หลังจากที่ทัพเรือใบสีฟ้า “แมนฯซิตี้” ได้ตัวสองนักเตะเลือดอังกฤษ “ราฮีม สเตอร์ริ่ง” จากลิเวอร์พูลและ “ฟาเบียน เดลฟ์” จากแอสตัน วิลล่า
แต่การจากลาของนักเตะทั้งสองกับทีมเก่านั้นจากกันไม่ดีซักเท่าไหร่ ในรายของ “สเตอร์ริ่ง” อย่างที่ทราบกันดี ถูกสาบส่งและขับใสไล่ส่งจากทุกคนในแอนฟิลด์รวมทั้งสาวกเดอะค็อปจากทั่วโลกเพราะ “หน้าเงิน”
ขณะที่ “เดลฟ์” เองก็ไม่ได้ดีกว่ารายแรกเลยเพราะเคยยืนยันถึงขั้นแถลงการณ์กับสโมสรเดิม (แอสตัน วิลล่า) ว่าจะไม่ย้ายไปไหน
และเป็นตัวอย่างของนักเตะที่จงรักภักดีกับสโมสร อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ก็ออกมายืนยันว่าฤดูกาลหน้าจะยังเป็นกับตันทีมต่อไป
แต่ก็ “เปลี่ยนใจ” สาเหตุคงเดาได้ไม่อยาก ไม่ต่างจากรายแรก
จริงๆถ้าไปดูรายชื่อนักเตะของทีมเรือใบสีฟ้า แต่ละคนล้วนมีความหลังที่ไม่น่าประทับใจซักเท่าไหร่กับสโมสรเก่าตัวเอง
โดยเฉพาะ 3 นักเตะที่เคยเล่นให้กับ “อาร์เซน่อล” อย่าง “บาการี่ ซานญ่า” “กาแอล กลี่ชี่” และ“ซาเมียร์ นาสซี่”
ทั้ง 3 คนยังมีความเหมือนกันตรงที่เป็น “นักเตะฝรั่งเศส” แถมเป็นผลงานจากการเจียระไนของ “อาร์แซน เวงเกอร์” ที่เป็นกุนซือนักปั้นอยู่แล้ว
ที่ซื้อมาสมัยยังไม่ดังหรือเล่นในระดับเยาวชนและมาปั้นกับ “อาร์เซน่อล”
พอมีชื่อเสียงและฝีเท้าเด่นกลับกลายเป็นดาบสองคมให้กับ “เวงเกอร์” และอาร์เซน่อล เพราะพอรู้ว่าทีมที่มีเงินอย่าง “แมนฯซิตี้” ให้ความสนใจออกอาการงองแง ไม่ต่อสัญญากับทีม
โดยเฉพาะในรายของ “บาการี่ ซานญ่า” ที่อาร์เซน่อลต้องเสียให้แมนฯซิตี้ฟรีๆ
จริงๆแล้ว ถ้ามองอีกมุมก็น่าเห็นใจนักเตะเหล่านี้เหมือนกัน เพราะถ้าเป็นทีมใหญ่ที่มีชื่อเสียงมีเสน่ห์มนต์ขลังและมีประวัติศาสตร์อย่าง “เรอัล มาดริด” “บาร์เซโลน่า” “บาเยิร์น มิวนิค” “แมนฯยูไนเต็ด” หรือ “ยูเวนตุส” มาให้ความสนใจและย้ายไปอยู่ด้วย เหตุผลที่บอกว่า “ย้ายไปเพื่อความสำเร็จ” คงฟังขึ้น
แต่นี่คือ “แมนฯซิตี้” สโมสรที่ถูก “ชีค มันซูร์” จากตะวันออกกลางเข้าครอบครองเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แถมประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของสโมสรในอดีตก็ไม่มทางเทียบบรรดาบิ๊กหลายๆทีมในยุโรปได้
ดังนั้นพอนักเตะต้องการย้ายมาที่นี้ คำว่าย้ายมามาเพราะ “เงิน” และ “ค่าเหนื่อยสูงๆ” จึงฟังมีน้ำหนักมากกว่า
ถ้าพูดกันตามตรง การย้ายทีมสามารถเปรียบเทียบกับการทำงานและเปลี่ยนงานย้ายบริษัทก็ว่าได้ คือย้ายงานจากบริษัทเดิมไปทำงานบริษัทที่ใหญ่กว่าเพื่อโอกาสเติบโตในสายงานที่ตัวเองเลือกและร่ำเรียนมา
หรือถ้าไม่ใช่ย้ายไปบริษัทที่ใหญ่กว่าก็คงย้ายไปเพราะบริษัทแห่งใหม่ให้เงินเดือนและค่าตอบแทนสูงกว่าที่เก่าไง
ดังนั้นก็อย่าแปลกใจเลยถ้าเกิดทีมแมนฯซิตี้ไปแข่งที่ไหนที่เคยมีนักเตะเก่าของตัวเองอยู่แล้วถูกแฟนบอลโห่ไล่และตีตราว่าเป็น “คนทรยศ”
เพราะอาชีพนักฟุตบอลต่างจากพนักงานออฟฟิศ ตรงที่นักฟุตบอลสามารถสร้างอารมณ์ร่วมและความรู้สึกผูกพันให้กับแฟนบอล “รักได้” ก็ “เกลียดได้”
จุดนี้แหละที่ไม่เหมือนพนักงานออฟฟิศครับ
sanook
Tags:
แหม ทีมผมนี้แชมกับรองแชมพรีเมียนะ เขียนซะฮาเลย
เขียนได้ทุเรศมาก
ผมcoppyมา 5555++
เขาเรียกไม่มีจรรยาบรรณครับพี่
คนเขียนอยากเขียนไรก็เขียนออกมา โดยไม่นึกถึงคนอ่าน
“เรอัล มาดริด” “บาร์เซโลน่า” “บาเยิร์น มิวนิค” “แมนฯยูไนเต็ด” หรือ “ยูเวนตุส” ประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่
ทีมอื่นห้ามสร้างประวัติศาสตร์ เหรอคับ
เขียนให้คนด่าแท้ๆ แมนยู สองปีมานี้มันยังตามก้นแมนซิอยู่เลย หงส์ ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีก วิลล่ากลายเป๋นทีมหนีตกชั้นมึงเขียนไม่ได้รู้อะไรเลยไอ้ห่าราก ย้ายมาแมนซิได้ลุ้นแชมป์ทุกปี
ใจเย็นๆครับนักเขียนปลายแถวก็แบบนี้คงเขียนกะระบายไม่ได้คิดถึงคนอ่านน่าจะเดารู้นะครับว่าเด็กหง์เขียน
© 2024 Created by thaiMCFC. Powered by