Members

มาร์ค ฮิวจส์ : ท่านฟาฮิมอยากได้แชมป์เดี๋ยวผมจัดให้

ณ เวลานี้มาร์ค ฮิวจส์กลายเป็นผู้จัดการทีมที่โชคดีที่สุดในโลกภายหลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ของอาบู ดาห์บี ยูไนเต็ด กรุ๊ปหรือ ADUG ในวันเดดไลน์ย้ายทีม

ฮิวจส์เคยนั่งกุมขมับหลังเจอวิกฤติภายในเมื่อพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตรลี้ภัยหนีการตัดสินคดีที่เมืองไทยและถูกพรีเมียร์ลีกบีบให้ขายหุ้นใหญ่ทิ้งจนมีคนพูดกันว่าเขาซวยสุดขีดที่ต้องมาเจอกับปัญหาวุ่นวายเช่นนี้

ครึ่งหนึ่งเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเคยนิยามความเป็นตัวตนในสนามของ"สปาร์กี้"ว่าเปรียบเสมือน"ร็อตไวเลอร์"เพราะความดุดันและกระสันอยากเป็นผู้ชนะของอดีตหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดผู้นี้

ตอนนี้"ร็อตไวเลอร์"กำลังตั้งเป้าล้างครูและนำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของวงการลูกหนังอังกฤษในอนาคตข้างอันใกล้นี้

ด้วยอาวุธติดมือกับกองสมบัติ trillion-dollar หรือล้านล้านดอลลาร์ของกลุ่มอาหรับนำโดยดร.ซุไลมาน อัล-ฟาฮิมที่เข้ามาครอบครองอณาจักร์ซิตี้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทำให้ฮิวจส์ต้องเปลี่ยนเป้าหมายในชั่วข้ามคืนเพื่อยกระดับให้ทัดเทียมกับสองโคตรทีมอย่างยูไนเต็ดและเชลซี

"กับการเข้ามาลงทุนในสนามศักยภาพเตรียมพร้อมแล้วที่เราจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมใหญ่"ฮิวจส์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่สนามซ้อมแคร์ริงตัน

"ถ้าในอนาคตมันหมายความว่าการขึ้นมาเป็นทีมที่ใหญ่กว่าพวกบิ๊กโฟว์ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ ปล่อยให้มันเป็นไป"

"ท่านเจ้าของมีโปรเจคใหญ่กางไว้เพื่อสโมสรและพวกเขาจะไม่ยอมเอ้อระเหยให้เสียเวลาแน่ พวกเขาต้องการก้าวไปให้ถึงจุดนั้นให้เร็วที่สุดและเราจะพยายามทำให้ได้"

แม้ว่ามีความทะเยอทะยานอันแรงกล้า,ฮิวจส์ยังเป็นพวกนักปฏิบัตินิยมที่ไม่ได้วาดฝันแต่ในเรื่องของทฤษฏีและรู้ถึงเป้าหมายที่ทางดร.ซุไลมาน อัล-ฟาฮิมได้วางเอาไว้แม้ว่าในแง่ของระยะเวลามันอาจเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

ดร.ฟาฮิมเคยประกาศผ่านสื่อไปแล้วว่าจบฤดูกาลนี้เขามองถึงท็อปโฟว์เป็นอย่างน้อย ส่วนซีซั่นถัดไปเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและอีก 2 ฤดูกาล"เรือใบ"จะต้องเอื้อมไปถึงแชมป์ยุโรป

ฟังๆดูแล้วผู้จัดการทีมหลายคนคงปอดแหกเพราะดูแล้วชีวิตไม่น่ารอดสันดอนแต่ฮิวจส์ซึ่งแบกรับความกดดันในฐานะกองหน้าที่หลายคนคาดหวังมาตลอดทั้งชีวิตไม่ว่าจะกับสโมสรยูไนเต็ด,บาร์เซโลน่า,บาเยิร์น มิวนิคและเชลซีบอกว่าแค่นี้ไม่มีหวั่น

"ผมเจอกับความกดดันมาตลอดทั้งอาชีพทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม"ฮิวจส์ยืนยันหนักแน่น

"ความกดดันต่อชัยชนะมันมีอยู่แล้วไม่ว่าคุณจะอยู่กับสโมสรไหนและขุมกำลังอะไรที่คุณมีอยู่ในมือดังนั้นมันไม่ได้ต่างอะไรกันนักหรอก"

"เห็นกันชัดเจนว่าระดับของความคาดหวังที่นี่เปลี่ยนไปแล้วจากเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนในสโมสรแต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกรู้สาอะไรหรอกนะ"

"ชาวบ้านชาวช่องรู้กันทั่วแล้วว่าผม'รัน'งานของผมอย่างไรและนั่นคือสิ่งที่ผมถนัด ผมกำลังคุมทีมในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกที่เขี้ยวที่สุดในโลก ผมประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ทำมาโดยตลอดและทุกๆคนก็รับทราบกันถ้วนหน้าดีอยู่แล้ว"

"ที่สโมสรเก่าๆของผม ผมว่าผมทำผลงานได้ดีเยี่ยมไร้ที่ตินะเมื่อมองจากขุมกำลังที่ผมมีอยู่ในมือ นี่เป็นสาเหตุที่ตลอด 18 เดือนหลังสุดชื่อผมถูกนำเข้าไปพัวพันตลอดเวลาเมื่อมีตำแหน่งว่างงานเกิดขึ้นและนั่นก็รวมถึงเก้าอี้เลี่ยมทองคำอย่างสโมสรเชลซีด้วย"

"เหมือนอย่างที่แบล็คเบิร์นผมหัวเสียอยู่เสมอๆเพราะว่าผมสร้างทีมๆหนึ่งที่ผมรู้ตัวว่ามันมีจุดอ่อนที่ผมไม่สามารถหาทางแก้ไขได้"

"ที่ซิตี้ก็มีจุดอ่อนแต่ตอนนี้ผมสามารถจัดการแก้ไขตอนไหนตามที่ผมต้องการได้ตลอด คำมั่นสัญญาที่ผมได้รับจากผู้หลักผู้ใหญ่สมดังความปรารถนาแล้ว เรากำลังเพิ่งเริ่มต้นกับการเดินทางอันน่าตื่นเต้น"

"แต่คุณรู้อะไรมั๊ยผมมีเพื่อนเอเยนต์เป็นกระบุงโกยเลย!! ตอนผมอยู่แบล็คเบิร์นผมไม่ค่อยชินกับการนั่งรับโทรศัพท์จากเอเยนต์เพราะพวกเขารู้ว่าเราไม่ค่อยมีเงินซื้อนักเตะ ตอนนี้เสนอกันยิกเลย"

บนผนังออฟฟิสที่สนามซ้อมคอมเพล็กซ์มีกระดานแท็คติกส์ซึ่งติดสติกเกอร์แสดงชื่อลูกทีมเขาทุกคนพร้อมบอกตำแหน่งถนัดของแต่ละคนลดหลั่นกันไป

มีอยู่ชื่อนึงโดดเด่นแปลกตาเพราะในขณะที่ชื่อคนอื่นๆปรินท์ออกมาอย่างสละสลวยแต่ชื่อนี้เป็นการเขียนด้วยลายมือแบบลวกๆบนกระดาษฉีก(post-it note) แต่มันมีความหมายสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้เลยทีเดียว

นั่นคือชื่อของ"โรบินโญ่"ซึ่งถูกจารึกว่าเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษหลังย้ายมาจากเรอัล มาดริดในราคา 32.5 ล้านปอนด์

"เรายังไม่มีสติ๊กเกอร์ของโรบินโญ่อย่างเป็นทางการ"ฮิวจส์ปล่อยมุกในขณะที่มองไปยังกระดานแท็คติกส์

"แต่เราจะได้ในเร็วๆนี้แหละ จริงๆแล้วผมมองว่าชื่ออย่างโรบินโญ่นี่แหละจะช่วยทำให้แข้งชื่อดังรายอื่นๆอยากมาเล่นให้เรา"

การมาของโรบินโญ่ครั้งนี้มีเสียงวิจารณ์ตามมาเพราะนักเตะประพฤติตัวไม่สมกับเป็นมืออาชีพโดยเฉพาะคนของประชาชนอย่างเปเล่ออกมาตำหนิคนบ้านเดียวกันว่าได้รับคำแนะนำที่ผิดๆจากคนรอบข้างที่จ้องแต่จะเอาผลประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่น

"มีความเป็นไปได้ที่เปเล่ไม่ได้รับความจริงที่ว่าพวกเราพยายามทำอะไรที่นี่ บางทีหากเขายังเป็นนักเตะอยู่ก็อาจจะมาร่วมทัพกับเราก็เป็นได้"

ในวันเดดไลน์"เรือใบ"ตามล่านักเตะชื่อดังอีกหลายคนไม่ว่าคนที่เกือบทำให้โลกช็อกไม่แพ้โรบินโญ่อย่างดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟซึ่งฮิวจส์ได้โทรศัพท์คุยด้วยก่อนที่นักเตะเลือกไปเล่นให้ยูไนเต็ด,ซามูเอล เอโต้,ดาวิด บีญ่าหรือแม้กระทั่งมาริโอ โกเมสของสตุ๊ตการ์ตซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งใน 6-7 รายชื่อที่ยอดทีมจากอีสต์แลนด์ได้ทาบไปทั้งหมด

โดยเฉพาะในรายของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ที่ดร.ซุไลมานประกาศพร้อมอัดเงินถึง 130 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์หน้าอย่างก๋ากั่น

แต่ฮิวจส์รู้ถึงแก่นและจากประสบการณ์ที่มีมากพอว่าการทำทีมแบบแฟนตาซีและกว้านซื้อดาราเหมือนสมัย"กาลัคติกอส"ของเรอัล มาดริดภายใต้ยุคฟลเรนติโน่ เปเรซท่านประธานจอมโหดเมื่อหลายปีก่อนไม่ใช่แนวทางสู่ความสำเร็จ

"ผมรู้ว่าเราตามล่านักเตะนับไม่ถ้วน ท่านเจ้าของอยากทำให้ทีมเล่นราวเทพมาจุติ"

"แต่เงินไม่ได้รับประกันความสำเร็จ"

"ลองดูทีมอย่างเชลซีสิ พวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัยแต่ยังไม่ได้แชมเปี้ยนส์ลีก"

"ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลย ไม่ว่าอยู่ทีมไหนคุณก็ต้องมีความสมดุลแต่การคว้าแชมป์ลีกหรือรายการอื่นๆไม่ใช่สิ่งที่เราจะไม่เอานะ"

"เรามีความทะเยอทะยานและเป็นสิ่งที่เราจะพยายามทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้"
_________________

Views: 156

Reply to This

Replies to This Discussion

เเหล่มเลย!!~ป๋าฮิวจ์!!~
นายเป็นมืออาชีพจริงๆ
ทำให้ดีที่สุด...ผลจะออกมาเช่นไรก็ช่างมัน...!!

RSS

© 2024   Created by thaiMCFC.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service

Text Link Ads script error: local_200939.xml is not writable. Please set write permissions on local_200939.xml.