแต่ตามหลัง"ปีศาจแดง"เป็น 9 คะแนนส่วน"หงส์แดง"ยังรั้งอันดับ 7 ตามหลังอาร์เซน่อล 5 คะแนน


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, มาติย่า นาสตาซิช (อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ น. 56), กาแอล กลีชี่, ฆาบี การ์เซีย , เจมส์ มิลเนอร์, แกเร็ธ แบร์รี่ (ซาเมียร์ นาสรี่ น. 83), เอดิน เชโก้ , เซร์คิโอ อเกวโร่ , ดาบิด ซิลบา (ไมค่อน น. 74)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : คอมเทล ปานติลิม่อน, สก็อตต์ ซินแคลร์, แจ็ค ร็อดเวลล์, คาร์ลอส เตเบซ

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้ (มาร์ติน สเคอร์เทล น. 76), เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ลูคัส เลว่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , หลุยส์ ซัวเรซ, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ( โจ อัลเลน น. 90), สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : แบรด โจนส์, อันเดร วิสดอม, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, จอนโจ้ เชลวี่ย์, ฟาบิโอ บอรินี่




















_________________

เครดิต soccersuck.