แจ็ค รอดเวลล์เซ็นสัญญาร่วมทัพซิตี้ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว

          ซิตี้ได้แจ็ค รอดเวลล์มาร่วมทีมเป็นครั้งแรกในปี 2555 โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ซิตี้จัดทัพไปปราบเชลซีในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์และเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 3-2  

          แม้จะมีอายุเพียง 21 ปี แต่เขาเป็นผู้เล่นที่เปี่ยมด้วยความสามารถและเล่นได้ดีในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และถูกยกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งของอังกฤษตั้งแต่ไปเล่นในทีมเอเวอร์ตันเป็นครั้งแรกในขณะที่มีอายุ 16 ปีเท่านั้น 

          แจ็คได้ทำลายสถิติโดยเป็นนักเตะที่มีอายุน้่อยที่สุดที่ได้ไปเล่นร่วมกับทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ในยุโรป และได้ร่วมทีมดวลแข้งกับทีมเอแซด อัลค์มาร์ ในปี  2550  ในขณะที่มีอายุ 16 ปี 284  วัน 

          เขาได้กลายเป็นดาวเด่นในพรีเมียร์ ลีกเมื่อเดือนมีนาคม 2551 เตะกับทีมเอเวอร์ตัน แล้วยังได้ลงสนามในวันสุดท้ายของฤดูกาล 2550/51 อีกด้วย 

          หนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำในการสวมเสื้อเอเวอร์ตันของเขาคือเดือนกุมภาพันธ์ 2543 เมื่อเขาไดยิงประตูให้กับเมอร์ซีไซเดอร์และเอาชนะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 

          เขาเป็นกองกลางที่ทรงพลังและคล่องแคล่วว่องไวมาก ได้มีโอกาสเตะในสนามแข่งที่ประเทศบ้านเกิดมากกว่า 100 เกมในการร่วมทีมกับเอเวอร์ตัน 

           เขาได้เล่นในประเทศมาตลอดทุกช่วงวัยและได้เป็นกัปตันทีมชาติยู-16 และครองถ้วยวิคตอเรีย ชิลด์ในปี 2549 

          ต่อจากนั้นเขาก็ได้เลื่อนเป็นกัปตันทีม ยู-18 และยู-21 โดยได้เป็นกองกลางดาวเด่นในศึกยูโรเปี้ยน แชมป์เปี้ยนชิพ ยู-21 ในปี 2552/53 

          ในเวลาไม่นานนักก่อนที่จะได้ร่วมทีมชาติในฤดูกาล 2554/55 และเมื่อเขาได้รับใช้ชาติก็ยิงประตูนำชัยให้ทีมเอาชนะสเปนไปได้ 1-0 ที่สนามเวมบลีย์

กองกลางชาวเบิร์คเดลแจ้งเกิดเป็นครั้งแรกเพียงสามวันหลังจากการดวลแข้งกับสวีเดนและชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 

          ในช่วงซัมเมอร์ปี 2555 รอดเวลล์รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ร่วมทีมชาติจีบีในลอนดอนเกมส์ ปี 2555 อีกทั้งยังไม่ได้ร่วมเล่นในฤดูกาลเนื่องจากอาการเจ็บป่วยที่เอ็นร้อยหวาย 

          แต่ถึงกระนั้น รอดเวลล์ก็ได้ถูกเรียกตัวโดยรอด ฮอดซัน ให้กลับเข้ามาร่วมทีมชาติก่อนหน้าที่เขาจะย้ายไปอยู่กับซิตี่้เป็นการถาวร ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีศักยภาพสูงเพียงใด 

          แม้จะมีอาการบาดเจ็บแต่แจ็คก็หวังว่าจะได้รับตำแหน่งกองกลางเสริมทัพซิตี้ในฤดูกาลแรกในแมนเชสเตอร์เพื่อช่วยพาทีมไปสู่จุดมุ่งหมายในการกวาดแชมป์ทุกสถาบัน

แจ็ค รอดเวลล์ กระตือรือร้นอยากลงเล่นฤดูกาลนี้

          มิดฟิลว์ชาวอังกฤษได้เป็นนักเตะสำรองในการปะทะกับนิวคาสเซิลและคาร์ดิฟฟ์ในศึกบาร์เคลย์ พรีเมียร์ ลีกช่วงเปิดฤดูกาล 2556/57 แต่ไม่ปรากฎชื่อในผังนักเตะกับฮัลล์ที่ผ่านมา

          นักเตะวัย 22 ปีผู้นี้ได้ร่วมทัพซิตี้ฤดูกาลแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่โชคร้ายที่ต้องมาบาดเจ็บและไม่ได้ลงดวลแข้ง แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้โชว์ฟอร์มเยี่ยมด้วยการยิงสองประตูในการพบกับนอร์วิช และจากนั้นก็ทำหน้าที่ได้ดีในการแข่งขันก่อนเปิดฤดูกาล ตอนนี้เขาจึงพร้อมเต็มเหนี่ยวที่จะสู้รบแล้ว

          รอดเวลล์ กล่าวว่า “ผมฟิตแล้วครับ ผมได้ฝึกซ้อมอย่างหนักและรู้สึกดีมากๆ แต่ผมก็รู้ว่าต้องอดทนรอโอกาสที่น่าจะมาถึงในไม่นานนี้

“ดูจากนักเตะที่เรามีอยู่ในสโมสร ก็รู้ว่าจะไม่ได้ลงแข่งทุกเกม แต่หากได้ลงเล่นเมื่อไร ก็จะต้องทำให้ดีสุดๆ การได้หยุดพักบ้างถือเป็นเรื่องดีต่อนักเตะ คงไม่ใช่ทุกคนที่จะเล่นได้ตลอดเวลา

 

สี่สัปดาห์ต่อจากนี้ เรามีแปดเกมรออยู่ข้างหน้า ผมเชื่อว่าผู้จัดการทีมน่าจะจัดให้นักเตะทุกคนได้ลงเล่น

 

...แจ็ค รอดเวลล์...

          “มานูเอล เปเยกรินี่ เป็นผู้จัดาการทีมที่ดีและเครดิตของเขาบ่งบอกถึงความสามารถ นักเตะทุกคนชื่นชมตัวเขา ทุกอย่างไปได้สวย”

ตอนนี้ตำแหน่งมิดฟิลว์ว่างลงหลังจากที่แกเร็ต แบร์รี่ ย้ายไปเอเวอร์ตันด้วยสัญญาการยืมตัวตลอดฤดูกาล แต่รอดเวลล์กลับไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะชุดใหญ่

          รอดเวลล์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมไม่คิดว่าการที่แกเร็ตย้ายไปนั้นจะส่งผลอะไร เพราะเขาไม่ได้อยู่ในเกมเปิดฤดูกาล แต่ก็ยังมีเกมมากมายในฤดูกาลนี้  ซึ่งนักเตะก็คงหมุนเวียนกัน ผมมั่นใจว่าจะได้ลงเล่นมากอยู่”

รอดเวลล์รู้ว่าเขาจำเป็นต้องลงแข่งให้มากเพื่อปูทางไปสู่ทีมชาติอังกฤษและเข้าทางของรอย ฮัดจ์สัน

          เขาเคยเป็นผู้เล่นสำรองที่มาลงสนามแทนธีโอ วอลคอตต์ โดยอังกฤษเสมอกับบราซิล 2-2  เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 และน่าจะทำให้เขาได้มีโอกาสไปร่วมศึกเวิล์ดคัพ หากสิงโตคำรามผ่านฉลุยในรอบคัดเลือก

          “ผมได้ร่วมทีมชาติในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งรอย ฮัดจ์สันได้บอกกับว่า ผมจะต้องฟิตให้มาก ผมก็ทำตามที่เขาบอก ณ จุดนี้ ผมต้องการลงเล่นและดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น" ร็อดเวลล์ กล่าวและว่า

“เรามีนัดเตะกับสโต๊คในวันเสาร์นี้ (14 ก.ย.56) ผมก็หวังจะได้ลงเล่น ผมรู้ดีว่าคงเป็นเกมทีหิน เช่นเดียวกับที่คาร์ดิฟฟ์ ซึ่งสิ่งทีเกิดขึ้นที่คาร์ดิฟฟ์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทุกเกมในพรีเมียร์ ลีก เป็นความท้าทายทั้งนั้น เพราะทุกทีมอยากจะชนะซิตี้กันทั้งนั้นละ

“การมีมาร์ค ฮิจว์ เป็นผู้คุมเกมอาจจะไม่ได้เล่นแบบเดิมเหมือนในอดีต แต่ผมคิดว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุดในทุกเกมเพื่อชัยชนะ”

 ที่มา http://mcfc.co.th/