เมื่อพูดถึงไฟเขียวไฟแดง ผมว่าหลาย ๆ ท่านคงมีประสบการณ์ทั้งในด้านดี และ ด้านร้ายกับมันมาบ้าง มีใครทราบหรือไม่ว่าไฟเขียวไฟแดงมีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ธันวาคม ค.ศ.1868 โดยเป็นไฟเขียวไฟแดงแบบใช้แก๊สจุดติดไฟโดยเสาไฟเขียวไฟแดงต้นแรกนั้นติดตั้งอยู่หน้ารัฐสภาในกรุงลอนดอนแต่หลังจากเปิดใช้ได้เพียง 2 เดือน มันก็ระเบิดพังไปเสียก่อน ซึ่งคงไม่ใช่ข่าวดีสำหรับตำรวจจราจรแน่ ๆ สำหรับไฟเขียวไฟแดงที่เป็นไฟฟ้านั้นมีใช้ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 1912 โดยเมื่อปรากฎตัวครั้งแรก คนที่สัญจรไปมาก็ไม่ไคร่อยากจะจอดกันนัก โดยพวกคนในยุคนั้นเรียกมันว่า บ้านนกไฟกระพริบ
ในยุคแรกๆ ช่วงปี 1920 สัญญาณไฟ จะต้องมีผู้ควบคุมตลอดเวลาจนกระทั่งต่อมาได้พัฒนานำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้
ซึ่งเราเห็นกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันนี้ หลาย ๆ คนคงคิดว่านี้ก็ทันสมัยสุดแล้ว แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่…. เพราะล่าสุด Audi ได้พัฒนาระบบสัญญาณจราจรที่จะสามารถทำงานร่วมกับรถยนต์ หรือจะพูดง่าย ๆ ว่า รถยนต์รุ่นใหม่ของ Audi จะสามารถพูดคุย สื่อสาร
กับสัญญาณไฟจราจรตามสี่แยกได้ โดยเขาเรียกมันว่า Audi’s travolution ซึ่งการสื่อสารที่ว่านี้ทำไปเพื่อให้ระบบจราจรสามารถไหลได้สะดวกขึ้น ประหยัดน้ำมัน ลดการปล่อยมลพิษ และทำให้การขับรถราบรื่นขึ้นด้วย
ระบบโครงข่ายที่ใช้กับระบบสื่อสารนี้เขาเรียกกันว่า “Car to X communication” โดยที่ Audi’s travolution เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายนี้ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้การใช้รถใช้ถนนปลอดภัยขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับหัวใจของระบบนี้คือระบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self Learning Algorithm) โดยระบบไร้สายที่ใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างกันคือระบบ LAN ไร้สาย (wireless
LAN) และ UMTS เพื่อส่งข้อมูลระหว่างสัญญาณไฟจราจร กับรถยนต์ นอกจากนั้นยังจะมีการรับส่งข้อมูลของแท็กซี่ที่เคลื่อนที่อยู่ในจุดต่าง ๆที่เขาเรียกกันว่า (Taxi FCD) รวมถึงการพัฒนาการรับข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ ของ ADAC ซึ่งย่อมาจาก
General German Automobile Association หรือสมาพันธ์ยานยนต์เยอร์มัน อีกด้วย
นั่นหมายความว่าอีกหน่อยรถยนต์ของเรา จะได้รับข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งพร้อม ๆ กันเพื่อใช้ในการประมวลผล รวมทั้งแสดงผลบนจอภาพในรถของเรา ดังนั้นรถยนต์ของเราจะสามารถวางแผนการเดินทาง หรือแม้แต่คำนวณว่าควรจะเยียบเบรค หรือคันเร่งเมื่อใด เพราะสามารถทราบได้ก่อนว่าไฟแดงข้างหน้าอีก 100 เมตรนั้นมันกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ในอีกกี่วินาที เป็นต้น
ซึ่งการที่เราทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ นั้นจะทำให้เราสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิง และเวลาในการเดินทางได้
เพราะมันจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่า ถนนแยกข้างหน้านั้นสภาพการจราจรเป็นอย่างไร ถ้าระบบนี้ทำงานได้สมบูรณ์
อีกหน่อยรถของเราจะสามารถปรับความเร็วให้เหมาะสมกับสัญญาณไฟได้เอง ไม่ต้องเบรค หรือเร่ง แรงจนเกินไปในจังหวะไฟสีต่าง ๆ อีกต่อไป เพราะทั้งรถ และ สัญญาณไฟรู้แล้วว่ามันกำลังจะต้องทำอะไร ทำให้รถยนต์ทำงานได้ประหยัดขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น และเป็นการลดการปล่อย CO 2 ออกสู่บรรยากาศ ประมาณ 2 ล้านตันต่อปี ถ้าทุกแยกในประเทศเยอรมัน
หันมาใช้เทคโนโลยีนี้ เพราะรถต่างแยกต่าง ๆ จะติดน้อยลง เบรคน้อยลงลื่นไหลมากขึ้น
ผมว่าอีกหน่อยในเร็ววันนี้ก็คงให้รถยนต์ขับให้เราเองได้ด้วยเลย คล้าย ๆ กับภาพยนต์ไซไฟ หลาย ๆ เรื่องที่เราเคยดูกัน
ที่มา http://technoforlife.ning.com/profiles/blogs/audi-travolution
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by
You need to be a member of Manchester City Fan Club in Thailand Website to add comments!
Join Manchester City Fan Club in Thailand Website