17 นัดผ่านไป ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแทบจะยกแชมป์ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากเก็บแต้มเกือบเต็ม หลุดแค่เสมอเอฟเวอร์ตัน พร้อมชนะรวด 15 นัดเป็นสถิติใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ
สถิติในรอบร้อยปีกับลีกสูงสุดที่ชนะรวด 15 นัดในซีซั่นเดียว
เหลืออีกสองจะครบ 19 คือครึ่งทางของฤดูกาล ถ้ายังไม่มีใครต้านทานพวกเขาได้อีก คงต้องปล่อยให้ถ้วยแชมป์นั้นไปตั้งที่เอติฮัด พลางๆก่อน
เอาละครับ....เรามาดูสองแง่มุมที่น่าสนใจเกมบิ๊กแมตช์ คู่นี้
สถิติแง่บวกเรือใบ.... ชัยชนะ 15 นัดรวดแม้เป็นอันดับหนึ่งในเกาะอังกฤษที่ชนะรวดยาวนานขนาดนี้ในลีกสูงสุด แต่ส่วนตัวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นถือว่าพื้นๆครับ เพราะเขาเคยทำสถิติชนะรวดแบบนี้มาแล้ว
16 นัดชนะรวดกับบาร์เซโลนา
19 นัดชนะรวดกับบาเยิร์น มิวนิค
ที่น่าทึ่งอีกเรื่องหนึ่งคือสถิติการยิงประตูทีมทอปซิสก์ของ กุน อเกรโร นั้นแน่นอนมาก เขายิงประตูในสัดส่วน 29% จาก 119 ลูกใน 52 นัดที่พบกับทีมชั่นนำของลีกเหล่านี้ เป็นตัวเลขที่สูงถึง 35 ลูกใน 52 เกม
สถิติแง่ลบของสเปอร์ส.... ไม่ชนะเกมเยือนมาตั้งแต่เดือนก.ย. หลังจากเชือดฮัดเดอร์สฟิลด์ และ 4 เกมล่าสุดเมื่อออกนอกบ้านได้มาแต้มเดียว
สถิติแง่บวกของสเปอร์ส.... เมาริซิโอ โปเชตติโน คือโค้ชที่มักเล่นดีกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สมัยคุมทีมเจอกันในลา ลีกา ทางด้าน โปเชตติโน คุมเอสปันญอล เปิดตัวเกมแรกที่เจอกันในบอลถ้วย เขาเสมอ 0-0
หนึ่งเดือนต่อมาเขาพาทีมเอสปันญอลบุกไปชนะบาร์ซ่าของเป๊ป ถึงคัมป์ นู 2-1 (21ก.พ.2009)
ส่วนสถิติในการเล่นนัดเยือนเมื่อต้องพบกับทีมทอป6 ของทีมสเปอร์สนั้นพบว่าไม่ดีเลย แพ้ 10 เสมอ 6 ชนะ 1 แต่ชัยชนะครั้งเดียวในการเป็นทีมเยือนเกิดขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนก.พ.ปี 2016
ความเคลื่อนไหวของเจ้าบ้าน จะเรียก เลอรอย ซาเน และ ไคล วอล์คเกอร์ กลับมาลงสนาม ส่วนที่เจ็บและไม่ได้เล่นนั้นมี แวงซองค์ กอมปะนี, จอห์น สโตน และ เบนจามิน มองดี้ นอกนั้นครบ
ทีมเยือน ไม่มี ดาวินสัน ซานเชส เซนเตอร์แบกที่แบนนัดที่ 3 ส่วน เดลเล อัลลี กับ มุสซา เดมเบเล ที่พักกลางสัปดาห์กลับมาเล่นอีกครั้ง และน่าจะหมุนนักเตะลงสนามด้วย แบกสองข้าง จะเป็น คีแรน ทริพเพียร์ กับ เบน เดวิส
“เรือใบสีฟ้า” จะเล่นแบบ 4-3–2-1 หลังสี่คน ฟาเบียน เดลป์, นิโกลาส ออตาเมนดี้ คู่กับ มองกาล่า และ ไคล วอล์คเกอร์ แดนกลาง เควิน เดอ บรอยน์ ยืนคู่กับ แฟร์นานดินโญ มี ดาบิด ซิลบา ตัวรุก ด้านข้างเป็น ซาเน และ ราฮีม สเตอริง ส่วนหน้าเป้า นัดนี้ กุน อเกรโร น่าจะลงสนามค่ำหน้าก่อนเลย
สเปอร์ส ปรับจากหลังสามมาเป๋นหลัง 4 หลังมีปัญหานักเตะเซนเตอร์แบกโดนแบนและเจ็บด้วย ทำให้ เอริก ดายเออร์ ถอนมายืนเซนเตอร์กับ แยน แฟร์ตองเก้น แบกสองข้างเกมนี้ น่าจะสลับเอา ทริพเพียร์ และ เดวิส กลับมา
กลางรับสองคน แฮร์รี วิงค์ กับ เดมเบเล ส่วนกลางรุกสามคนจัดเต็ม อัลลี, เอริกเซน และซอน หน้าเป้า เคน
เปิดหน้าแลกเลย ถ้าทำไม่ได้ แผนสองไม่มีใครสำรองที่ดีพออีกแล้ว
เกมนัดนี้ผมว่าวัดกันที่แดนกลาง ถ้าใครครองบอลพื้นที่ส่วนนี้ได้ หมายถึงโอกาสเข้าแดนสุดท้ายมีสูง โปเชตติโน ต้องการตัดเกมแดนกลาง ของเรือใบ ออก เพื่อไม่ให้ ตัวทำข้างหน้า ได้โอกาส
สเปอร์ส ไม่กลัวด้านข้างของเรือใบ แม้จัดจ้าน เพราะเชื่อมั่นฟูลแบกว่าเอาอยู่ แต่ตรงกลางที่ มีทั้ง เดอ บรอยน์, ซิลบา, แฟร์นานดินโย มักคุมเกมได้ดี เอามากทั้งรับและรุก ถ้าจัดการทำลายเกมส่วนนี้ได้
สเปอร์ส มีลุ้นโจมตีเรือใบเช่นกัน
ทุกคนคาดหวังด้วยศักยภาพเกมรุกของสเปอร์สที่มีทั้ง แฮร์รี เคน, เดลเล อัลลี, คริสเตียน เอริคเซน และ ซอน เฮือง มิน น่าจะจบสกอร์แล้วสร้างความยากลำบากให้เรือใบสีฟ้า
ขอเพียงแต่ถ้าพวกเขาคุมพื้นที่แดนกลางได้ ทุกอย่างน่าจะอยู่ในกำมือไก่ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมัย
เกมนี้แฟนบอลทั้งโลกต่างส่งใจเชียร์สเปอร์สกันทั้งนั้น เพื่อความสนุกในลีกที่อาจมีมากขึ้น หากแมนฯซิตี้ แพ้นัดแรก พร้อมทั้งบันทึกว่าพวกเขาคือทีมแรกที่หยุดสถิติไม่แพ้ใครของเรือใบได้
เหมือนเซ้นส์...บอกว่าสเปอร์ส ไม่น่าแพ้เรือใบสีฟ้า
ส่วนชนะได้มั้ยคงต้องลุ้นกัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////////
Cr.siamsport..com ติดตามข่าวสารได้ที่เวปหลักของประเทศไทย www.mcfc.in.th